พระตรีเอกภาพ:รูปแบบของวิถีชุมชนวัด
ในหนังสืออพยพของบทอ่านที่ 1 ในวันนี้ องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประกาศพระคุณลักษณะประจำพระองค์ 4 ประการ คือ ความเมตตากรุณา ไม่โกรธง่าย ความรักมั่นคง และความซื่อสัตย์
พระคุณลักษณะ 4 ประการ ได้รับการประกาศจากองค์พระเยซูเจ้าด้วยประโยคที่เราคุ้นหูคือ “พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมากจึงประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศแต่จะมีชีวิตนิรันดร….”
พระคุณลักษณะ 4 ประการของพระเป็นเจ้าสามารถสรุปด้วยคำคำเดียว นั่นคือคุณลักษณะหรือองค์ประกอบของความรัก
1. ความรัก คือ ความเมตตากรุณา
2. ความรัก คือ การรู้จักสงบระงับอารมณ์ (ไม่โกรธง่าย)
3. ความรัก คือ การรู้จักรักอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ไม่ว่าคนนั้นจะดี หรือด่ามาเปลี่ยนเป็นเลว ก็ยังรัก ดังนั้นจึงเป็น ความรักที่มั่นคง
4. ความรัก คือ ความซื่อสัตย์ ใจไม่โลเล เปลี่ยนง่าย รักแบบไม่เปลี่ยนใจ
พระคุณลักษณะ 4 ประการนี้ คือ พระคุณลักษณะทางจิตวิญญาณประจำองค์พระผู้เป็นเจ้า พระบิดา พระบุตร และพระจิต
แม้จะเป็น 3 พระบุคคล แต่ทรงมีพระจิตวิญญาณดวงเดียวกัน คือ พระจิตวิญญาณแห่งรัก ซึ่งแสดงออกมาทางพระคุณลักษณะ 4 ด้านตามที่กล่าวไว้ข้างบน นักบุญเปาโลยังได้เอา พระจิตวิญญาณแห่งรักนี้มาขยายความเพิ่มเติม เป็นพระคุณลักษณะด้านอื่นๆอีก ในจดหมายของท่านถึงชาวโครินธ์ ฉบับที่ 1 บทที่ 13 ข้อ 4 ถึง 7
พระจิตวิญญาณแห่งรักนี้ทำให้องค์พระผู้เป็นเจ้าหนึ่งเดียวแต่เป็น 3 พระบุคคลต่างก็ทำอะไรๆที่เหมือนๆกันและอยู่ในแนวเดียวกัน
อะไรๆที่เหมือนๆกันนี้เกิดจากการที่ทั้ง 3 พระบุคคลมีพระจิตวิญญาณดวงเดียวกันคือ พระจิตวิญญาณแห่งรัก
พระบิดาทรงสร้างโลกด้วยความรัก ต่อมาโลกเสียหายเพราะน้ำมือมนุษย์ พระบุตรผู้ทรงรักโลกเช่นเดียวกับพระบิดา ทรงเสด็จลงมาแก้ไขโลกเมื่อเสร็จสิ้นภารกิจในส่วนของพระองค์ พระจิตเจ้าองค์ความรักก็ทรงปฏิบัติงานต่อที่จะธำรงรักษาโลกที่ได้รับการแก้ไขเยียวยาแล้วโดยฝีมือขององค์พระบุตร เพื่อให้โลกยังคงอยู่ในสภาพดีต่อไป ให้เป็นโลกแห่งความรัก ดังที่พระบุตรได้ทรงทิ้งแบบฉบับและตัวอย่างไว้ให้เราได้ดำเนินตาม
ทั้งหมดคือภารกิจแห่งรัก จากจิตวิญญาณแห่งรัก
วิถีชีวิตพระตรีเอกภาพ คือ โมเดล หรือ รูปแบบแห่งวิถีชุมชนวัด
