สวัสดีครับ
สัปดาห์ละครั้ง อาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม 2557
(ต่อจากสัปดาห์ที่แล้ว)
การได้รับการสถาปนาพระฐานานุกรมหมายถึงการได้รับการยกระดับสภาพของการปกครองของพระศาสนจักรจากมิสซังขึ้นเป็นสังฆมณฑลซึ่งมีอำนาจบริหารปกครองมากขึ้นมีประมุขสังฆมณฑลอย่างเป็นทางการสามารถบริหารจัดการเรื่องต่างๆได้มากขึ้นเกือบจะเต็มรูปแบบมีเพียงบางเรื่องเท่านั้นที่ต้องให้พระศาสนจักรสากลตัดสินซึ่งลักษณะดังกล่าวเป็นเครื่องหมายว่าพระศาสนจักรท้องถิ่นแห่งนั้นเติบโตเข้มแข็งดูแลตนเองได้แล้วถ้าจะเปรียบเทียบกับชีวิตคนก็พอจะบอกได้ว่า“เป็นผู้ใหญ่แล้ว”แต่อย่างไรก็ตามก็ยังคงมีความสัมพันธ์กับพระศาสนจักรสากลเหมือนกับลูกที่ยังคงยึดติดกับพ่อแม่ของตนตลอดไปนั่นเอง
ดังนั้นสิ่งที่ตามมาก็คือระหว่างปีศักดิ์สิทธิ์ค.ศ. 2015 นี้เราทุกคนจึงต้องสำนึกและตระหนักในพระคุณความเมตตาและความรักของพระที่มีต่อเราในทุกประเด็นและด้วยเหตุนี้เองอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯโดยคณะกรรมการบริหารฯจึงมีแนวทางรณรงค์เชื้อเชิญให้พี่น้องทุกคนในอัครสังฆมณฑลฯทั้งพระสงฆ์นักบวชและฆราวาสได้ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกันในการให้ความสำคัญกับหัวข้อของการสมัชชาฯที่กำลังดำเนินอยู่คือ“ศิษย์พระคริสต์เจริญชีวิตประกาศข่าวดีใหม่”และขอให้เน้นไปที่“ครอบครัว” ซึ่งถือเป็นต้นกำเนิดของชีวิตการเป็นศิษย์พระคริสต์ที่แท้จริงเพราะในครอบครัวประกอบด้วยสมาชิกหลากหลายครบครันคือมีผู้อาวุโสปู่ย่าตายายมีบิดามารดามีเยาวชนลูกหลานมีพี่ป้าน้าอาตลอดจนอาจจะมีผู้ช่วยเหลือดูแล(คนงาน)
เพื่อเป็นแนวทางที่ชัดเจนยิ่งขึ้นคณะกรรมการบริหารฯจึงเสนอให้ใช้4 หัวข้อหลักในการพัฒนาปรับปรุงชีวิตในครอบครัวนั่นคือ
1. การกลับใจหมายถึงการกลับมามองดูชีวิตของเราแต่ละคนว่าเราเป็น“ศิษย์พระคริสต์”อย่างแท้จริงหรือไม่มีความสัมพันธ์กับพระองค์อย่างไรเชื่อมั่นและเลื่อมใสศรัทธาในพระองค์มากน้อยแค่ไหนโดยในภาคปฏิบัติจะขอให้ทุกเขตทุกวัดเอาใจใส่ให้ความสำคัญของ“ศีลอภัยบาป”ในแง่มุมของความรักและเมตตาของพระที่ทรงมีต่อเราให้เด่นชัดมากขึ้น
2. ศาสนสัมพันธ์ในครอบครัวซึ่งมีจำนวนมากกว่าครึ่งที่สามีภรรยานับถือศาสนาต่างกันทำอย่างไรให้อยู่ด้วยกันด้วยความรักความเป็นหนึ่งเดียวกันการอบรมก่อนแต่งงานเพียงระยะสั้นๆไม่น่าจะนำมาซึ่งความเข้าใจซึ่งกันและกันจริงๆได้ปัญหาเรื่องศาสนาอาจจะทำให้ครอบครัวแตกแยกในเวลาต่อมาก็เป็นได้ถ้าหากไม่ได้รับการชี้แนะและให้แนวทางที่ถูกต้อง
…สวัสดีครับ.