สวัสดีครับ

(ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว)

          วันอาทิตย์ที่13 ธันวาคม2015 ความสำคัญอยู่ที่การเปิดปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมซึ่งเป็นปีศักดิ์สิทธิ์สากลที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสทรงประกาศให้พระศาสนจักรทั่วโลกทราบไปแล้วโดยเริ่มตั้งแต่วันที่8 ธันวาคม2015-วันที่ 20 พฤศจิกายน2016 เพื่อทรงเน้นให้สมาชิกของพระศาสนจักรทุกคนตระหนักในพระเมตตาของพระเป็นเจ้าที่ทรงรักมนุษย์และให้อภัยเสมอเพื่อลงสู่ภาคปฏิบัติจึงทรงให้เป็นแนวปฏิบัติโดยเน้นเรื่องศีลอภัยบาปและการคืนดีเป็นพิเศษและยังคงให้มีการจาริกแสวงบุญเพื่อเตือนความเชื่อความศรัทธาของเราคริสตชนเป็นพิเศษด้วย

            พิธีกรรมวันนี้จึงเด่นชัดที่การทำพิธีเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีความหมายถึงการกลับมาสู่หนทางแห่งความรอดพ้นนั่นเอง

            สำหรับอาสนวิหารอัสสัมชัญของเรายังถือเป็นโอกาสสำคัญในการเปิดใช้กระทำศาสนพิธีต่างๆอย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่งหลังจากปิดเพื่อทำการบูรณะซ่อมแซมไปตั้งแต่เดือนสิงหาคมค.ศ.2014

            ดังนั้นพิธีในวันนั้นจึงต้องมีการทำพิธีถวายอาสนวิหารแด่พระเป็นเจ้าอีกครั้งหนึ่งเพราะได้ทำการบูรณะครั้งใหญ่มีการปรับเปลี่ยนพระแท่นและตัวอาสนวิหารหลายอย่างพิธีดังกล่าวจึงต้องกระทำทำนองเดียวกับการอภิเษกอาสนวิหารนั่นเองและจากนี้ไปทุกวันที่13 ธันวาคมของทุกปีจะต้องมีการระลึกถึงการอภิเษกอาสนวิหารนี้เสมอ

            กิจกรรมต่างๆในวันนั้นจะมีการแสดงดนตรีศักดิ์สิทธิ์เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของดนตรีศักดิ์สิทธิ์หรือที่เรารู้จักกันในนามว่า“เพลงวัด”นั่นเองจะมีนักขับร้องจากหลายวัดและบางสังฆมณฑลร่วมกันขับร้องและแสดงอย่างไพเราะงดงามมีความหมายและมีความรู้หลายสิ่งหลายอย่างที่เรายังไม่รู้การแสดงจะจัดที่หอประชุมชั้น6 โรงเรียนอัสสัมชัญบางรักระหว่างเวลา14.30-16.30 น.

            จากนั้นจะมีอาหารเย็นสำหรับทุกท่านที่โรงเรียนอัสสัมชัญศึกษาและเวลา18.00 น. ขบวนแห่ของพระสงฆ์นักบวชและพี่น้องสัตบุรุษจะเริ่มจากโรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์มายังประตูอาสนวิหารคาดว่าน่าจะมีพี่น้องสัตบุรุษมาร่วมพิธีไม่น้อยว่า2,000 คนบางส่วนจะต้องนั่งอยู่ภายนอกอาสนวิหารแต่ก็สามารถร่วมพิธีได้ผ่านทางการถ่ายทอดวงจรปิดส่วนใครจะอยู่ในวัดหรืออยู่นอกวัดทางคณะกรรมการสภาภิบาลวัดคงจะมีบัตรให้เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยอีกครั้งหนึ่ง

            การเดินทางมารวมพิธีให้ดีที่สุดสำหรับผู้ที่อยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑลไม่ไกลมากจะมาโดยรถประจำทางรถไฟฟ้าเรือโดยสารหรือรถแท็กซี่น่าจะสะดวกสุด… และสุดท้ายขอคำภาวนาจากทุกท่านเพื่องานเฉลิมฉลองต่างๆที่จะเกิดขึ้นนี้ผ่านไปด้วยดีและเกิดคุณค่ามากที่สุดสำหรับชีวิตจิตใจของทุกท่าน…สวัสดีครับ.