“ศีลมหาสนิท…เลือดจากอก เนื้อจากอกพระคริสตเจ้า เพื่อเรามีชีวิต”
“เราเป็นปังทรงชีวิตที่ลงมาจากสวรรค์ ใครที่กินปังนี้จะมีชีวิตอยู่ตลอดไป และปังที่เราจะให้นี้ คือเนื้อของเรา เพื่อให้โลกมีชีวิต” (ยน 6:51)
ทุกครั้งที่เราพูดถึงศีลมหาสนิท เป็นพิเศษในวันสมโภชพระกายและโลหิตของพระเยซูคริสตเจ้า พระองค์ทรงรักเรายิ่งนักถึงกับมอบพลีชีวิตทั้งหมดเพื่อเราทุกคน ในวันที่มีพิธีกรรมพิเศษยิ่งนี้…อดคิดถึงเรื่องเล่าที่กินใจซึ้งใจยิ่งเรื่องนี้ไม่ได้เลย
เรื่องเล่า “ความรักของแม่นกพิลิแกนที่มีต่อลูกน้อยของตน” แม่นกบินจากรังเพื่อหาอาหารมาป้อนเลี้ยงลูกน้อย ทำเช่นนี้จนกว่าลูกน้อยจะบินเองได้ และหาอาหรได้ด้วยตัวเอง บางวันได้อาหารมากบ้างน้อยบ้าง หากบางวันหาอาหารมาป้อนลูกไม่ได้ แม่นกพิลิแกนจะเอาปากตัวเองจิกชิ้นเนื้อที่อกของตนและนำมาป้อนลูกแทนอาหารที่มิอาจหามาได้
“เราเป็นปังทรงชีวิตที่ลงมาจากสวรรค์ ใครที่กินปังนี้จะมีชีวิตอยู่ตลอดไป และปังที่เราจะให้นี้ คือเนื้อของเรา เพื่อให้โลกมีชีวิต” (ยน 6:51)
“เลือดจากอก เนื้อจากอก” ของแม่นกพิลิแกน เป็นเรื่องจริงตามธรรมชาติ เป็นเรื่องน่าประทับใจมาก และพระศาสนจักรก็ได้นำเรื่องธรรมชาติของนกพิลิแกนที่น่าอบอุ่น น่าประทับใจ มาเปรียบให้เห็นภาพความรักอันยิ่งใหญ่ที่พระเยซูคริสตเจ้า ทรงมอบชีวิตทั้งหมดทั้งเลือดและเนื้อให้กับเรา
“พี่น้อง ถ้วยถวายพระพร ซึ่งเราใช้ขอบพระคุณพระเจ้านั้น มิได้ทำให้เรามีส่วนร่วมในพระโลหิตของพระคริสตเจ้าหรือ และปังที่เราบินั้น มิได้ทำให้เรามีส่วนร่วมในพระกายของพระคริสตเจ้าหรือ มีปังก้อนเดียว แม้ว่าจะมีหลายคนเราก็เป็นกายเดียวกัน เพราะเราทุกคนมีส่วนร่วมกินปังก้อนเดียวกัน”(1คร 10:16-17)
ในอดีต พระเจ้าทรงเลี้ยงชาวอิสราเอลด้วยมานนาจากฟ้า ตลอดการเดินทาง 40 ปี ผ่านถิ่นทุรกันดารไปสู่ดินแดนแห่งพระสัญญา ต่อมาพระเยซูเจ้าทรงมอบเลือดและเนื้อเป็นอาหาร เป็นปังทรงชีวิตให้กับเราในศีลมหาสนิทจนทุกวันนี้ และจะทรงมอบต่อไปตลอดไป
ในวันนี้ อาศัยพระหรรษทานจากศีลมหาสนิทช่วยเป็นพลังสำหรับเรา พระองค์ปรารถนาให้เราเป็นดังมือของพระองค์ได้มอบอาหาร มอบชีวิตให้แก่กันและกัน.