• หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us

2014-06-08 องค์สถาปนิกผู้สร้างสวรรค์ ณ แผ่นดิน

 

องค์สถาปนิกผู้สร้างสวรรค์ ณ แผ่นดิน

                   การเสด็จสู่สวรรค์ของพระเยซูเจ้าเป็นการปิดฉากภารกิจของพระองค์ในโลกนี้ และเป็นการส่งไม้ต่อ ให้บรรดาอัครสาวก สานุศิษย์ และพวกเราทุกคนได้สานต่อภารกิจของพระองค์ในโลก และภารกิจที่เราจะต้องสานต่อจากพระเยซูเจ้าคือการ ร่วมกันสร้างสวรรค์ ณ แผ่นดิน

ทำไมต้องสร้างสวรรค์ ณ แผ่นดิน? เพราะสวนสวรรค์ ณ แผ่นดินเดิมได้ถูกทำลายโดยฝีมือของมนุษย์ ดังนั้น เป็นมนุษย์เองที่จะต้องรับผิดชอบ ในการฟื้นฟูและสร้างสวรรค์ ณ แผ่นดินขึ้นใหม่

สวนสวรรค์ ณ แผ่นดินสวนเดิม ที่พระเป็นเจ้ามอบให้แก่มนุษย์ ได้รับการบันทึกไว้ในหนังสือปฐมกาลบทที่ 2 ข้อที่ 4 ดังนี้

“ลำดับการเนรมิตสร้างฟ้าสวรรค์ และแผ่นดินมีดังนี้ ในวันที่พระยาห์เวห์พระเจ้าทรงเนรมิตสร้างแผ่นดินและฟ้าสวรรค์”

และในบทที่ 2 ข้อ 8 ได้ระบุชื่อของสวนนั้นไว้อย่างชัดเจน “พระยาห์เวห์พระเจ้าทรงปลูกสวนแห่งหนึ่งไว้ในเอเดนทางทิศตะวันออก และทรงกำหนดให้มนุษย์ที่พระองค์ทรงปั้นอยู่ที่นั่น”

แต่ต่อมาสวนสวรรค์ ณ แผ่นดิน แห่งนี้ถูกทำลายโดยน้ำมือของมนุษย์ด้วยความไม่นบนอบเชื่อฟัง

ใครอยากทราบว่าสวนสวรรค์ ณ แผ่นดินแห่งนั้นเป็นสถานที่มีความสุข และเป็นแหล่งแห่งความสมบูรณ์พูนสุขอย่างไร เราหาอ่านได้จากหนังสือปฐมกาลบทที่ 2

นอกนั้นสวนสวรรค์ ณ แผ่นดินแห่งนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นของ รูปแบบของครอบครัวที่มีความสุข

แต่เมื่อมนุษย์เริ่มต้นไม่เชื่อฟังพระเป็นเจ้า เริ่มต้นขัดขืนคำสั่งของพระองค์ สวนสวรรค์ ณ แผ่นดินก็เริ่มต้นแปรสภาพกลายเป็นนรก ณ แผ่นดินนับตั้งแต่วันนั้น

สภาพทางกายภาพอันอุดมสมบูรณ์ของสวนสวรรค์ ณ แผ่นดินเปลี่ยนไป เกิดความแห้งแล้ง แผ่นดินแตกระแหง

สภาพครอบครัวแตกแยก    อาดัมกล่าวหานางเอวาว่าเป็นต้นเหตุของการขัดขืนคำสั่ง และมิหนำซ้ำยังกล่าวหาพระเป็นเจ้าด้วย “หญิงที่พระองค์ประทานให้อยู่กับข้าพระองค์ เธอส่งผลจากต้นไม้นั้นให้ข้าพระองค์ ข้าพระองค์จึงรับประทาน” (ปฐมกาล 3:12) มนุษย์ไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นผู้ผิด แต่ชอบโยนความผิดไปให้คนอื่น

จากนั้น พี่ฆ่าน้อง

บาปและความชั่วเริ่มพอกพูนทวีขึ้นในโลกจนมนุษย์ต้องเผชิญกับน้ำวินาศ หรือ น้ำล้างโลก

แม้มนุษย์จะถูกล้างไปจนเกือบหมดโลกแล้วแต่ บาปและความไม่เชื่อฟัง ก็ยังไม่หมดไปจากโลกและ แม้พระเจ้าจะทรงมีเมตตาส่งพระบุตรมาช่วยเหลือเพื่อให้เกิดการแก้ไขสภาพ แต่มนุษย์ผู้โหดเหี้ยมก็จับพระผู้เสด็จมาช่วยเหลือนั้นฆ่าเสีย

สวรรค์ ณ แผ่นดิน ดูเหมือนจะเริ่มต้นเป็นรูปแบบให้เราเห็น ณ หมู่บ้านยากจน เล็กๆที่เมืองนาซาเร็ธ ในช่วงเวลาที่พระเยซูเจ้าทรงประทับอยู่ที่นั้นตลอดระยะเวลา 30 ปี ของพระชนม์ชีพเร้นลับของพระองค์

