สวัสดีครับ
สัปดาห์ละครั้ง อาทิตย์ที่ 5 กรกฎาคม 2015
ในสถานการณ์ปัจจุบันสังคมโลกของเราตกอยู่ในความหวาดกลัวกันอยู่หลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรุนแรงที่มีการเข่นฆ่ากันแบบไม่มีเหตุผลฐานะเศรษฐกิจของประเทศกรีซที่กำลังจะวิกฤตขั้นล้มละลายและที่ดูเหมือนระแวงจนต้องระวังกันไปทั่วโลกก็คือการระบาดของไวรัสเมอร์สซึ่งเป็นข่าวใหญ่อยู่ตลอดมาเป็นเดือนแล้วส่งผลถึงตัวเราทุกๆคนได้รับคำแนะนำให้ใช้วิธีป้องไม่ประมาทวันก่อนไปโรงพยาบาลเขามีการคัดกรองผู้มาใช้บริการทุกคนเลยวันนี้จึงอยากแบ่งปันเพื่อความรู้เล็กๆน้อยๆ
ไวรัสเมอร์สเป็นโรคติเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่2012 มีชื่อเป็นทางการว่า“The 2012 Novel Coronavirus”เรียกย่อๆว่าMERS-CoVย่อมาจากMiddle East respiratory syndrome coronavirus โดยพบครั้งแรกในประเทศแถบตะวันออกกลางเช่นซาอุดิอาระเบียจอร์แดนกาตาร์สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เป็นต้น
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์2012 คืออะไร?
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่2012 เป็นเชื้อสายพันธุ์หนึ่งในกลุ่มไวรัสโคโรน่าถูกค้นพบครั้งแรกในเดือนเมษายน2555 เป็นเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ไม่เคยพบในคนมาก่อนอยู่ในกลุ่มเดียวกันกับโรคซาร์สแต่คนละสายพันธุ์กัน
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าแพร่กระจายได้อย่างไร?
ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนว่าเชื้อไวรัสนี้ติดต่อและแพร่กระจายโรคได้อย่างไรองค์การอนามัยโลกได้ให้ประเทศสมาชิกเฝ้าระวังสถานการณ์โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจรุนแรงเฉียบพลันอย่างใกล้ชิดรวมถึงไปตรวจสอบลักษณะที่ผิดปกติของผู้ป่วยหรือผู้ป่วยปอดบวมอย่างระมัดระวังและองค์การอนามัยโลกจะเผยแพร่ข้อมูลให้ทราบต่อไป
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าจะมีอาการอย่างไร?
มีอาการไข้ไอคล้ายไข้หวัดใหญ่บางรายจะมีอาการรุนแรงเช่นหายใจหอบหายใจลำบากปอดบวมระบบหายใจล้มเหลวซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้ดังนั้นจึงควรมีการป้องกันการแพร่กระจายในระบบทางเดินหายใจโดยสวมหน้ากากเวลาไอจามและหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่มีคนหนาแน่นผู้ป่วยบางรายมีอาการในระบบทางเดินอาหารได้แก่ท้องร่วงร่วมด้วยบางรายมีภาวะไตวายส่วนผู้ที่มีโรคประจำตัวซึ่งทำให้ภูมิคุ้มกันบกพร่องการแสดงของโรคอาจมีความแตกต่างออกไป
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้หรือไม่?
มีการติดเชื้อจากคนสู่คนในกลุ่มผู้ป่วยด้วยกันหลายกลุ่มในวงจำกัดโดยพบในบุคลากรทางการแพทย์ผู้ดูแลผู้ป่วยสมาชิกในครอบครัวเดียวกันและระหว่างเพื่อนและขณะนี้ยังไม่มีการแพร่กระจายของเชื้อในวงกว้างสู่ชุมชน
คำแนะนำสำหรับผู้เดินทางไปต่างประเทศ
ก่อนการเดินทางให้เตรียมร่างกายให้พร้อมหากมีโรคประจำตัวควรระมัดระวังเป็นพิเศษและเน้นการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลเช่นการล้างมือเป็นต้น
ระหว่างอยู่ต่างประเทศหลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่แออัดโดยไม่จำเป็นผู้มีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อการป่วยควรใส่หน้ากากอนามัยและเปลี่ยนบ่อยๆล้างมือบ่อยๆด้วยน้ำและสบู่หากมีอาการคล้ายไข้หวัดเช่นมีไข้ไอจามมีน้ำมูกให้ใส่หน้ากากอนามัยและหลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้อื่นหากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการหอบเหนื่อยหายใจลำบากควรไปพบแพทย์
หลังเดินทางกลับมาในประเทศไทยผู้ที่เดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยงให้สังเกตอาการผิดปกติต่ออีก30 วัน, ผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ที่เดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยงให้สังเกตอาการ14 วัน, หากมีอาการไข้ไอเจ็บคอมีน้ำมูกควรพักผ่อนอยู่กับบ้านหากอาการไม่ดีขึ้นภายใน2 วันหรือมีอาการไข้สูงหอบเหนื่อยหายใจลำบากควรไปพบแพทย์พร้อมทั้งแจ้งประวัติการเดินทาง
คำแนะนำประชาชนทั่วไป
– หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไอหรือจาม
– ควรล้างมือบ่อยๆด้วยน้ำสบู่โดยเฉพาะเมื่อสัมผัสกับสารคัดหลั่งจากผู้ป่วยก่อนรับประทานอาหารและหลังขับถ่าย
– ควรเลี่ยงหลีกพื้นที่แออัดหรือที่ชุมชนสาธารณะที่มีคนอยู่เป็นจำนวนมากหากจำเป็นต้องเข้าไปในพื้นที่แออัดควรพิจารณาใส่หน้ากากอนามัยเพื่อลดความเลี่ยงในการติดโรค
– ปฏิบัติตามหลักสุขอนามัยที่ดีได้แก่กินร้อนช้อนกลางล้างมือบ่อยๆ
…สวัสดีครับ…ฮัดเช้ย!!!!