• หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us

2014-07-13 คริสตชน (ต่อ)

สวัสดีครับ

สัปดาห์ละครั้งอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม 2014

(ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว)

          ประการที่สามชีวิตในถิ่นทุรกันดารของพระเยซูยังเป็นแบบอย่างของการรู้จักที่จะออกจากความวุ่นวายต่างๆบ้างเพื่อมีเวลาอยู่กับพระบิดามีเวลาที่จะไตร่ตรองมองดูตนเองตามธรรมเนียมของคริสตชนจึงมักจะมีการจัดเวลาให้กับตนเองด้วยการ“ฟื้นฟูจิตใจ”หรือเรียกเป็นภาษาชาวบ้านว่า“เข้าเงียบ”นั่นเอง

          ตามปกติแล้วชีวิตของเราที่เป็นมนุษย์ต้องมีเวลาที่จะพัฒนาปรับปรุงเสริมสร้างตนเองขึ้นเรื่อยๆการหยุดจากภาระหน้าที่ที่ต้องกระทำเป็นประจำและให้เวลากับตัวเองด้วยการรำพึงไตร่ตรองดูชีวิตที่ผ่านมาจะพบกับความบกพร่องผิดพลาดหรือแม้แต่ความสำเร็จเป็นสิ่งที่ดีที่เราจะต้องตั้งใจที่จะก้าวต่อไปด้วยความมั่นใจปรับทิศทางของชีวิตให้ชัดเจนมากขึ้น

          เราอาจจะพ่ายแพ้ต่อการประจญบางเรื่องบางประการได้กระทำผิดในประเด็นต่างๆอาจทั้งที่รู้ตัวและไม่รู้ตัวยิ่งสมัยนี้“กระแสโลก”ที่เราทราบว่ามันมาแรงจริงๆซึ่งเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้เราถูกผี3 ตัวเข้าสิงสถิตก็ได้นั่นคือ

          ก. ผีแห่งความโลภคือความอยากไม่สิ้นสุดอยากได้สิ่งโน้นสิ่งนี้ยากมีเงินเป็นล้านเป็นสิบล้านเมื่อมีสิบล้านก็ยังไม่พอไม่สิ้นสุดและหลายครั้งก็ได้มาด้วยการคดโกงคนอื่นด้วยการทำร้ายอื่นทั้งทางตรงและทางอ้อมฯลฯ

          ข. ผีแห่งความโกรธคือขาดสติถูกขัดใจไม่ได้เอาแต่ใจตัวเองไม่ได้ดั่งใจก็จะพาลทะโลกับทุกคนคนใกล้ชิดญาติสนิทมิตรสหายคนที่ถูกผีแห่งความโกรธสิงอยู่จะทำอะไรผิดพลาดอยู่เสมอเพราะขาดเหตุผลขาดการพิจารณาก่อนที่จะทำอะไรลงไป

          ค. ผีแห่งความหลงหนที่สุดเมื่อมีความโลภมีโกรธจะทำให้คนเรา“หลง”ในที่สุดหลงก็คือขาดเหตุผลขาดการพิจารณาถึงคุณค่าความถูกต้องสิ่งที่ควรเป็นหรือไม่ควรเป็นกระทำตามความรู้สึกเท่านั้นความหลงนี้มักจะมีลักษณะเด่นๆดังนี้คือหลงในบุคคลมิได้ดูว่าชอบเขาเพราะอะไรเพียงแค่รู้สึกถูกใจไม่สนใจว่าเขาจะดีจะเลวอย่างไรหลายคนยอมเป็นทาสเขาก็มีหลงในตนเองพวกนี้มักจะเป็นคนจองหองคิดว่าตัวเองเก่งที่สุดดีที่สุดฯลฯจึงมักจะดูถูกคนอื่นหลงในทรัพย์คือพวกที่หมกมุ่นกับทรัพย์สินข้าวของเงินทองเครื่องใช้ไม้สอยจนเกินเลยเช่นหลงในรถยนต์คันงามวันๆมัวแต่เช็ดถูดูแลไม่ให้มีรอยขีดข่วนเอะอะโวยวายกับลูกกับภรรยาเมื่อเห็นว่ารถมีตำหนิมีรอยยุบ… อย่างนี้ก็มีนะครับ

          ที่สุดต้องสรุปว่า“การภาวนา”คือการติดต่อสัมพันธ์กับพระด้วยการให้เวลากับตัวเองที่จะเงียบจากความวุ่นวายต่างๆและฟังพระตรัสกับตนเองบ้างจะทำให้ชีวิตคริสตชนของเราเข้มแข็งมีชีวิตชีวาอีกครั้งหนึ่งเหมือนรถยนต์ที่จะต้องเข้าเช็คตรวจสอบเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเปลี่ยนไส้กรองล้างทำความสะอาดกันบ้าง…

(ต่อสัปดาห์หน้า… สวัสดีครับ)

เกี่ยวกับวัดฯ

  • ประวัติอาสนวิหาร
  • แม่พระอัสสัมชัญ
  • บรรณฐาน
  • สถาปัตยกรรม
  • กระจกสี
  • ภาษาลาตินในวัด

บริการต่างๆ

  • ล้างบาปทารก / Baptisms
  • แต่งงาน / Wedding
  • การขออนุญาตถ่ายภาพ

สารวัดย้อนหลัง

  • บทสนทนาจากเจ้าอาวาส
  • คิดสักนิด...สะกิดใจ...
  • ปลัดแก่ ซอย40
  • ปี 2012

บุคลากร/องค์กรต่างๆในวัด

  • พระสงฆ์
  • สำนักงานวัด
  • สภาภิบาล
  • นักขับร้อง
  • สโมสรเยาวชน

ลิงค์คาทอลิก

  • สภาสังฆราชคาทอลิกประเทศไทย
  • อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
  • หอจดหมายเหตุ อัครสังฆมณฑลฯ
  • สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย
Facebook-f Youtube