• หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us

2015-08-23 หงุดหงิด

สวัสดีครับ

สัปดาห์ละครั้ง อาทิตย์ที่ 23 ส.ค. 2015

          วันนี้อยากจะพูดถึงอาการของคนเราประการหนึ่งซึ่งเชื่อว่าทุกคนเคยเป็นจะเป็นบ่อยมากน้อยแค่ไหนก็แล้วแต่แต่ละคนอาการที่ว่านี้ก็คือ“หงุดหงิด”

          ไปเปิดดูพจนานุกรมเขาให้ความหมายว่าโกรธง่ายมีอารมณ์ค้างอยู่ในใจซึ่งฟังดูก็รู้สึก“หงุดหงิด”เหมือนกันเพราะคำอธิบายมันยังไม่กระจ่างชัดดูเหมือนมันจะมีอะไรที่น่าจะอธิบายได้มากกว่านี้ครั้นมานั่งคิดพิจารณาดูจากประสบการณ์ของตนเองก็พอจะสรุปได้ว่าอาการหงุดหงิดนี้มันเกิดขึ้นเพราะถูกรบกวนจากภายนอกเป็นเบื้องแรกและมันส่งผลให้ภายในจิตใจของเราไม่สงบวุ่นวายวิตกกังวลตามมาด้วย

          สาเหตุภายนอกที่กล่าวมานี้ส่วนมากก็จะมาจากการกระทำคำพูดของผู้อื่นเช่นเราไม่ถูกใจในการกระทำหรือคำพูดของใครบางคนหรือบางครั้งก็มาจากเหตุการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นก็ได้เช่นฝนตกน้ำท่วมอากาศร้อนฯลฯ

          หงุดหงิดหรือพูดอีกอย่างว่าอารมณ์เสียนี้ทำให้คนเราแสดงออกด้วยความรุนแรงในคำพูดในการกระทำตามมาเพราะ“ทนไม่ได้”ต้องเอาคืนกันบ้างหลายครั้งจึงเกิดความเลวร้ายตามมาอาจด้วยการทำร้ายร่างกายกันทะเลาะวิวาทขาดสติบานปลายไปอีกมากมายตามมา

          ครั้นมาดูความเป็นจริงและอยู่กับความจริงก็จะพบว่าในชีวิตประจำวันของเรามักจะมีเรื่องราวที่ทำให้“หงุดหงิด”อยู่มากมายเพราะมีเรื่องราวมากมายที่“ไม่ถูกใจ”เราคือไม่เป็นไปดังที่เราคิดหรือคาดหวังและถ้าทำการวิจัยกันจริงๆก็อาจจะพบว่าในโลกเรามีสิ่งที่ไม่ถูกใจมากกว่าสิ่งที่ถูกใจ

          เมื่อเป็นเช่นนี้เราจึงได้ยินคำสอนหลักธรรมของทุกศาสนาที่บอกให้มนุษย์เรารู้จัก“ยับยั้งชั่งใจ”รู้จักสงบจิตสงบใจมองเหตุการณ์หรือเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วย“สติ” คือไม่ปล่อยไปตามอารมณ์ความรู้สึกเพียงชอบหรือไม่ชอบถูกใจหรือไม่ถูกใจแต่จะมองหาสาเหตุที่ลึกลงไปว่าทำไมเป็นอย่างนั้นเมื่อคนเรารู้จักใช้สติก็จะเกิดปัญญาในการคิดพิจารณาอย่างถี่ถ้วนรอบคอบจะเกิดความเข้าใจและเมื่อมีความเข้าใจก็จะยอมรับและอยู่กับความจริงได้เช่นพบว่าคนนี้เขามีนิสัยอย่างนี้ชอบนินทาคนจะปรับเปลี่ยนเขาในทันทีคงลำบากหรือฤดูนี้เป็นหน้าร้อนอากาศมันก็ต้องร้อนเป็นธรรมดาและยังมีอีกหลายแห่งในโลกร้อนกว่าเราอีกอย่างนี้ก็จะ“ทำใจได้”

          สุดท้ายอยากจะเป็นกำลังใจให้ทุกท่านอยู่กับทุกคนเป็นต้นคนใกล้ตัวในครอบครัวด้วยความเข้าอกเข้าใจซึ่งกันและกันเพื่อจะได้ไม่“หงุดหงิด”เพราะมีหลายคนบอกว่า“หงุดหงิดบ่อยๆจะทำให้แก่เร็ว”จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้แต่ที่แน่ๆคือไม่ต้องการจะบอกว่าคนทีแก่แล้วเพราะหงุดหงิดเป็นหลักนะครับ…สวัสดีครับ

เกี่ยวกับวัดฯ

  • ประวัติอาสนวิหาร
  • แม่พระอัสสัมชัญ
  • บรรณฐาน
  • สถาปัตยกรรม
  • กระจกสี
  • ภาษาลาตินในวัด

บริการต่างๆ

  • ล้างบาปทารก / Baptisms
  • แต่งงาน / Wedding
  • การขออนุญาตถ่ายภาพ

สารวัดย้อนหลัง

  • บทสนทนาจากเจ้าอาวาส
  • คิดสักนิด...สะกิดใจ...
  • ปลัดแก่ ซอย40
  • ปี 2012

บุคลากร/องค์กรต่างๆในวัด

  • พระสงฆ์
  • สำนักงานวัด
  • สภาภิบาล
  • นักขับร้อง
  • สโมสรเยาวชน

ลิงค์คาทอลิก

  • สภาสังฆราชคาทอลิกประเทศไทย
  • อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
  • หอจดหมายเหตุ อัครสังฆมณฑลฯ
  • สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย
Facebook-f Youtube