• หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us

ความตายพิสดาร

ความตายพิสดาร

ตายเพราะแม่ไม่ตาย

นางจูเลีย คาร์สัน สาวใหญ่วัยกลางคนประชากรแห่งมหานครนิวยอร์กได้ทนทุกข์ทรมานด้วยโรคหัวใจที่รุมเร้าร่างกายอันบอบบางของเธอมานานปี จนกระทั่งอาการดังกล่าวกำเริบจนญาติๆและลูกสาวของเธอต้องหามเธอส่งโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิดแต่ดูเหมือนว่ากำลังใจจากคนรอบข้างไม่ได้ช่วยให้เธออยากจะมีชีวิตอยู่ต่อแม้แต่น้อยเธออ่อนแรงลงเรื่อยๆ จนเช้าวันหนึ่งอาการของเธอเข้าขั้นวิกฤตและตกบ่ายคณะแพทย์ของโรงพยาบาลที่ทำการรักษาเธอนั้นก็ได้ลงความเห็นเช่นเดียวกันหมดว่าเธอได้สิ้นลมเสียแล้ว

จูลี่ คาร์สันลูกสาวของเธอร่ำไห้ต่อการจากไปของมารดา และได้ประกอบพิธีศพให้อย่างเต็มกำลัง(ทรัพย์) ที่มีในกระเป๋า โลงงดงามอันเป็นบ้านหลังสุดท้ายถูกตกแต่งอย่างสมเกียรติและระหว่างการประกอบพิธีอยู่นั่นเอง จู่ๆนางจูเลียผู้ล่วงลับก็ลุกพรวดขึ้นจากโลง!!! ผลที่ตามมาน่ะหรือครับ…จูลี่ลูกสาวของเธอ… ช็อกตายล้มตึงอยู่หน้าโลงของแม่ชนิดซื้อมาไม่ได้เสียเปล่าเลยครับ พอแม่ฟื้น ลูกสาวก็ได้ใช้ต่อเลย ฮ่วย!

ตายเพราะเมียอยากตาย

นางเวอร่า เซอแมคสาวชาวกรุงปรากเป็นหนึ่งในสตรีที่บูชาความรักยิ่งชีวิตเธอมีสามีสุดที่รักที่อยู่กินกันมาหลายปี ซึ่งเธอเองก็ปฏิบัติต่อเขาอย่างเมียที่ดีรัก ซื่อสัตย์ แล้วก็ดูแลโดยหวังว่าจะอยู่กันไปจนแก่จนเฒ่ากระทั่งตายจากกันไปข้างหนึ่ง แต่วันดีคืนดีกระทาชายนายสามีของหล่อนก็ดั๊นนนนไม่รักดี แอบไปมีกิ๊กเล็กกิ๊กน้อยไว้นอกบ้านแล้วก็รู้สึกเอียนน้ำพริกถ้วยเก่าจนไม่สามารถจะทนกลืนต่อไปได้อีกจึงเอ่ยปากของแยกทางกับภรรยาผู้แสนดี แล้วมีหรือที่เวอร่าจะทานทนได้เมื่อสามีตัวแสบของเธอลากกระเป๋าเดินจากไป

เธอก็ตัดสินใจโดดพรวดจากห้องพักชั้น 3 หวังตายหนีสภาพผัวทิ้งเคราะห์หามยามซวยของผัวอีล่ะครับร่างของเธอพุ่งละลิ่วลงมาทับสามีที่กำลังเดินออกจากอาคารโดยบังเอิญเธอเองบาดเจ็บสาหัส แพทย์กรุงปรากช่วยเธอให้รอดชีวิตได้อย่างหวุดหวิด ส่วนสามีเธอฤทธิ์น้ำหนักภรรยาที่กระแทกลงไปเต็มๆ ตัว เดี้ยงคาที่ลงไปเซย์ฮัลโหลกับมัจจุราชเรียบร้อยครับ

ตายเพราะกดปิดนาฬิกาปลุก

ถ้าจะจัดอันดับผู้ชายที่ขี้เซาที่สุดในนอร์ทแคโรไลนา แล้วล่ะก็ ชาร์ลส์บาร์เกอร์ คงจะติดอันดับ 1ใน 10 เป็นแน่แท้ เรื่องราวนี้เกิดขึ้นในเดือนธันวาคมราวปี 1992 มันเป็นตอนเช้าที่แสนสบายเสียนี่กระไรชาร์ลส์กำลังอยู่ในห้วงนิทรารมณ์อันเป็นสุข แล้วนาฬิกาปลุกเจ้ากรรมมันก็ดังตี๊ดๆขึ้นมา ชาร์ลส์งัวเงียและป่ายมือคลำๆไปใต้หมอนของตัวเองโดยไม่ลืมตาเพื่อจะปิดเสียงนาฬิกานั่นแล้วก็พบวัตถุของแข็งที่ชายหนุ่มเข้าใจว่ามันเป็นนาฬิกา เขากดและเสี้ยววินาทีนั่นเอง… ปัง!!! สิ่งที่เขากดคือไกปืนสมิทเวสสัน .38 กระสุนทะลุหมอนเจาะกะโหลกชายหนุ่มขี้เซาคนนี้ แล้วเขาก็ได้หลับตลอดกาลสมใจ

