พระเจ้าผู้สูงส่งแต่ใกล้ชิด
บทอ่านที่ 1 จากหนังสือประกาศกอิสยาห์วันนี้ (อสย 6:1-2ก,3-8) บรรยายถึงกระแสเรียกของประกาศกอิสยาห์
พระเจ้าทรงเรียกอิสยาห์ให้ไปปฏิบัติพันธกิจของพระองค์ เป็นการเรียกโดยปรากฏการณ์ที่เราเรียกว่านิมิต
ในนิมิตองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทำให้อิสยาห์มองเห็นความยิ่งใหญ่ของพระองค์ จนทำให้อิสยาห์เองตระหนกตกใจแทบสิ้นสติ และกับร้องออกมาจนเสียงหลงว่า “วิบัติจงเกิดแก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าพินาศแล้ว เพราะข้าพเจ้าเป็นคนริมฝีปากมีมลทิน (เป็นคนบาป) อาศัยอยู่ในหมู่ชนชาติริมฝีปากมีมลทิน (ชนชาติที่เป็นคนบาป)………..”
พระเจ้า กับ บาป อยู่ด้วยกันไม่ได้ เพราะบาปจะต้องถูกบดขยี้ และถูกเผาผลาญให้วอดวาย ด้วยการประทับอยู่ขององค์พระผู้เป็นเจ้า
พวกยิวรู้ และ ตระหนักในเรื่องนี้เป็นอย่างดีพวกเขารู้ว่าวันใดที่เขาเห็นพระเจ้า เขาจะต้องตาย ดังนั้นเมื่อรู้ตัวว่าเมื่อใดที่พวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับพระเจ้า พวกเขาจะต้องก้มหน้า ก้มตาไม่มองดูพระองค์ หรือจะต้องใช้ผ้าคลุมหน้าให้มิดชิด
องค์พระผู้เป็นเจ้าสำหรับชาวยิว คือพระผู้ทรงความยิ่งใหญ่สูงสุด เหนือกว่าสิ่งใด และเหนือกว่าพระเจ้า พระองค์ใดๆ ทรงอำนาจเหนือสรรพสิ่ง และ ทรงมหิทธานุภาพเหนือสิ่งใด
ชาวยิวสมัยโบราณเรียกขานพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า โดยเรียกพระองค์ว่า “พระเจ้าของอับราฮัม” ซึ่งหมายถึง พระเจ้าของบรรพบุรุษของอิสราแอลผู้ทรงแสดงพระองค์แก่ อับราฮัม อิสอัค และยาโคบ แต่พอมาถึงเรื่องของชื่อ มีความสลับซับซ้อน ในเรื่องนี้หลายประการ แต่เราจะไม่สาธยายรายละเอียดแบบลงลึก ณ ที่นี้ แต่จะให้รับรู้พอสังเขปอย่างเช่น เวลาที่พระองค์ทรงบอกชื่อของพระองค์แก่โมเสส พระองค์จะเรียกตัวของพระองค์เองว่า “พระยาเวห์” แต่เมื่อทรงปรากฏพระองค์แก่ อับราฮัม อิสอัค และยาโคบ พระองค์จะทรงใช้อีกชื่อหนึ่งคือ “พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์” (EL Shaddaiอ่านว่า เอลชัดได แปลว่า พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ เอลชัดได ยังแปลได้อีกว่า พระเจ้าแห่งภูเขา) ดูอพยพ บทที่ 6 ข้อ 2-3 พระเจ้าตรัสแก่โมเสสอีกว่า “เราคือยาห์เวห์” เราปรากฏแก่อับราฮัม แก่อิสอัค และแก่ยาโคบ ด้วยนามว่า พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์”
