สวัสดีครับ

(ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว)

หลายคนสงสัยว่า“จะทำอย่างไรให้พระวาจามาเป็นชีวิต”ดังที่ได้ยินคุณพ่อพูดถึงในบทเทศน์ได้ยินคนแนะนำให้ดำเนินชีวิตตามพระวาจาหลายครั้งคำแนะนำก็เป็นเพียงการบอกว่าต้องเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้หลายครั้งขาดคำว่า“อย่างไร”คือต้องทำอย่างไรถึงจะเป็นอย่างนั้น…

วิธีการ“แบ่งปันพระวาจา”ถือเป็นวิธีหนึ่งที่ดีที่ตอบว่าต้องทำอย่างไรให้พระวาจามาเป็นชีวิตดังที่ได้กล่าวไปบ้างแล้วจะเห็นว่ามีขั้นตอนต่างๆเพียงกระทำตามขั้นตอนที่กำหนดไว้อย่างดีทำด้วยใจคือตั้งใจทำจริงๆ  พระพรของพระเป็นเจ้าจะเพียงพอในการทำให้บรรลุผลสำเร็จได้…

แน่นอนว่าการนำพระวาจามาใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันนั้นจะต้องทำการประยุกต์ให้เข้ากับบริบทความเป็นจริงในชีวิตมิใช่นำมากระทำตามตัวอักษรหากแต่ต้องนำเอาจิตตารมณ์หรือบทสอนที่แฝงอยู่นั้นมาปฏิบัติและต้องเป็นเรื่องที่สามารถปฏิบัติได้และไม่ใช่เรื่องที่เป็นความผิดหรือเกิดความเสียหายต่อตนเองและผู้อื่น

ส่วนใหญ่แล้วพระวาจาของพระโดยเฉพาะใน“พระวรสาร” จะเป็นเรื่องอุปมาเรื่องเปรียบเทียบเพราะพระเยซูเจ้าทรงสอนด้วยการใช้อุปมาและเรื่องเปรียบเทียบเสมอซึ่งประชาชนจะเข้าใจง่ายและจำได้

วิธีการที่จะเข้าใจถึงความหมายที่แฝงอยู่หรือสิ่งที่พระเยซูทรงต้องการจะสอนนั้นเวลาที่เราฟังหรืออ่านพระวาจาจึงต้องมี“มโน”ว่าเราอยู่ในเหตุการณ์นั้นอยู่ตรงนั้นเห็นและได้ยินเรื่องราวต่างๆด้วยตนเองอย่างเช่นบทพระวรสารวันนี้พูดถึง“บุญลาภ8 ประการ”หรือเคล็ดลับในการดำเนินชีวิตของผู้ที่มีความสุขและเป็นหนึ่งเดียวกับพระเป็นเจ้า… เราต้องมีมโนภาพว่าเราเป็นคนหนึ่งที่นั่งอยู่ต่อหน้าพระเยซูอยู่กับประชาชนที่ห้อมล้อมพระองค์อยู่และมองเห็นได้ยินสิ่งที่พระองค์ตรัสอย่างชัดเจนอย่างนี้เราก็จะเข้าใจพระวาจาที่พระองค์ตรัสมากยิ่งขึ้นจะมีกำลังใจในการปฏิบัติตามพระวาจานั้นอย่างดี

วันนี้จึงอยากจะแนะนำให้ทุกท่านเมื่ออ่านหรือฟังพระวาจาโดยเฉพาะพระวรสารให้ตั้งใจดีๆ  มี“มโน” อย่างที่กล่าวไปแล้วและเลือกพระวาจาสักประโยคหนึ่งที่ประทับใจนำไปประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน……สวัสดีครับ.