• หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us

2014-04-27 การกลับคืนชีพของคริสตชน คือการออกจากอุโมงค์ฝังศพส่วนตัว

การกลับคืนชีพของคริสตชน คือการออกจากอุโมงค์ฝังศพส่วนตัว

 

สัญลักษณ์ของการกลับคืนชีพ ของพระเยซูเจ้าก็คือ ทุกคนที่ไปที่หลุมศพและไม่พบพระองค์ แต่กลับไปพบพระองค์ในสถานที่ต่างๆ ต่างกรรมต่างวาระ

มาระโก บทที่ 16 ข้อ 9-15 บันทึกไว้ว่า พระองค์แสดงพระองค์แก่มารีย์ชาวมักดาลาเป็นคนแรก

จากนั้นพระองค์แสดงพระองค์แก่ศิษย์สองคนที่กำลังเดินทางไปชนบท

ที่สุดพระองค์ก็แสดงพระองค์แก่สาวก 11 คน ขณะกำลังกินอาหาร

พระเยซูเจ้าทรงกลับคืนพระชนม์ชีพ โดยการเสด็จออกจากอุโมงค์ฝังพระศพ และทรงเป็นอิสระจากอุโมงค์ฝังศพแห่งนั้น และในการแสดงพระองค์แก่บุคคลทั้งหลาย พระองค์ก็ทรงกระทำแค่การปรากฏพระองค์ให้เห็น และพระวรสารวันนี้บันทึกว่า ประตูห้องที่บรรดาศิษย์กำลังชุมนุมกัน ปิดอยู่ แต่พระองค์ทรงเสด็จ เข้ามาโดยที่ประตูยังคงปิดอยู่ พระเยซูเจ้าทรงเป็นอิสระจากความจำกัดของเวลาและสถานที่ (space and time)

การกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้าต้องสอนให้เราคริสตชนรู้จักกลับคืนชีพในลักษณะเดียวกัน คือ ถ้าคริสตชนกลับคืนชีพแท้จริง ชีวิตคริสตชนต้องเป็นอิสระ เป็นต้นเป็นอิสระจาอุโมงค์ฝังศพ และ เป็นอิสระจากความจำกัดของเวลาและสถานที่

อุโมงค์ฝังศพของเราแต่ละคนก็คือ ตัวตนและชีวิตของเราเอง

ตัวตนและชีวิตของเราแต่ละคนที่เต็มไปด้วย 2 สิ่งสำคัญคือ

ความอยาก   และ

ความไม่อยาก

ความอยากและความไม่อยาก เกาะกุมชีวิตของเรา แต่ละคน นอกนั้นมันยังจำกัดชีวิตของเราให้อยู่กับความอยากและความไม่อยากนั้น จนกระดิกกระเดี้ยไปไหนไม่ได้ ความอยากและความไม่อยากดังกล่าว ถูกบงการด้วยน้ำใจของตัวเราเอง และน้ำใจที่ไม่เป็นอิสระทำให้ชีวิตกลายเป็นอัมพาต

เราอยากเด่น อยากดัง

เราอยากมีชื่อเสียเป็นที่นับหน้าถือตามของคนทั่วไป

เราอยากมีเงินทองใช้อย่างไม่ขาดมือ

เราอยากมีชีวิตที่สะดวกสบาย

เราอยากมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักแก่บุคคลทั่วไป

เราอยากให้ทุกคนเคารพนับถือเรา

ฯลฯ

เราไม่อยากให้ใครดูถูกเหยียดหยามเรา

เราไม่อยากจน และไม่อยากสูญเสียสิ่งที่เราเป็นเจ้าของ

เราไม่อยากให้ใครหมิ่นประมาทเรา

เราไม่อยากเผชิญกับความเจ็บปวดเดือดร้อนทั้งฝ่ายกายและฝ่ายจิต

และเราก็ไม่อยากสิ่งอื่นๆ อีกหลายร้อยหลายพันไม่อยาก

และเวลาที่มนุษย์มีความอยาก หรือ ความไม่อยาก เราก็จะดิ้น เพื่อให้ได้มาในสิ่งที่อยาก หรือ ให้ทุกหลุดพ้นจากสิ่งที่ไม่อยากนั้น

ความอยากและความไม่อยากนี้แผลงฤทธิ์มาแล้วโดยทำให้ อาดัม และเอวา รวมทั้งมนุษยชาติประสบหายนะ

