ขอโปรดทวีความเชื่อ…ให้เราเป็นผู้รับใช้ที่ไร้ประโยชน์…ของพระองค์
“โปรดทวีความเชื่อให้พวกเราเถิด” (ลก17:5)
“น้ำมาแล้ว…น้ำมาแล้ว!!” หลายต่อหลายจังหวัด-ตำบลทั้งในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้รับผลจากภัยธรรมชาติอุทกภัยกันแล้วอีกทั้งในจังหวัดปราจีนบุรี ได้มีโอกาสดูข่าวเรื่อยมาตามกระแสน้ำท่วมทั้งในโลกและในประเทศไทย เพียงแค่น้ำท่วมไม่ถึงเดือนแต่มีพี่น้องมากกว่า800,000 ครัวเรือน(แปดแสนครอบครัว) จมอยู่ในเมืองบาดาลข้าวของในบ้านล้วนเสียหาย เอาแค่เสียหายกันบ้านละ2,000.- บาทรวมกันแล้วเบาะๆก็เป็นเงินกว่าพันหกร้อยล้านบาทเข้าไปแล้ว นี่คิดแบบเบาที่สุดแล้วและแค่หนึ่งในห้าหรือหกส่วนจากที่เคยเกิดขึ้นเป็นต้นในช่วงน้ำท่วมใหญ่ปี2554 ที่ผ่านมา… “โปรดทวีความเชื่อให้พวกเราเถิด…พระเจ้าข้า”
“พายุหวู่ติ๊บมา… ฝนตกหนักอีกแล้ว” อดนึกถึงปีที่น้ำท่วมใหญ่นั้น เป็นช่วงเวลาที่อยู่ช่วยงานในสังฆมณฑลนครสวรรค์และอยู่ที่อาสนวิหารนักบุญอันนานครสวรรค์ น้ำพักเข้ามาอย่างกับเราเป็นชาวบ้านชาวเมืองและข้าศึกศัตรูทางทหารตีกำแพงเมืองของเราแตกถูกข้าศึกบุกตะลุยตุบตับๆตึ้มตั้มๆภายในชั่วข้ามคืนเราพ่ายแพ้ราบคาบ น้ำกระแทกกระทั้นและท่วมอยู่สองอาทิตย์กว่าๆ ทุกครั้งที่ฝนตกหนักจิตใจของเราก็ระส่ำระส่าย… น้ำจะขึ้นอีกเท่าไหร่นี่จะยกของขึ้นไปที่ไหนได้อีกจะทำอย่างไรกันต่อไปดี… ทุก5ทุ่มที่ได้ดูร่ายงายข่าวเป็นต้นจากช่องสามถึงสถานการณ์น้ำท่วมที่ต่างๆก็ยิ่งอึดอัดทุกใจ เหตุไม่รู้จะหาทางออกอย่างไรได้… “โปรดทวีความเชื่อให้พวกเราเถิด…พระเจ้าข้า”
“โปรดทวีความเชื่อให้พวกเราเถิด” (ลก17:5)
“น้ำจะท่วมสูงไหม??” ที่ตำบลหัวเวียงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นต้นแบบแบบอย่างที่ดีให้กับเราที่กำลัง ประสบภัยทางธรรมชาติร่วมกันนี้ แน่นอนเวลาน้ำมามันไม่เลือกว่าจะเข้าบ้านคนดีคนเลวคนจนคนรวยผู้หญิงผู้ชายมันจะดาหน้าเข้าไปท่วมมิดทุกทิศทุกทางที่ผ่านเข้าไปได้ ดังนั้นสาเหตุหนึ่งที่น้ำท่วมมิดสูงเหลือเกินสำหรับบางที่ ก็สืบเนื่องจากบางจุดบางที่ที่มีความพร้อมมีเงินทองมากก็ทำคันสูงปิดถมให้สูงเข้าไว้รวมทั้งปิด-เปลี่ยนทางน้ำ น้ำและความทุกข์เข็นก็ถูกกันและพาไปสู่พี่น้องที่ด้อยโอกาสกว่าอย่างเลี่ยงไม่ได้ร้องไม่ออก
