ข้าวสาลีเทียม
ข้าวละมาน มีตำนานว่าเกิดขึ้นในยุคก่อนเกิดน้ำท่วมโลก ในสมัยของโนอาห์ พระเจ้าได้สร้างโลก และมนุษย์ จากนั้นอาดัมและเอวา ก็หลงผิดด้วยการฟังคำยุยงของปีศาจ และได้ทำบาปโดยการขัดขืนคำสั่งและน้ำพระทัยของพระ ความไม่เชื่อฟัง ของอาดัมและเอวา พาให้ลูกหลานต่อๆมาหลงเจิ่นทำบาปผิดต่างๆเริ่มด้วย พี่ฆ่าน้อง จากนั้นความวิปริตของชีวิตมนุษย์ และธรรมชาติก็เกิดขึ้น พี่กับน้องมีเพศสัมพันธ์ต่อกัน ชายมีเพศสัมพันธ์กับชาย หญิงมีเพศสัมพันธ์กับหญิง รวมไปทั้งการที่มนุษย์มีเพศสัมพันธ์กับสัตว์ ฯลฯ ความวิปริตในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ มีผลกระทบต่อความวิปริตทางธรรมชาติ ข้าวสาลีกลายพันธ์เกิดเป็นพันธ์ข้าวใหม่เรียกว่า ข้าวละมาน ธรรมชาติด้านอื่นๆ ก็เกิดอาการผิดเพี้ยนไปจากเดิม จนที่สุดเกิดน้ำท่วมโลกครั้งใหญ่ขึ้น หลังจากน้ำท่วมใหญ่แล้ว มนุษย์ส่วนที่เหลือรอดก็เจริญชีวิตอยู่ในโลกต่อไปแต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มนุษย์ยังทำบาปเหมือนเดิม จนถึงสมัยของอับบราฮัม ก็เกิดเหตุการณ์ของเมืองโสดม และโกโมราห์
ณ จุดนี้ เราน่าจะหันมามองดูรอบๆตัวเรา ซึ่งเราจะพบว่าความวิปริตของสังคมยังคงกำลังเกิดขึ้นเหมือนในอดีต และน่าจะร้ายแรงกว่ายุคของโนอาห์ และอับบราฮัม เราน่าจะจับตามองดูว่าถ้าโลกของเรายังคงเป็นอย่างนี้ อะไรจะเกิดขึ้น หรือ น่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต
ตำนานข้าวสาลีกลายพันธ์เกิดเป็นข้าวร้ายพันธ์ใหม่คือ ข้าวละมาน และอยู่ปะปนกับข้าวสาลี พระเยซูเจ้าได้ยกจุดนี้ขึ้น เป็นนิทานเปรียบเทียบของวันนี้
ข้าวละมานในพระวรสารเกิดจากศัตรูแอบมาหว่านไว้ ศัตรูที่แอบมาหว่าน เมื่อหว่านแล้วก็หนีไป แต่ในยุคปัจจุบัน หรือ ในชีวิตจริงของเราศัตรูคือ ปีศาจ ได้หว่านข้าวละมานไว้ และยังคงคอยดูผล ปีศาจไม่ได้หนีไปไหน
ความชั่วหรือข้าวละมานที่เห็นจะๆ เราก็เห็นกันอยู่ แต่ที่ร้ายความชั่วหรือ ข้าวละมานที่ซ่อนรูป ก็มีอยู่ในสังคมแบบที่เราไม่อาจจะปฏิเสธได้
ข้าวละมานและข้าวสาลี มีความเหมือน หรือ ความคล้ายกันในเบื้องต้น มันเหมือนและคล้ายจนดูไม่ออก แต่เราจะทราบว่าอะไรคือข้าวละมาน อะไรคือข้าวสาลีก็ต่อเมื่อมันออกรวงแล้วเท่านั้น
ที่ร้ายก็คือ มันทั้งสองอยู่ด้วยกัน แยกจากกันไม่ได้ ข้าวละมานขณะเติบโตขึ้นรากของมันจะเริ่มเกี่ยวพันรากของต้นข้าวสาลี และคอยแย่งน้ำเลี้ยงจากรากข้าวสาลีเพื่อนำมาเลี้ยงตัวเอง
การเกี่ยวกระหวัดของรากข้าวละมานเพื่อแย่งน้ำเลี้ยงของข้าวสาลี เปรียบเหมือนพลังอำนาจของปีศาจที่ยังคงอยู่ในโลก แบบซ่อนรูป และคอยแย่งน้ำเลี้ยง หรือ ทำลายพลังแห่งความดีในโลก ด้วยรูปแบบต่างๆ
พระเยซูเจ้า จึงภาวนาสำหรับเรื่องนี้ โดยขอจากพระบิดาสำหรับลูกศิษย์ของพระองค์คือ ขอให้พวกเขาอยู่ในโลกแต่ไม่เป็นของโลก
เราคริตชนเจริญชีวิตอยู่ในโลกและถูกแวดล้อมด้วยสภาพแวดล้อมที่มี ทั้งดี และไม่ดี แต่มีสภาพแวดล้อมอีกประเภทหนึ่งที่น่ากลัวมากๆนั่นคือ สภาพแวดล้อมที่ซ่อนรูป หรือเราอาจเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ข้าวสาลีเทียม ข้าวสาลีเทียมเหล่านี้จะค่อยๆดูดน้ำเลี้ยงที่ดีจากชีวิตคริสตชนของเรา หรือ ไม่ก็ค่อยๆปล่อยสารพิษ ทำให้ชีวิตคริสชนของเราเริ่มเดี้ยง และหมดสรรถภาพดังที่พระสันตะปาปาฟรังซิสได้เคยตรัสไว้ในปีที่แล้วว่า
A worldly Church is a weak Church
พระศาสนจักรที่นิยมจิตตารมณ์ทางโลกจะเป็นพระศาสนจักรที่อ่อนแอ