สวัสดีครับ
สัปดาห์ละครั้ง อาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน 2558
ใกล้วันฉลองเปิดปี-ประตูศักดิ์สิทธิ์และการถวายอาสนวิหารแด่พระเจ้าหลังจากที่ทำการบรูณะครั้งใหญ่ที่สุดโดยใช้เวลากว่า2 ปีคืองานจะมีขึ้นในภาคบ่ายและค่ำของวันอาทิตย์ที่13 ธันวาคม2015 นี้ดังรายละเอียดต่างๆที่ท่านทั้งหลายได้ทราบแล้วจากการประชาสัมพันธ์ของทางวัด
ในช่วงเวลาที่เหลือประมาณ2 สัปดาห์นี้จึงถือเป็นการเตรียมการในรายละเอียดต่างๆมากที่สุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบต่างๆของอาสนวิหารที่ทำใหม่ไม่ว่าจะเป็นระฆังเครื่องปรับอากาศระบบเสียงระบบแสงบริเวณพระแท่นฯลฯทั้งนี้เพื่อว่าหากมีอะไรบกพร่องจะได้ทำการแก้ไขได้ทัน
จะพูดไปแล้วการบูรณะอาสนวิหารของเราในครั้งนี้นับเป็นการบรูณะครั้งสำคัญที่สุดก็ว่าได้เพราะเท่ากับเป็นการเตรียมรับการฉลองครบ100 ปีของอาสนวิหารหลังนี้ในปี2019 ด้วยความจริงตามกำหนดการแล้วเราคาดว่าจะทำการเปิดและถวายอาสนวิหารอย่างเป็นทางการในวันคริสตสมภพคือคืนวันที่24 ธันวาคม2015 แต่เนื่องจากสมเด็จพระสันตะปาปาทรงประกาศปีศักดิ์สิทธิ์แห่งเมตตาธรรมระหว่างวันที่8 ธันวาคม2015-20 พฤศจิกายน2016 ทางอัครสังฆมณฑลจึงเลื่อนกำหนดวัดเปิดและถวายอาสนวิหารขึ้นเป็นวันที่13 ธันวาคม2015 เพื่อทำพิธีเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ตามคำแนะนำของสันตะสำนักและเลือกเวลาเย็น18.00 น. เพื่อความสะดวกและยังเป็นเวลาเดียวกับการทำพิธีเปิดประตูศักดิ์สิทธิ์ของมหาวิหารนักบุญเปโตรที่กรุงโรมด้วยเหตุนี้จึงต้องกระทำการระดมช่างและเจ้าหน้าที่ทำงานทั้งกลางวันและกลางคืนมาถึงณวันนี้คาดว่าทุกอย่างน่าจะดำเนินไปได้ด้วยดีพอสมควร
ส่วนงานตกแต่งเรื่องกระจกสีและลวดลายบนฝาผนังคงต้องค่อยๆทำไปเนื่องจากเป็นงานศิลปะซึ่งไม่อาจจะเร่งเวลาได้ตามต้องการตั้งแต่วันที่13 ธันวาคม2015 เป็นต้นไปอาสนวิหารอัสสัมชัญของเรากลับมาเปิดใช้อย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่งและตามธรรมเนียมปฏิบัตินับแต่นี้เป็นต้นไปทุกๆปีในวันที่13 ธันวาคมเราก็จะมีการระลึกถึงการถวายอาสนวิหารอัสสัมชัญเป็นประจำอีกด้วย
มีพี่น้องหลายคนถามว่าการบูรณะครั้งนี้ใช้งบประมาณในการนี้เท่าไหร่ณบัดนี้ยังมิได้ตัวเลขที่แน่นอนเพราะมีสิ่งที่เหนือความคาดหมายอยู่เสมอเช่นตอนแรกว่าจะไม่ทำพื้นแต่หลังจากสำรวจดูแล้วก็มีความจำเป็นต้องทำบริเวณภายนอกรอบๆอาสนวิหารก็เช่นกันเพราะต้องจัดระบบระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นฯลฯเป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่าการบูรณะโบราณสถานนั้นเป็นเรื่องยากลำบากและมีรายละเอียดมากซึ่งทำให้ต้องมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นไปด้วย
อย่างไรก็ตามการมีสถานที่สำหรับชุมนุมสรรเสริญพระเจ้าที่เหมาะสมก็เป็นสิ่งสำคัญด้วยแต่สิ่งสำคัญกว่าก็คือผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมสรรเสริญพระเป็นเจ้าในสถานที่ไม่ว่าอาสนวิหารวัดเล็กวัดน้อยวัดใหญ่ขนาดไหนต้องมีจิตใจที่สำนึกในความรักและเมตตาของพระองค์เป็นอันดับแรกต้องไม่ยึดติดกับวัตถุและปล่อยให้วัตถุเข้าไปแทนที่สำนึกแห่งความรักที่จะต้องมีต่อพระเจ้าและเพื่อนพี่น้องโดยเฉพาะผู้ยากไร้ในสังคมมิฉะนั้นวัดจะสวยสดงดงามขนาดไหนก็จะไม่มีคุณค่าหรือประโยชน์อะไรเลย…สวัสดีครับ.