สวัสดีครับ…สัปดาห์ละครั้ง 26 พ.ค. 2013
“วัดอัสสัมชัญบางรัก”เป็นที่รู้จักมักคุ้นกันดีว่าเป็นอาสนวิหารของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯตั้งอยู่ที่ซอยโอเรียนเต็ลมีอายุเกือบ100 ปีแล้วเป็นวัดที่สวยงามด้วยศิลปะแบบวัดในยุโรปในยุคต้นศตวรรษที่15 (ยุคRenaissance) และมีการนำเอารูปลักษณ์ศิลปะโรมันเข้ามาผสมผสานด้วย
“โรงเรียนอัสสัมชัญบางรัก”เป็นอีกชื่อหนึ่งที่คุ้นหูอันหมายถึงโรงเรียนอัสสัมชัญชายซึ่งมีอายุมายาวนานนับร้อยปีเช่นกัน
“ตลาดบางรัก”เป็นชื่อตลาดเก่าแก่ของกรุงเทพฯที่มีสิ่งของแทบทุกอย่างขายโดยเฉพาะอาหารทั้งหวานคาวรวมทั้งผลไม้ดอกไม้ฯลฯซึ่งปัจจุบันก็ยังคงมีเสน่ห์มีผู้คนมาจับจ่ายข้าวของกันมากมาย
วันนี้อยากจะพูดถึง“บางรัก”ซึ่งเป็นแขวง(อำเภอ) หนึ่งของกรุงเทพฯ ทำไมชื่อบางรักเชื่อว่าหลายท่านคงอยากทราบ
นัยว่าคำว่าบางถ้าเป็นคำนามหมายถึงถิ่นที่มีสิ่งใดสิ่งหนึ่งรวมกันอยู่มากๆเช่นบางจากเขาก็มักจะบอกว่ามีต้นจากมากบางบัวก็คือถิ่นที่มีบัวขึ้นอยู่เยอะๆฯลฯ
สำหรับ“บางรัก”มีการสันนิษฐานกันหลายอย่างใครจะเชื่อตำราไหนก็แล้วแต่แต่ละคนไม่มีผิดมีถูกดังมีการอธิบายไว้ดังนี้
1. เข้าใจว่าเมื่อก่อนมีคลองเล็กๆไหลผ่านบริเวณนี้และในคลองนี้เองมีการพบท่อนซุงไม้รักขนาดใหญ่ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมีคนมาขอโชคขอลาภพูดเข้าใจง่ายๆคือขอหวยกันตามประเพณีจึงเรียกบริเวณนี้ว่า“บางรัก”
2. อีกตำราหนึ่งก็บอกว่าบริเวณริมฝั่งเจ้าพระยาแถบนี้มีตันรักขึ้นอยู่มากมายจึงเป็นที่มาของชื่อ“บางรัก”
3. อีกตำราหนึ่งก็บอกว่าบริเวณนี้เองสมัยก่อนมีโรงหมอหรือโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงให้การดูแลรักษาผู้คนในละแวกนี้และบริเวณใกล้เคียงจึงเป็นที่มาของชื่ออำเภอบางรักษ์ภายหลังจึงเหลือเพียงคำว่า“บางรัก”
4. บางที่มาก็บอกว่าบริเวณนี้มีคลองบางขวางล่างใต้ไหลผ่านมีผู้คนอยู่กันมากมายหลายหลากทั้งกะลาสีกรรมกรจับกังมีการทะเลาะเบาะแว้งบางครั้งถึงขั้นเข่นฆ่ากันก็มีชาวบ้านจึงขอใช้ชื่อใหม่ให้เป็นมงคลว่า“บางรัก”จะได้ไม่มีการขัดขวางทะเลาะกันอีก
สำหรับเราที่เป็นคริสตชนจะสร้างตำราขึ้นใหม่ว่าที่มาของชื่อ“บางรัก”นี้มาจากเรามีวัดเก่าแก่อยู่ถึง2 แห่งคือวัดกาลหว่าร์และวัดอัสสัมชัญและบทบัญญัติสำคัญของเราคือ“บทบัญญัติแห่งความรัก”เลยเป็นที่มาของคำว่า“บางรัก”ได้มั้ยเนี่ย!! และถ้าได้ คำถามสุดท้ายของครั้งนี้ก็คือ“เรายังรักกันดีอยู่มั้ย?”…สวัสดีครับ