สวัสดีครับ
สัปดาห์ละครั้ง อาทิตย์ที่ 7 ก.ย. 2014
(ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว)
2. จากพระชนม์ชีพขององค์พระเยซูเจ้าทำให้ทราบว่าชีวิตความเป็นมนุษยโลกของเราจะมีปัญหามีอุปสรรคมีความทุกข์ความผิดหวังบางครั้งก็ถูกเบียดเบียนด้วย(มธ17-25)
สิ่งต่างๆเหล่านี้เกิดจากข้อบกพร่องของมนุษย์เรานั่นเองเช่นเกิดจากความแตกต่างกันทางความคิดตามรสนิยมหลงยึดตนเองเป็นใหญ่ก็จะไม่ฟังคนอื่นเกิดความขัดแย้งการทะเลาะเบาะแว้งได้ในทุกหมู่คณะและในครอบครัวด้วยเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายตามมามากมาย
บางครั้งก็เกิดปัญหาทางร่างกายเช่นโรคภัยไข้เจ็บต่างๆมาเบียดเบียนสุขภาพทำให้ร่างกายอ่อนแอพิการเช่นเป็นมะเร็งเป็นอัมพาตอัมพฤกษ์ตาบอดฯลฯ
นอกจากนั้นเองมาจากปัญหาทางจิตใจจากมโนธรรมที่ไม่สงบการไม่สามารถยอมรับความเป็นจริงในชีวิตหลายครั้งมีคนติฉินนินทาว่าร้ายดูถูกเข้าใจผิดเหล่านี้นับเป็นอุปสรรคเป็นความทุกข์
จากการที่เราได้เรียนรู้ถึงพระชนม์ชีพของพระเยซูเจ้าเราจะพบว่าพระองค์ทรงพบมาแล้วทั้งสิ้นและถือเป็นความทุกข์ขั้นสูงสุดเลยก็ว่าได้นั่นคือรับทรมานและสิ้นพระชนม์บนกางเขนของพระองค์
ดังนั้นเราคริสตชนผู้เป็นศิษย์ของพระองค์จึงต้องพบกับชะตากรรมเช่นเดียวกันเพราะนี่คือวิถีทางแห่งความรอดพ้นที่ทุกคนจะต้องพบเพราะหนที่สุดแล้วเราก็จะกลับเป็นขึ้นมาพร้อมกับพระองค์อยู่ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับพระบิดาอีกครั้งหนึ่งคำว่า“ประวัติศาสตร์แห่งความรอดพ้น”หรือการไถ่บาปที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำนั้นจึงเป็นที่เข้าใจได้ว่าเราทุกคนจะต้องมีส่วนร่วม(ร่วมมือ) กับพระองค์อย่างไร
ปัญหาอุปสรรคความทุกข์ยากลำบากจึงเป็นบททดสอบเพื่อให้เราเกิดความเข้มแข็งสามารถผ่านไปได้ก็โดยอาศัยพระพรความช่วยเหลือจากพระเป็นเจ้าเท่านั้น
หลายคนอาจจะคิดว่าทำไมเราคริสตชนมักจะอ้างถึงพระเสมอเวลาที่พบกับ“ทางตัน”ไม่สามารถอธิบายให้เป็นเหตุเป็นผลได้ประเด็นนี้เราสามารถตอบได้ว่าเพราะเราเป็นคริสตชนนั่นแหละหมายถึงเราเชื่อว่า“ถ้าปราศจากพระแล้วเราทำอะไรไม่ได้”เป็นพระองค์เองที่ทรงสร้างเรามาให้เราดำเนินชีวิตไปด้วยตัวของเราเองโดยพระองค์จะทรงดูอยู่ห่างๆให้อิสระกับเราและทรงประทานพระพรความช่วยเหลือที่จำเป็นทรงให้เรามีส่วนร่วมในแผนการแห่งความรอดพ้นดังที่ได้กล่าวไปแล้ว
3. ดังนี้เองเราจึงต้องมีพระอยู่กับเราเสมอเพื่อเราจะสามารถก้าวพ้นความทุกข์ยากอุปสรรคและปัญหาต่างๆไปได้ชีวิตของเราจึงเป็นทางกางเขนจากความทุกข์ยากต่างๆที่สุดก็จะพบกับชัยชนะคือความชื่นชมยินดี
ข้อคิดสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือเมื่อพบปัญหาชีวิตเราต้องทำเหมือนพระองค์คือ“เข้าไปในถิ่นทุรกันดารและณที่นั้นเองเราจะพบหนทางความจริงและชีวิต”…สวัสดีครับ.
(ต่อสัปดาห์หน้า)