สวัสดีครับ
สัปดาห์ละครั้งอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม 2556
เชื่อว่าทุกท่านเคยเดินทางโดยรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นรถส่วนตัวหรือรถประจำทางและมีบางครั้งบางท่านก็จะมีประสบการณ์เคยเห็นอุบัติเหตุคนถูกรถชนนอนแน่นิ่งอยู่ถ้ามีผ้าหรือกระดาษหนังสือพิมพ์ปิดไว้แสดงว่าเขาตายแล้ว… ถามว่าเรารู้สึกอย่างไร…คิดว่าคงจะมีความคิดความรู้สึกคล้ายๆกันคือตกใจสงสารและอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบางครั้งจึงชะลอรถ-จอดรถลงไปดู… ผลคือทำให้รถติดและมีไทยมุงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ… ร้อนถึงหน่วยกู้ภัยเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องช่วยเคลียร์ให้เร็วที่สุด… และเหตุการณ์ต่างๆก็ผ่านไปจึงอยากถามว่ามีท่านใดบ้างที่เห็นสภาพเช่นนั้นแล้วสวดภาวนาในใจอุทิศให้วิญญาณของผู้ตาย?…
มีอีกเหตุการณ์หนึ่งที่เราจะพบกันบ่อยๆคือเห็นคนอยากจนขอทานหรือคนวิกลจริตแต่งตัวมอมแมมหอบหิ้วสัมภาระอีลุงตุงนังอยู่ข้างถนนหรือบางครั้งอยู่บนฟุตบาทฯลฯแน่นอนเขายังไม่ตายยังมีชีวิตอยู่… คำถามเดียวกันคือ“เรารู้สึกอย่างไร?” คงจะมีความคิดหลายหลากเช่นกันบางคนอาจคิดว่าทำไมเจ้าหน้าที่ไม่มาดูแลพาไปสถานสงเคราะห์บางคนก็รู้สึกสงสารและก็ผ่านเลยไป…
จำได้ว่ามีอยู่ครั้งหนึ่งผมขับรถฟังจส.100 มีสุภาพสตรีท่านหนึ่งอายุราวๆ40 ปีโทรศัพท์แจ้งจส.100 ว่าพบเห็นชายชราคนหนึ่งมีลักษณะและสภาพเช่นที่กล่าวข้างต้นจึงเดินไปพูดคุยปรากฏว่าคุยกันไม่ได้เพราะชายชราคนนั้นเป็นใบ้แต่มีสติดีจึงสื่อสารกันด้วยการเขียนปรากฏว่าพอรู้เรื่องชายชราคนนั้นเดินทางมาจากต่างจังหวัดตั้งแต่ประมาณเดือนเมษายนเพื่อมาหาหมอฉายแสงเพราะเป็นมะเร็งและไม่มีญาติพี่น้องเลยอาศัยบัตรทองที่มีอยู่และคงจะขอทานจากผู้ใจบุญนั่นเองอาศัยหลับนอนตามที่สาธารณะทั่วๆไป…
หญิงคนนั้นเป็นธุระจัดแจงโทรติดต่อจส.100 ให้ช่วยประสานกับเจ้าหน้าที่และใช้เวลาอยู่2-3 ชั่วโมงอยู่เป็นเพื่อนชายคนนั้นจนประมาณ3 ทุ่มจึงบอกให้ชายคนนั้นรออยู่เพราะกำลังมีคนมารับส่วนตัวเองรีบกลับบ้านเพราะดึกแล้วหลังจากนั้นจส.100 ก็โทรกลับแจ้งให้ทราบว่ามีเจ้าหน้าที่มาดำเนินการเรียบร้อยแล้ว…
นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในกรุงเทพมหานครของเรา… เป็นเรื่องราวเดียวกันกับชาวสะมาเรีย… ที่กล่าวถึงในพระวรสารวันนี้แน่นอนหญิงคนนี้ไม่ได้เป็นคริสตชน… ไม่ได้รู้จักพระวาจาของพระเยซูเจ้าตอนนี้… แต่สิ่งที่หญิงคนนี้มีคือ“ความรัก” ที่แท้จริงและมิใช่เป็นเพียงแค่ความรู้สึกที่อยู่ในใจเท่านั้นแต่มันเป็นความรักที่ออกมาเห็นเด่นชัดในกิจการที่เธอทำ… ทำด้วยจริงใจทำด้วยธรรมชาติชีวิตที่เธอมีมิได้เสแสร้งมิได้ต้องการชื่อเสียงเกียรติยศไม่ต้องการคำชมยกย่องสรรเสริญ
จากวันนั้นที่ได้ยินเธอพูดคุยกับจส.100 คิดว่าเธอมิใช่คนร่ำรวยมิใช่คุณหญิงคุณนายเธอน่าจะเป็นแม่บ้านธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้นเอง…
ผมไม่ทราบว่าจะจบอย่างไรดี… จึงขอให้ท่านทั้งหลายคิดหาบทสรุปเอาเองดีกว่า… สวัสดีครับ.