• หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us

2014-11-02 ทุกคนต้องเป็นนักบุญ

ทุกคนต้องเป็นนักบุญ

วันฉลองนักบุญทั้งหลายทุกๆปี เป็นวันที่เตือนสติคริสตชนแต่ละคนว่า “ทุกคนต้องเป็นนักบุญ”

วันแรกที่เราได้รับศีลล้างบาปเป็นวันเริ่มต้นของการเดินทางไปสู่ความเป็นนักบุญ

ศีลล้างบาป ถือเป็นการเรียกและการเลือกของพระเป็นเจ้าสำหรับพวกเราแต่ละคนไม่ว่าจะเป็นฆราวาสธรรมดา หรือ พระสงฆ์นักบวช

ข้อสะกิดใจก็คือ ศีลล้างบาปเรียกและเลือกคริสตชนแต่ละคนให้เป็นนักบุญตามฐานะของการเป็นฆราวาส แต่ศีลล้างบาปก็เป็นการเรียกและเลือกเป็นกรณีพิเศษสำหรับพระสงฆ์ นักบวช และผู้ถวายตัว ให้เป็นนักบุญเด่นกว่าฆราวาสธรรมดา คำว่า เด่นกว่ามีความหมายว่า ความเป็นนักบุญจะต้องปรากฏชัดให้เห็นเป็นรูปธรรม มากกว่าบุคคลที่เป็นฆราวาสธรรมดาๆ

ศีลล้างบาป เปลี่ยนแปลงเราแต่ละคนให้กลายเป็นบุตรของพระเป็นเจ้า มีสิทธิ์ที่จะเรียกพระเป็นเจ้าว่า เป็นบิดา และ เราแต่ละคนจึงมีฐานะเป็นน้องของพระเยซูคริสตเจ้า

พี่ชายคนโตจึงสั่งและสอนน้องไว้ดังนี้

“ฉะนั้น ท่านจงเป็นคนดีอย่างสมบูรณ์ ดังที่พระบิดาเจ้าสวรรค์ของท่าน ทรงความดีอย่างสมบูรณ์เถิด” (มัทธิว 5:48)

คำสั่งนี้ยังคงเป็นคำสั่งที่ไม่เปลี่ยนแปลง และดังก้องอยู่ตลอดเวลา 2 พันกว่าปีที่ผ่านมา

เมื่อเราคริสตชนแต่ละคน จะต้องเป็นคนดีอย่างสมบูรณ์ดังเช่นพระบิดาทรงเป็นผู้ดีอย่างสมบูรณ์ ก็แปลว่าเราแต่ละคนต้องเป็นนักบุญ

และการเป็นนักบุญของเราแต่ละคนก็ไม่ใช่ว่าจะต้องให้พระศาสนจักรเป็นผู้แต่งตั้ง แต่เราแต่ละคนจะต้องเป็นนักบุญ ด้วยเนื้อหาของชีวิตของการเป็นคริสตชนของการมีชีวิตของพระเจ้าในตัวเรา

การเป็นคริสตชนจึง เรียกร้องให้เราแต่ละคนต้องเป็นนักบุญ

และการเป็นนักบุญก็ไม่ใช่ว่า เราจะต้องเลือกเอานักบุญท่านนั้นท่านนี้เป็นตัวอย่างเป็น โมเดลหรือรูปแบบ ของการเป็นนักบุญเรามีเพียงคนเดียวคือ พระเยซูคริสตเจ้า ที่เป็นรูปแบบ

ชีวิตของพระเยซูคริสตเจ้า คือ รูปแบบแท้ๆ ของการเป็นนักบุญที่เราจะต้อง เอามาเป็นตัวอย่างและดำเนินชีวิตตามเพราะ “เรากับพระบิดาเป็นหนึ่งเดียวกัน” (ยอห์น 10:30)

ดังนั้น ถ้าชีวิตของเราสนิทเป็นหนึ่งเดียวกับพระเยซูเจ้า ชีวิตของเราก็จะสนิทเป็นหนึ่งเดียวกับพระบิดาเช่นเดียวกัน

แต่ “การมีชีวิตที่สมบูรณ์ เฉกเช่นพระบิดา” จะต้องทำตั้งแต่เรายังไม่ตาย

เราต้องเริ่มเป็นนักบุญตั้งแต่ตอนที่เรายังมีชีวิตอยู่ นั่นก็หมายความว่า เราจะต้องลอกเลียนแบบชีวิต หรือ ถอดแบบชีวิตของพระเยซูเจ้า เข้ามาไว้ในตัวของเราในเวลานี้และเดี่ยวนี้ คือ ตั้งแต่เรายังไม่ตาย

ทุกๆวัน ทุกๆชั่วโมง ทุกๆนาที และวินาที คือ การถอดแบบชีวิตของพระเยซูเจ้าเข้ามาไว้ในตัวของเรา ทีละเล็กทีละน้อย

ในวันนี้เราคงจะต้องมาตั้งคำถามตัวเราเองว่า

ตัวฉันในฐานะที่เป็นฆราวาส มีชีวิตเหมือนพระเยซูเจ้าแล้วหรือยัง?

ตัวฉันในฐานะที่เป็นพระสงฆ์มีชีวิตเหมือนพระเยซูเจ้าแล้วหรือยัง?

ตัวฉันในฐานะที่เป็นพระสังฆราชมีชีวิตเหมือนพระเยซูเจ้าแล้วหรือยัง?

ตัวฉันที่เป็นนักบวชหญิงมีชีวิตเหมือนพระเยซูแล้วหรือยัง?

ตัวฉันที่เป็นนักบวชชายมีชีวิตเหมือนพระเยซูเจ้าแล้วหรือยัง?

และ คำถามสุดท้าย ตัวฉันกำลังแสวงหาความเป็นและความเหมือน พระเยซูคริสตเจ้า หรือ ตัวฉันกำลังแสวงหาสิ่งอื่นที่ไม่ใช่พระเยซูคริสตเจ้า????

โดยเอาพระเยซูคริสตเจ้าเป็นเครื่องมือ???

เกี่ยวกับวัดฯ

  • ประวัติอาสนวิหาร
  • แม่พระอัสสัมชัญ
  • บรรณฐาน
  • สถาปัตยกรรม
  • กระจกสี
  • ภาษาลาตินในวัด

บริการต่างๆ

  • ล้างบาปทารก / Baptisms
  • แต่งงาน / Wedding
  • การขออนุญาตถ่ายภาพ

สารวัดย้อนหลัง

  • บทสนทนาจากเจ้าอาวาส
  • คิดสักนิด...สะกิดใจ...
  • ปลัดแก่ ซอย40
  • ปี 2012

บุคลากร/องค์กรต่างๆในวัด

  • พระสงฆ์
  • สำนักงานวัด
  • สภาภิบาล
  • นักขับร้อง
  • สโมสรเยาวชน

ลิงค์คาทอลิก

  • สภาสังฆราชคาทอลิกประเทศไทย
  • อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
  • หอจดหมายเหตุ อัครสังฆมณฑลฯ
  • สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย
Facebook-f Youtube