มนุษย์เราถูก ฝังลึก ลงไปในความอยากและความไม่อยากนี้ ประหนึ่ง หลุมฝังศพ และถ้าเราดิ้นไม่หลุดจากความอยากและความไม่อยากนี้ หลุมศพของเราจะยิ่งลึกลงไปเรื่อยๆ

พระเยซูเจ้าทรงมีประสบการณ์ความอยากและความไม่อยากเช่นเดียวกับเราทุกคน แต่พระองค์ก็ทรงเอาชนะความอยากและความไม่อยากนี้ได้ในที่สุด

“พระบิดาเจ้าข้า ถ้าเป็นไปได้ (อยาก) ขอให้ถ้วยนี้พ้นข้าพเจ้าไปเถิด (ไม่อยากรับ) ถ้าเป็นไปไม่ได้ ก็ขออย่าให้เป็นไปตามใจข้าพเจ้า แต่ให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์เถิด”(มัทธิว 26:39)

พระองค์ทรงเอาชนะความอยากและความไม่อยากนี้ด้วย ไม้กางเขน (†) แห่งการตัดใจโดยยอมตัดน้ำใจของพระองค์เอง ด้วยการยอมปฏิบัติตามพระประสงค์ของพระบิดา

พระเยซูเจ้ายอมให้พระประสงค์ของพระบิดาตัดน้ำใจของพระองค์เองทำให้ชีวิตของพระองค์เดินทางต่อไปสู่ภูเขากัลวารีโอ และที่สุดก็ทำให้แผนการไถ่กู้มนุษยชาติบรรลุผลสำเร็จ กางเขนแห่งการตัดใจนี้ ยังพาพระเยซูเจ้าไปสู้ชัยชนะแห่งการกลับคืนพระชนม์ชีพอีกด้วย

น้ำพระทัยของพระบิดาที่เต็มเปี่ยมในชีวิตของพระเยซูเจ้า พาพระองค์ไปสู่การกลับมามีชีวิตใหม่

ดังนั้นคริสตชนต้องกลับคืนชีพในลักษณะเดียวกับที่พระเยซูเจ้าทรงทำให้ดูเป็นตัวอย่าง

เราต้องทำตัวเราเองให้หลุดจากความอยากและไม่อยากทั้งปวง โดยยอมให้น้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าเป็นตัวกำหนด แต่ถ้าเราปล่อยตัวเอง ให้ความอยากและความไม่อยากครอบงำชีวิตนั้น ก็แสดงว่าเรายังคงอยู่ในอุโมงค์แห่งความตาย คือ อุโมงค์แห่งความอยากและความไม่อยากของตัวเราเอง และถ้าเรายิ่งดำเนินชีวิตตามความอยากและความไม่อยากนั้น เราก็ยิ่งฝังตัวเองลึกลงไปเรื่อยๆในความตายนั้น

แต่ถ้าเราต่อสู้ ควบคุม และตัดความอยากและไม่อยาก จนตัวเราเป็นอิสระจากความอยากและไม่อยากได้แล้ว เราก็จะกลายเป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่จะสามารถทำงานให้พระ โดยชีวิตของเราจะไม่ถูกจำกัดด้วยเวลาและสถานที่ คือเราจะเป็นอิสระจากทุกสิ่ง จนสามารถทำงานให้พระได้อย่างบังเกิดผล

…สวัสดี…

เกี่ยวกับวัดฯ

  • ประวัติอาสนวิหาร
  • แม่พระอัสสัมชัญ
  • บรรณฐาน
  • สถาปัตยกรรม
  • กระจกสี
  • ภาษาลาตินในวัด

บริการต่างๆ

  • ล้างบาปทารก / Baptisms
  • แต่งงาน / Wedding
  • การขออนุญาตถ่ายภาพ

สารวัดย้อนหลัง

  • บทสนทนาจากเจ้าอาวาส
  • คิดสักนิด...สะกิดใจ...
  • ปลัดแก่ ซอย40
  • ปี 2012

บุคลากร/องค์กรต่างๆในวัด

  • พระสงฆ์
  • สำนักงานวัด
  • สภาภิบาล
  • นักขับร้อง
  • สโมสรเยาวชน

ลิงค์คาทอลิก

  • สภาสังฆราชคาทอลิกประเทศไทย
  • อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
  • หอจดหมายเหตุ อัครสังฆมณฑลฯ
  • สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย
Facebook-f Youtube