ชื่อของพระเจ้ายังมีเรียกอีกหลายชื่อในพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม ดังจะยกมาให้ดูเป็นตัวอย่างเล่นๆเช่น
EL Elyon อ่านว่า เอลเอลีโอน แปลว่า พระเจ้าผู้สูงสุด (ดู ปฐมกาล 14:22)
EL Olam อ่านว่า เอลโอลาม แปลว่า พระเจ้าองค์นิรันดร์ (ดู ปฐมกาล 21:33)
EL Roi อ่านว่า เอลโรอี แปลว่า พระเจ้าผู้ทรงให้เห็น (ดู ปฐมกาล 16:13)
EL Bethel อ่านว่า เอลเบธเอล แปลว่า พระเจ้าแห่งเบธแอล (ดู ปฐมกาล 31:13)
ตรงนี้ขอเพิ่มคำฮีบรูที่มักจะขึ้นต้นด้วยคำว่า Bethและคำที่เรากำลังพูดถึงตอนนี้คือคำ Bethel เรายังคุ้นเคยกับคำอื่นๆอีกหลายคำเช่นคำว่า Beth-Lehem/ เบธเลแฮม หรือ Bethesda// เบธไซดา หรือเบเธสดา คำ Beth แปลว่า บ้าน ดังนั้น Bethlehem แปลว่า บ้านขนมปัง Bethel แปลว่า บ้านพระเจ้า ส่วน Bethesdaแปลว่าบ้านแห่งน้ำล้น หรือ บ้านแห่งความเมตตา
ชื่อพระเจ้าชื่อสุดท้ายที่จะพูดถึงคือ
EL Berith อ่านว่า เอลเบริท แปลว่า พระเจ้าแห่งพันธสัญญา (ดู วินิจฉัย 9:46) ฯลฯ
ในความเข้าใจของพวกยิว พระเจ้าทรงยิ่งใหญ่ สูงส่งและอยู่ห่างไกลทรงเป็นผู้อยู่สูงเกินเอื้อม และยังเปี่ยมไปด้วยฤทธิ์ อำนาจอย่างน่าเกรงขาม แต่ในความเป็นจริง พระเจ้าทรงมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับบรรพบุรุษ พระองค์มิได้ประทับอยู่กับที่นมัสการที่มนุษย์ได้สร้างไว้เท่านั้น แต่พระองค์ยังสถิตอยู่กับบุคคล กับครอบครัวของอับราอัม ทรงติดต่ออย่างใกล้ชิดกับพวกเขา ทรงอยู่กับพวกเขา ให้ความช่วยเหลือ ทรงนำในการเดินทางและทรงอยู่ในเหตุการณ์ต่างๆของชีวิตอยู่ตลอดเวลา ดังที่เราได้อ่านพบในหนังสือพันธสัญญาเก่า
พระเจ้าทรงมาอยู่กับมนุษย์ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นในการบังเกิดเป็นมนุษย์ขององค์พระบุตรและในพระวรสารวันนี้เราเห็นชัดเจนมากที่สุด พระองค์ทรงอยู่กับบรรดาอัครสาวกทั้ง 12 ในการทำมาหากิน ในการจับปลา ทรงแนะนำพวกเขา “จงแล่นเรือออกไปที่ลึกและหย่อนอวนลงจับปลา” แล้วพวกเขาก็ได้ปลาจนเต็ม 2 ลำเรือ จนเรือเกือบจม
นี่คือพระเจ้าของเรา “ทรงความยิ่งใหญ่ สูงส่ง แต่ทรงอยู่ใกล้ชิดกับพวกเรา” เรารู้สึกอย่างนี้บ้างไหม? เราเคยสัมผัสกับความใกล้ชิดของพระองค์บ้างไหม? เราเคยรู้สึกว่าพระองค์ทรงประคับประคองเราในทุกเหตุการณ์ ทรงจัดทุกอย่าง อย่างเหมาะสมสำหรับชีวิตของเรา เราเคยรู้สึกอย่างนี้บ้างไหม? หรือรู้สึกเฉยๆ ว่างเปล่า ไม่รู้ว่าพระองค์อยู่ไหน?