สวัสดีครับ
สัปดาห์ละครั้ง อาทิตย์ที่ 29 ก.ย. 2013
สัปดาห์ที่แล้วชาวไทยได้ปลื้มลดดีกรีความเครียดลงไปได้พอสมควรกับชัยชนะแชมป์เอเชียของทีมวอลเลย์บอลสาวไทยที่ปราบทุกชาติในเอเชียโดยเฉพาะจีนและญี่ปุ่น…
ท่ามกลางความชื่นชมยินดีนั้นเองผมได้ยินนักข่าวบางคนให้เหตุผลของชัยชนะครั้งนี้และมีอยู่คำหนึ่งที่บอกว่า“องค์ลง”ทำให้นึกถึงการเข้าเจ้าเข้าทรงของเจ้าพ่อเจ้าแม่ทั้งหลายและทำให้นึกภาพถึงบรรดา“ม้าทรง”ของเจ้าต่างๆตอนเทศกาลกินเจของคนจีนที่ภูเก็ตหรือแม้แต่การแห่เจ้าแม่ของพี่น้องพราหมณ์-ฮินดูก็ตามเพราะเขาเรียกลักษณะเช่นนั้นว่า“องค์ลง” เหมือนกัน
ความหมายของ“องค์ลง”จึงหมายถึงความสามารถที่กระทำในสิ่งที่ไม่น่าจะเป็นได้ให้กลายเป็นความจริงทำนอง“เหลือเชื่อ”นั้นเองและสาเหตุที่ทำได้ดังนั้นก็เพราะมีเทพเจ้ามาช่วยหรือจะบอกว่า“เทพฯเข้าสิง” ก็ได้…
อย่างไรก็ตามผมว่าทีมวอลเลย์บอลสาวไทยคงมิใช่อาศัยเทพเจ้าองค์ไหนแต่สำคัญที่สุดคือความเพียรพยายามอดทนซ้อมกันมาอย่างหนักอาศัยทั้งตนเองความสามารถของโค้ชทีมงานที่ทำหน้าที่อย่างเต็มที่และสำคัญที่สุดคือกำลังใจจากเสียงเชียร์ในสนามและทางบ้านเป็นล้านๆคนเรียกว่า“ทุกคน”รวมเป็นหนึ่งเดียวกันจริงๆไม่แยกสีแยกส่วนยากดีมีจนเรียกว่า“ทุ่มกันสุดตัว”ถ้าจะบอกว่า“องค์ลง”ก็ต้องบอกว่า“ทุกองค์”ลงมาหมดเลยก็ได้
เมื่อคิดดังนี้ทำให้ผมคิดถึงชีวิตของเราเหมือนกันว่าไอ้ที่เรารู้สึกว่าชีวิตมันเหนื่อยหน่ายเหลือเกินมีแต่ความทุกข์มีแต่อุปสรรคและปัญหาหาความสงบสุขไม่ค่อยจะเจอ… จึงอยากจะให้“องค์ลง”ที่เราบ้างเพื่อเราจะได้มีกำลังในการฟันฝ่ากับอุปสรรคและปัญหาต่างๆได้เอาชนะความทุกข์ยากลำบากได้สักที…
ครั้นคิดลงไปให้ลึกๆก็พบว่าความจริงถ้าเราเปิดใจเปิดชีวิตให้“องค์ลง”ด้วยความเชื่อมั่นในความรักของพระผู้เป็นเจ้ามีความศรัทธาในพระองค์จริงๆพระองค์จะทรงอยู่กับเราเสมอ… พระองค์ทรงลงมาอยู่กับเราตลอดเวลาเพียงแต่ว่าเราต่างหากที่ปิดประตูติดป้าย“ห้ามเข้า”ไว้หรือเปล่า… สวัสดีครับ