ติดเตียงตาย

เคยดูหนังฝรั่งที่เตียงติดผนังเป็นอุปกรณ์ประกอบฉากมั้ยครับไอ้เตียงที่ว่านี่มันถูกประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมาสำหรับบ้านหรือห้องพักที่มีเนื้อที่จำกัดโดยเฉพาะเวลาจะใช้ก็เหนี่ยวเจ้าเตียงนี้ลงมาจากฝาผนังแล้วก็เอาขอเกี่ยวให้มันติดอยู่กับพื้นแล้วเราก็โดดขึ้นไปนอนเอกเขนกอย่างสบายอารมณ์ แล้วพอเช้าจะเก็บก็ปลดขอเจ้าเตียงนี่ก็จะดีดตัวขึ้นไปอยู่บนฝาผนังเหมือนเดิม…นึกออกแล้วใช่มั้ยครับ

คุณยายเอเดเลต มานยาสโก วัย 80 ปีก็เป็นอีกคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ที่ค่อนข้างจะแคบเธอจึงเลือกซื้อเจ้าเตียงติดผนังที่ว่ามาเป็นเตียงนอนตัวเองแต่ระหว่างที่คุณยายกำลังหลับอยู่ดีๆ ขอที่เกี่ยวเตียงกับพื้นมันเกิดชำรุดแล้วก็หลุดออกจากตัวเกี่ยว เตียงหนาหนักของคุณยายเลยดีดกลับไปติดผนังอย่างรวดเร็วคุณยายเคราะห์ร้ายถูกเตียงรวบเข้าไปฟาดกับผนังและเสียชีวิตอยู่ในกล่องเก็บเตียงนั่นเอง

 ตายเพราะโลภ

ในปี ค.ศ. 1977 จอห์น สมิธถูกรถยนต์ชนในนิวยอร์ก โชคดีที่เขาไม่ได้รับบาดเจ็บแต่เจ้าของรถแนะนำให้จอห์นแกล้งนอนสลบหน้ารถเพื่อจะได้รับเงินจากประกันความโลภบังตาซะจนมิด จอห์นเห็นดีเห็นงามตามไปด้วย แต่ขณะรอประกันสิบล้อดันขับมาชนท้าย รถเลยไถลทับตัวนายจอห์น ตายอนาถ (น่าสงสารดีมั้ยครับเนี่ย)

ตายเพราะ (โดนหาว่า) ตายไปแล้ว

อาร์มานโด คาสซาต้องปวดเศียรเวียนกะโหลกอย่างที่สุด เนื่องจากรายงานที่ผิดพลาดของรัฐซึ่งแจ้งหน่วยงานต่างๆว่าเขาตายในอุบัติเหตุเพลิงไหม้ทั้งที่เขายังนั่งทำ ตาปริบๆดูข่าวตัวเองตายได้อย่างปกติดี ร่างกายครบ 32 อยู่หน้าโทรทัศน์ด้วยความงงสุดขีดกับความผิดพลาดที่ไม่น่าจะผิดได้ซึ่งนั่นทำให้เขามีปัญหาเรื่องการสมัครงาน เรื่องภาษี การประกันสุขภาพการใช้สิทธิประกันสังคม การขอหลักฐานเอกสารมากมายด้วยความเครียดเรื่องที่ถูกหาว่าตาย เขาจึงตัดสินใจกระโดดตึกตายในปี ค.ศ. 1991… ตายซะให้หมดเรื่องหมดราว

ตายเพราะมุง

เรื่องสุดท้ายย้ายมาอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลบ้านเราเท่าไหร่นักฝูงญวนมุงในเมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม มาออกันเต็มสะพานเพื่อลุ้นดูเหตุการณ์หญิงเวียดนามนางหนึ่งกำลังจะกระโดดน้ำตายเมื่อญวนมุงมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆสะพานไม้ที่หญิงสาวคิดสั้นยืนอยู่และเตรียมจะกระโดดก็หักเป๊าะ!เพราะรับน้ำหนักไม่ไหว… ญวนมุงตกน้ำตาย 9 คน ส่วนหญิงต้นเหตุปลอดภัยดี…เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ก่อนจะมุง นอกจากจะต้องดูตาม้าตาเรือแล้วควรจะดูสะพานด้วย… นะจ๊ะ

เกี่ยวกับวัดฯ

  • ประวัติอาสนวิหาร
  • แม่พระอัสสัมชัญ
  • บรรณฐาน
  • สถาปัตยกรรม
  • กระจกสี
  • ภาษาลาตินในวัด

บริการต่างๆ

  • ล้างบาปทารก / Baptisms
  • แต่งงาน / Wedding
  • การขออนุญาตถ่ายภาพ

สารวัดย้อนหลัง

  • บทสนทนาจากเจ้าอาวาส
  • คิดสักนิด...สะกิดใจ...
  • ปลัดแก่ ซอย40
  • ปี 2012

บุคลากร/องค์กรต่างๆในวัด

  • พระสงฆ์
  • สำนักงานวัด
  • สภาภิบาล
  • นักขับร้อง
  • สโมสรเยาวชน

ลิงค์คาทอลิก

  • สภาสังฆราชคาทอลิกประเทศไทย
  • อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
  • หอจดหมายเหตุ อัครสังฆมณฑลฯ
  • สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย
Facebook-f Youtube