คุณยายท่านหนึ่งจากข่าวบอกว่า”เมื่อคันดินแตกน้ำก็พัดเข้าสู่บ้านเต็มๆ แต่ฉันก็บอกให้เจ้าหน้าที่มาช่วยรื้อฝาด้านล่างออกเพื่อให้น้ำพัดผ่านไป มันผ่านมาแล้วก็จะผ่านไป ไม่อย่างนั้นบ้านจะพังเพราะแรงน้ำ” รักษาส่วนมากไว้ก่อนเพื่อเมื่อจบเรื่องราวแล้ว… เราจะได้อยู่ได้ต่อไป
ที่ตำบลหัวเวียงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ชาวบ้านบางส่วนที่อยู่นอกตัวเทศบาลยอมให้ทำคันดินถาวรกั้นน้ำมิให้น้ำเข้าท่วมตัวตลาด จริงอยู่ที่บ้านของเขาจะเสียหายบ้างอยู่อย่างลำบากบ้างทั้งๆที่ส่วนที่อยู่ในคันดินถาวรจะแห้งและปลอดภัย แต่ในความเป็นจริงแล้วเมื่อถนนแห้งตัวเขาเองที่ได้รับความเดือดร้อนก็ยังสามารถออกมาใช้ถนนที่แห้งไปทำงานได้อีกทั้งผู้ที่ปลอดภัยก็คอยดูแลให้ความช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นที่พักห้องน้ำยารักษาโรคหรือแม้แต่ผู้สูงอายุหรือเด็กน้อยที่ต้องได้รับความช่วยเหลือ เราเรียกว่า”ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน” “ฉันเป็นผู้รับใช้ที่ไร้ประโยชน์ เพราะฉันทำตามหน้าที่ที่ต้องทำเท่านั้น” (ลก17:10)
ยังคงคิดถึงชาวบ้านพี่น้องคริสตชนที่ชุมชนอาสนวิหารนักบุญอันนานครสวรรค์เสมอ เป็นต้นยามที่ต้องร่วมเผชิญชะตากรรมร่วมกันยามน้ำใหญ่บุกพังเมืองนครสวรรค์ จำได้ว่าณเวลานั้นนึกในใจเสมอว่าต้องมีผู้ที่ดูแลและตัดสินใจอยู่ตรงกลาง… ซึ่งเราคิดถึงคุณพ่อเจ้าอาวาสที่ต้องลำบากห้ามหนีหายไปทางไหนเพื่อรับเรื่องที่แจ้งเข้ามาทั้งการขอความช่วยเหลือหรือส่งความช่วยเหลือเข้ามาอีกทั้งตัดสินใจเรื่องสำคัญๆ
ส่วนเราเป็นผู้ช่วยฯ ก็จำเป็นต้องทำหน้าที่ผู้ช่วยให้สุดความสามารถ คอยเป็นหัวหอกออกปฏิบัติภารกิจที่เสาหลักอาจไม่สะดวกที่จะทิ้งฐานออกและไปทุกที่คอยช่วยเหลือ เราจึงออกไป เหมือนดังที่พระอาจารย์เจ้าบอกกับอัครสาวก”จงออกไปที่ลึก”
“ฉันเป็นผู้รับใช้ที่ไร้ประโยชน์ เพราะฉันทำตามหน้าที่ที่ต้องทำเท่านั้น” (ลก17:10)
ผลที่ได้รับกลับมาช่างสุขใจจริง เราทุกคนทั้งทางวัดและพี่น้องสัตบุรุษ… เราผ่านพ้นวิกฤตต่างๆมาได้อย่างมีความสุข และมันจะเป็นแบบอย่างที่มั่นคงมั่นใจจากการร่วมใจรับภัยต่างๆที่ผ่านมาทั้งหมดได้…