วิถีชุมชนวัดไม่ใช่แค่การรวมคนให้มาอยู่กันเป็นกลุ่ม แต่แก่นแท้ของวิถีชุมชนวัดคือการต้องสร้างให้บุคคลซึ่งแตกต่างกัน ให้กลายเป็นกลุ่มบุคคลที่มีจิตวิญญาณเดียวกัน คือ มีจิตวิญญาณแห่งรัก
นักบุญเปาโลพูดไว้ชัดเจนในจดหมายของท่านในวันนี้ “พี่น้องทั้งหลาย…….จงปรับปรุงตนให้ดีพร้อม……จงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน…… ”
คำว่า จงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน คือการที่ทุกคนจะต้องสร้างให้เกิดจิตวิญญาณแห่งรัก แบบของพระตรีเอกภาพในตัวตนของตนเองให้เกิดขึ้นให้ได้ และเมื่อใดก็ตามที่เราสามารถสร้างจิตวิญญาณแห่งรัก ให้เกิดขึ้นได้ในตัวตนของเราแต่ละคนแล้ว การรวมกลุ่มเป็นวิถีชุมชนวัดก็จะเป็นการรวมกลุ่มที่เป็นธรรมชาติ แบบเดียวกับวิถีแห่งจิตวิญญาณของพระตรีเอกภาพ แม้ตัวห่างแต่จิตวิญญาณยังเป็นหนึ่ง แม้ตัวจะแสดงอาการขัดขืนตามธรรมชาติของความเป็นมนุษย์แต่มันจะถูกควบคุมโดยพลังจิตวิญญาณของพระเป็นเจ้า ดังที่พระเยซูเจ้าได้เอาชนะความรู้สึก หรือ ตัดความรู้สึกโน้มเอียงตามภาษามนุษย์(†) ในสวนเกทเสเมนีแห่งนั้น
วิถีการสร้างให้เกิดความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในหมู่คริสตชน ไม่ใช่แค่การมาอ่านพระคัมภีร์ร่วมกัน ไม่ใช่แค่การแบ่งปันพระวรสารร่วมกัน แต่แต่ละคนต้องเริ่มด้วยการฝึกการตัดใจของตนเอง(†)ควบคุมตัวตนของตนเอง ไม่ทำตามใจตัวเอง ไม่ทำตามความอยากของตนเอง ไม่ปล่อยตัวอยากทำอะไรก็ทำ แต่พระวาจาที่นำมาอ่านร่วมกันและแบ่งปันร่วมกัน ต้องนำไปสู่การตกลงตัดสินใจร่วมกันเช่น “ต่อไปนี้พวกเราจะ
1. หยุดการใช้จ่ายฟุ่มเฟือย
2. หยุดเอาเรื่องของผู้อื่นมานินทา
3. หยุดการพูดจาหรือพฤติกรรมโอ้อวดตัวเอง
4. หยุดการมีอารมณ์ฉุนเฉียว
5. หยุดความเห็นแก่ตัวเล็กๆน้อยๆ
6. หยุดการพูดจากักขฬะ กระแนะกระแหนกัน
7. หยุดปากที่จะบ่นทุกเรื่อง
8. หยุดการเอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง
9. หยุดขี้เหนียว
10. หยุดอิจฉาตาร้อน”
11. หยุดการแสวงหา สะสมเงินทอง และใช้ชีวิตหรูหรา ฟู่ฟ่าฯลฯ
ทำสิ่งเหล่านี้ก็คือ การค่อยๆปฏิวัติตัวเอง และปฏิรูปตัวเองแต่ละวัน แบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป การหยุด หรือ การตัด(†) ก็คือการเจริญชีวิตไม้กางเขนในแต่ละวันทั้งของตัวเองทั้งหาทางช่วยคนอื่น เพื่อบรรลุความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน คือ ทุกๆคนทำเหมือนๆกัน ตามคำสอนและตามพระประสงค์ของพระเป็นเจ้าที่พระองค์บอกเราผ่านทางพระเยซู