สวัสดีครับ
สัปดาห์ละครั้งอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม 2557
(ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว)
การเลือกอัครสาวกขององค์พระเยซูเจ้าทำให้เราเกิดจิตสำนึกที่สำคัญในการเป็นศิษย์ของพระองค์หรือเป็นคริสตชนในประเด็นสำคัญดังนี้คือ
1. เมื่อเป็นศิษย์ของพระองค์เราต้องเป็นเครื่องมือเพื่อทำงานของพระองค์ต้องมีชีวิตอยู่ในสังคมอยู่ร่วมกับผู้อื่นการเป็นเครื่องมือนั้นต้องตระหนักว่าเราไม่สามารถจะทำอะไรได้ด้วยตัวเราเองเหมือนกับดินสอหรือปากกาที่มันไม่สามารถจะขีดเขียนอะไรได้ด้วยตัวของมันเองหากแต่ต้องมีผู้หยิบมันขึ้นมาเขียนลงไปในกระดาษนั่นเอง
2. ต้องร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันทำงานเป็นทีมรับผิดชอบด้วยกันดังนั้นจึงต้องพร้อมที่จะรับฟังกันและกันพร้อมที่จะให้ไม่ว่าจะเป็นความคิดเห็นความสามารถที่เรามีคือต้องยินดีช่วยเหลือเพื่อนพี่น้องในทุกสิ่งทุกอย่างที่สามารถช่วยได้เพื่อความดีของส่วนรวม
ในเวลาเดียวกันก็พร้อมที่จะรับคือรับฟังผู้อื่นด้วยความสนใจให้เกียรติเคารพในสิ่งที่เป็นตัวตนของเขาฯลฯ
3. ต้องยอมรับในพระพรที่แตกต่างกันของแต่ละคนที่ได้จากพระและตระหนักว่าพระพรเหล่านั้นได้รับมาเพื่อผู้อื่นเพื่อทำงานของพระองค์ในสำนึกของความเป็นศิษย์ของพระเยซูนั้นคือการเป็นร่างกายเดียวกันอันประกอบด้วยอวัยวะหลายส่วนที่แตกต่างกันและแต่ละส่วนนั้นก็มีหน้าที่ต่างๆกันไปซึ่งหน้าที่ของอวัยวะหลายส่วนนี้แหละที่ทำให้ร่างกายนั้นสมบูรณ์
สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนในเรื่องนี้เรามีกลุ่มองค์กรต่างๆที่ทำงานของพระองค์เช่นคณะพลมารีคณะนักบุญวินเซนเดอปอลคณะพระเมตตาคณะเซอร์ร่าคณะอัศวินศีลมหาสนิทฯลฯหรือบรรดาคณะนักบวชต่างที่มีจิตตารมณ์ต่างๆกันไปก็เช่นกัน
ดังนั้นกลุ่มหรือองค์กรหรือคณะต่างๆจึงต้องภูมิใจในกระแสเรียกของตนและดำเนินชีวิตอย่างดีตามจิตตารมณ์นั้นๆต้องระลึกเสมอว่าตนเองเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งแห่งพระกายทิพย์ของพระเยซูเจ้า(พระศาสนจักร) จึงต้องร่วมแรงร่วมใจกันในการประกาศข่าวดีในการเป็นประจักษ์พยานถึงองค์พระเยซูคริสตเจ้าให้ได้การทะเลาะเบาะแว้งแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันและกันจึงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ในฐานะที่เป็นกายเดียวกัน
4. การกลับมาหาพระองค์ของบรรดาอัครสาวกจึงเป็นแบบอย่างสำหรับเราในการที่จะต้องให้เวลากับพระองค์ต้องปรึกษาหารือเพื่อขอความช่วยเหลือในปัญหาในอุปสรรคต่างๆ
ด้วยเหตุนี้ในชีวิตของการเป็นศิษย์พระเยซูจึงต้องมีการฟื้นฟูชีวิตจิตใจการรำพึงภาวนาหมายถึงการมีชีวิตเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์เสมอ
สุดท้ายแล้วเราต้องรู้ตัวของเราอยู่เสมอว่าพระองค์ทรงเรียกและเลือกเรามาเป็นศิษย์ติดตามพระองค์พระองค์ทรงตรัสกับเราเหมือนกันว่า“จงตามเรามาเถิด”ทรงมอบหน้าที่แห่งการเป็นประกาศกที่จะประกาศข่าวดีแห่งความรอดอันหมายถึงการเป็นประจักษ์พยานด้วยชีวิตของเราเพื่อให้ทุกคนได้รู้จักองค์พระเยซูเจ้าและความรักของพระองค์นั่นเอง…สวัสดีครับ
(ต่อสัปดาห์หน้า)