หมู่บ้านนาซาเร็ธที่ยากจน และเต็มไปด้วยคนจนแต่ทุกคนมีความสุข เพราะมีพระเยซูเจ้าอยู่ท่ามกลางพวกเขาพระองค์ทรงสอนและให้คำแนะนำดีๆแก่พวกเขา ทรงให้กำลังใจให้พวกเขารู้จักต่อสู้กับชีวิตที่ยากจนด้วยความอดทน พระองค์ทรงเป็นกำลังใจให้แก่ทุกคนในทุกเรื่อง และสอนให้ทุกคนเป็นกำลังใจ และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ตลอด 30 ปี หมู่บ้านนาซาเร็ธไม่ได้ร่ำรวยขึ้น ชาวบ้านก็ยังยากจนเหมือนเดิม แต่ทุกคนอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข จนถึงวันที่พระเยซูเจ้าออกเทศนาสั่งสอนประกาศข่าวดี แต่พระเยซูเจ้าก็เวียนกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดอยู่เป็นระยะๆ

อาจจะมีคนถามว่าทำไม พระเยซูเจ้าจึงไม่ทรงทำอัศจรรย์ช่วยชาวบ้านให้รวยขึ้น? นั่นเป็นคำถามที่โง่เง่าแบบสุดๆ และแฝงไว้ด้วยความรู้สึกนึกคิดแบบโลก ซึ่งไม่ใช่วิถีทางของพระ

พระเยซูเจ้าอยู่ที่หมู่บ้านนาซาเร็ธ ทรงเชื่อฟังพระเป็นเจ้า ทรงเชื่อฟังบิดามารดา ทรงเชื่อฟังผู้หลักผู้ใหญ่ของหมู่บ้าน แต่ที่สำคัญสุดคือ ทรงเชื่อฟังพระจิต ที่ประทับอยู่กับพระองค์ตลอดเวลานับตั้งแต่พระองค์เกิด เริ่มต้นทำงาน และสุดท้ายในวันที่พระองค์คืนพระวิญญาณแด่พระบิดา

พระจิตเจ้าทรงนำทางชีวิตของพระเยซูเจ้าอยู่ตลอดเวลา แม้พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า แต่เมื่อทรงมาบังเกิดเป็นมนุษย์พระองค์ก็ต้องรู้จัก นบนอบเชื่อฟังพระจิตเจ้า และชีวิตของพระองค์ก็สร้างให้เกิดสวรรค์ ณ แผ่นดิน ตลอดระยะเวลา 33 ปี ของการดำรงพระชนม์ชีพอยู่ในโลก

ความนบนอบเชื่อฟังเสียงของพระจิตเจ้าสร้างให้เกิดสวรรค์ ณ แผ่นดิน

พระจิตเจ้าคอยสอนให้เรารู้จักปฏิบัติตามพระประสงค์เหมือนกับที่พระองค์ทรงเคยสอนพระเยซูเจ้า

บทข้าแต่พระบิดาที่พระเยซูเจ้าทรงสอนสานุศิษย์ และพวกเราให้สวด แฝงไว้ซึ่งเจตนา และความหวัง ว่าสักวันหนึ่ง พวกเราจะรู้จักทำตามพระประสงค์ของพระบิดา ผู้ประทับอยู่สวรรค์ และพระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้สอนให้เรารู้จักพระประสงค์นั้น ผ่านทางแบบอย่างชีวิต และคำสอนที่พระองค์ได้ให้ไว้ และเมื่อเราทุกคนทำตามนั้น สวรรค์ก็จะเกิดขึ้นในโลก พระอาณาจักรของพระเจ้าก็จะเกิดขึ้นในโลกอย่างแท้จริง ณ เวลานั้นโลกจะถูกเปลี่ยนแปลงกลายเป็นสวรรค์ ณ แผ่นดิน แต่เงื่อนไขมีเพียงอย่างเดียวคือ เราทุกคนต้องรู้จักนบนอบเชื่อฟังองค์สถาปนิก คือ องค์พระจิตเจ้าที่คอยบอกเราจากภายในจิตวิญญาณ บอกให้เรารู้จักฝืนใจ หรือ ตัดใจ(†)ที่จะทำความดีที่เราไม่อยากทำและรู้จักฝืนใจหรือตัดใจ † ที่จะไม่ทำความชั่วที่เราอยากทำ ทำได้อย่างนี้สวรรค์น้อยๆก็จะเกิดขึ้นในโลก     …สวัสดี..

เกี่ยวกับวัดฯ

  • ประวัติอาสนวิหาร
  • แม่พระอัสสัมชัญ
  • บรรณฐาน
  • สถาปัตยกรรม
  • กระจกสี
  • ภาษาลาตินในวัด

บริการต่างๆ

  • ล้างบาปทารก / Baptisms
  • แต่งงาน / Wedding
  • การขออนุญาตถ่ายภาพ

สารวัดย้อนหลัง

  • บทสนทนาจากเจ้าอาวาส
  • คิดสักนิด...สะกิดใจ...
  • ปลัดแก่ ซอย40
  • ปี 2012

บุคลากร/องค์กรต่างๆในวัด

  • พระสงฆ์
  • สำนักงานวัด
  • สภาภิบาล
  • นักขับร้อง
  • สโมสรเยาวชน

ลิงค์คาทอลิก

  • สภาสังฆราชคาทอลิกประเทศไทย
  • อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
  • หอจดหมายเหตุ อัครสังฆมณฑลฯ
  • สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย
Facebook-f Youtube