ต้องทำให้ฝันของพระเป็นเจ้าเป็นจริง
อะไรคือเป้าหมายที่พระทรงวางไว้สำหรับพวกเราทุกคน? เราทุกคนในที่นี้ไม่ใช่แค่ พวกเราที่เป็นคริสตชน แต่เราทุกคนในที่นี้ หมายถึง ทุกๆคนที่เกิดมาในโลก พวกเรามีเป้าหมายที่พระเป็นเจ้าทรงกำหนดไว้ให้เราแต่ละคน และเป้าหมายนั้นก็คือ
พระองค์ทรงกำหนดจะให้เป็นภาพลักษณ์ของพระบุตรของพระองค์
ตามที่จดหมายนักบุญเปาโล กล่าวถึงในวันนี้
และทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้จึงมีเป้าหมายที่พระเป็นเจ้าทรงกำหนดไว้ดังกล่าว
ท่านเปาโลยังกล่าวต่อไปอีกว่า พระบุตรที่จะเป็นภาพลักษณ์ของเรา นั้นยังเป็น “บุตรคนแรกในบรรดาพี่น้องจำนวนมาก” แสดงว่าเมื่อมีบุตรคนแรกก็จะต้องมีบุตรคนต่อๆไปดังนั้นเมื่อพระบุตรนั้นทรงเป็นภาพลักษณ์ของพวกเราและพระบุตรนั้นยังเป็นบุตรคนแรก ดังนั้นพวกเราที่ถูกเรียกจากพระเจ้าก็จะต้องเป็นบุตรคนต่อจากบุตรคนแรกนั้น และแนวคิดนี้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นในจดหมายของนักบุญเปาโลถึงชาวเอเฟซัส บทที่ 1 ข้อ 3 ถึง 5 ดังนี้
“ขอถวายพระพรแด่พระเจ้า พระบิดาของพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา พระองค์ทรงอวยพรแก่เราโดยประทานพระพรนานาประการของพระจิตเจ้าจากสวรรค์เดชะพระคริสตเจ้า พระเจ้าทรงเลือกสรรเราในพระคริสตเจ้าแล้ว ตั้งแต่ก่อนการเนรมิตสร้างโลก เพื่อให้เราศักดิ์สิทธิ์และปราศจากมลทินเฉพาะพระพักตร์ของพระองค์ด้วยความรัก พระเจ้าทรงกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้วที่จะให้เราเป็นบุตรบุญธรรม เดชะพระคริสตเจ้า ตามพระประสงค์ที่พอพระทัย”
มันยิ่งใหญ่เกินกว่าที่เราจะคิดถึงมัน เราที่พระเจ้าหมายมั่นปั้นมือที่จะให้เป็นบุตรบุญธรรมรองจากพระบุตรเยซูคริสตเจ้า ลองคิดดูมนุษย์ที่เป็นหนอนของแผ่นดินและเป็นแค่ฝุ่นดิน แต่พระกลับจะยกขึ้นให้เป็นบุตรบุญธรรม พระเมตตาของพระเป็นเจ้าสุดที่จะหยั่งถึง
ส่วนกระบวนการของการทำตัวให้เป็นบุตรบุญธรรม และให้มีภาพลักษณ์ขององค์พระบุตรนั้นได้รับการชี้แนะไว้แล้วในบทเพลงสดุดีของวันนี้ คือ ในบทเพลงสดุดีที่ 119 ในข้อต่างๆที่ถูกตัดตอนออกมา
ก. ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าพระองค์ทรงเป็นส่วนมรดกของข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าสัญญาจะปฏิบัติตามพระวาจาของพระองค์
ธรรมบัญญัติจากพระโอษฐ์ของพระองค์
มีค่าสำหรับข้าพเจ้ายิ่งกว่าเงินทองนับพันแท่ง
ข. ขอให้ความรักมั่นคงของพระองค์บรรเทาใจข้าพเจ้า
ดังที่ทรงสัญญาไว้กับผู้รับใช้ของพระองค์
ขอพระองค์ทรงเมตตาสงสารข้าพเจ้าแล้วข้าพเจ้าจะมีชีวิต
เพราะข้าพเจ้าชื่นชมในธรรมบัญญัติของพระองค์
ค. ข้าพเจ้าจึงรักบทบัญญัติของพระองค์
ยิ่งกว่าทองคำยิ่งกว่าทองคำบริสุทธิ์
ข้าพเจ้าคิดว่าข้อบังคับของพระองค์ล้วนถูกต้อง
และเกลียดหนทางทั้งมวลที่หลอกลวง
ง. กฤษฎีกาของพระองค์น่าพิศวงยิ่งนักข้าพเจ้าจึงปฏิบัติตาม
การเปิดเผยของพระวาจาให้ความสว่างประทานปัญญาแก่ผู้รู้น้อย
บทบัญญัติและพระวาจาไม่ใช่แค่ทำให้เราเป็นคนดี หรือ เป็นคนชอบธรรมเท่านั้น แต่บทบัญญัติและพระวาจาสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตของเรา จากการเป็นแค่หนอนและฝุ่นดินของโลกให้กลับกลายเป็น บุตรบุญธรรมของพระเจ้า และนี่คือความน่าพิศวงของกฤษฎีกาของพระเจ้า ดังที่กล่าวไว้ในข้อ ง. กฤษฎีกาบทบัญญัติ หรือ พระวาจามีอิทธิฤทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราแต่ละคน เพียงแต่เราจะต้องยึดมั่นอย่างมั่นคงเด็ดเดียวกับพระวาจานั้น ยึดมั่นไม่ใช่แค่ฟัง หรือ อ่าน แต่ยึดมั่นด้วยการลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง แล้วเราจะค่อยๆเห็นการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของเราทีละเล็กทีละน้อย จนในที่สุดเราจะกลายเป็นบุตรที่พระเจ้ารักโดยไม่รู้ตัว