ทุกคนต้องเป็นนักบุญ
วันฉลองนักบุญทั้งหลายทุกๆปี เป็นวันที่เตือนสติคริสตชนแต่ละคนว่า “ทุกคนต้องเป็นนักบุญ”
วันแรกที่เราได้รับศีลล้างบาปเป็นวันเริ่มต้นของการเดินทางไปสู่ความเป็นนักบุญ
ศีลล้างบาป ถือเป็นการเรียกและการเลือกของพระเป็นเจ้าสำหรับพวกเราแต่ละคนไม่ว่าจะเป็นฆราวาสธรรมดา หรือ พระสงฆ์นักบวช
ข้อสะกิดใจก็คือ ศีลล้างบาปเรียกและเลือกคริสตชนแต่ละคนให้เป็นนักบุญตามฐานะของการเป็นฆราวาส แต่ศีลล้างบาปก็เป็นการเรียกและเลือกเป็นกรณีพิเศษสำหรับพระสงฆ์ นักบวช และผู้ถวายตัว ให้เป็นนักบุญเด่นกว่าฆราวาสธรรมดา คำว่า เด่นกว่ามีความหมายว่า ความเป็นนักบุญจะต้องปรากฏชัดให้เห็นเป็นรูปธรรม มากกว่าบุคคลที่เป็นฆราวาสธรรมดาๆ
ศีลล้างบาป เปลี่ยนแปลงเราแต่ละคนให้กลายเป็นบุตรของพระเป็นเจ้า มีสิทธิ์ที่จะเรียกพระเป็นเจ้าว่า เป็นบิดา และ เราแต่ละคนจึงมีฐานะเป็นน้องของพระเยซูคริสตเจ้า
พี่ชายคนโตจึงสั่งและสอนน้องไว้ดังนี้
“ฉะนั้น ท่านจงเป็นคนดีอย่างสมบูรณ์ ดังที่พระบิดาเจ้าสวรรค์ของท่าน ทรงความดีอย่างสมบูรณ์เถิด” (มัทธิว 5:48)
คำสั่งนี้ยังคงเป็นคำสั่งที่ไม่เปลี่ยนแปลง และดังก้องอยู่ตลอดเวลา 2 พันกว่าปีที่ผ่านมา
เมื่อเราคริสตชนแต่ละคน จะต้องเป็นคนดีอย่างสมบูรณ์ดังเช่นพระบิดาทรงเป็นผู้ดีอย่างสมบูรณ์ ก็แปลว่าเราแต่ละคนต้องเป็นนักบุญ
และการเป็นนักบุญของเราแต่ละคนก็ไม่ใช่ว่าจะต้องให้พระศาสนจักรเป็นผู้แต่งตั้ง แต่เราแต่ละคนจะต้องเป็นนักบุญ ด้วยเนื้อหาของชีวิตของการเป็นคริสตชนของการมีชีวิตของพระเจ้าในตัวเรา
การเป็นคริสตชนจึง เรียกร้องให้เราแต่ละคนต้องเป็นนักบุญ
และการเป็นนักบุญก็ไม่ใช่ว่า เราจะต้องเลือกเอานักบุญท่านนั้นท่านนี้เป็นตัวอย่างเป็น โมเดลหรือรูปแบบ ของการเป็นนักบุญเรามีเพียงคนเดียวคือ พระเยซูคริสตเจ้า ที่เป็นรูปแบบ
ชีวิตของพระเยซูคริสตเจ้า คือ รูปแบบแท้ๆ ของการเป็นนักบุญที่เราจะต้อง เอามาเป็นตัวอย่างและดำเนินชีวิตตามเพราะ “เรากับพระบิดาเป็นหนึ่งเดียวกัน” (ยอห์น 10:30)
ดังนั้น ถ้าชีวิตของเราสนิทเป็นหนึ่งเดียวกับพระเยซูเจ้า ชีวิตของเราก็จะสนิทเป็นหนึ่งเดียวกับพระบิดาเช่นเดียวกัน
แต่ “การมีชีวิตที่สมบูรณ์ เฉกเช่นพระบิดา” จะต้องทำตั้งแต่เรายังไม่ตาย
เราต้องเริ่มเป็นนักบุญตั้งแต่ตอนที่เรายังมีชีวิตอยู่ นั่นก็หมายความว่า เราจะต้องลอกเลียนแบบชีวิต หรือ ถอดแบบชีวิตของพระเยซูเจ้า เข้ามาไว้ในตัวของเราในเวลานี้และเดี่ยวนี้ คือ ตั้งแต่เรายังไม่ตาย
ทุกๆวัน ทุกๆชั่วโมง ทุกๆนาที และวินาที คือ การถอดแบบชีวิตของพระเยซูเจ้าเข้ามาไว้ในตัวของเรา ทีละเล็กทีละน้อย
ในวันนี้เราคงจะต้องมาตั้งคำถามตัวเราเองว่า
ตัวฉันในฐานะที่เป็นฆราวาส มีชีวิตเหมือนพระเยซูเจ้าแล้วหรือยัง?
ตัวฉันในฐานะที่เป็นพระสงฆ์มีชีวิตเหมือนพระเยซูเจ้าแล้วหรือยัง?
ตัวฉันในฐานะที่เป็นพระสังฆราชมีชีวิตเหมือนพระเยซูเจ้าแล้วหรือยัง?
ตัวฉันที่เป็นนักบวชหญิงมีชีวิตเหมือนพระเยซูแล้วหรือยัง?
ตัวฉันที่เป็นนักบวชชายมีชีวิตเหมือนพระเยซูเจ้าแล้วหรือยัง?
และ คำถามสุดท้าย ตัวฉันกำลังแสวงหาความเป็นและความเหมือน พระเยซูคริสตเจ้า หรือ ตัวฉันกำลังแสวงหาสิ่งอื่นที่ไม่ใช่พระเยซูคริสตเจ้า????
โดยเอาพระเยซูคริสตเจ้าเป็นเครื่องมือ???