• หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us

2016-01-24 ผู้ประกาศข่าวดีแท้จริง ต้องมีชีวิตที่เป็นอิสระ

ผู้ประกาศข่าวดีแท้จริง ต้องมีชีวิตที่เป็นอิสระ

พระวรสารประจำวันอาทิตย์วันนี้ คือ วันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 3 เทศกาลธรรมดา เป็นพระวรสารที่ประกอบด้วย 2 ส่วน ส่วนที่ 1 คือ ลูกาบทที่ 1 ข้อ 1 ถึง 4 เป็นอารัมบทของท่านนักบุญลูกา ส่วนที่ 2 คือ ลูกาบทที่ 4 ข้อ 14 ถึง 21 พูดถึงการเริ่มเทศน์สอนของพระเยซูเจ้า

          เนื้อหาของส่วนที่ 2 สำคัญมากๆเพราะบรรยายถึงการทำงานของพระเยซูเจ้าคือ

1.       การประกาศข่าวดีแก่คนยากจน

2.       การปลดปล่อยแก่ผู้ถูกจองจำ

3.       การคืนสายตาแก่คนตาบอด

4.       การปลดปล่อยผู้ถูกกดขี่ให้เป็นอิสระ และ

5.       การประกาศปีแห่งความโปรดปรานจากองค์พระผู้เป็นเจ้า

งานทั้ง 5 เป็นงานของพระเยซูเจ้า แต่งานทั้ง 5 ก็ถูกส่งต่อให้เราคริสตชนแต่ละคน เพื่อทำงาน 5 อย่างนี้สืบต่อจากพระองค์

การทำงานทั้ง 5 ให้มีผลสำเร็จ ผู้ทำงานจะต้องมีชีวิตที่เป็นอิสระ คือ

1.       การประกาศข่าวดีแก่คนยากจน ผู้ประกาศต้องมีชีวิตที่ยากจน เช่นเดียวกับพระเยซูเจ้า การพูดว่า “ฉันจะยืนเคียงข้างคนยากจน” ขณะที่ชีวิตของตัวผู้ประกาศไม่ยากจน จะทำให้ผู้ยากจนที่ยืนเคียงข้างตนอับอายขายหน้ามากยิ่งขึ้น คนยากจนใส่เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง แต่ผู้ที่ยืนเคียงข้างคนยากจนกลับแต่งตัวหรูหราด้วยเสื้อผ้าราคาแพง พร้อมกับมีกลิ่นน้ำหอมยุโรปคละคลุ้งจากตัวผู้ประกาศ

2.       การปลดปล่อยแก่ผู้จองจำ เพื่อจะปลดปล่อยผู้ถูกจองจำ ตัวผู้ประกาศจะต้องไม่ถูกจองจำเสียเอง ผู้ประกาศในปัจจุบันจำนวนมากถูกจองจำด้วยกิเลสตัณหา และความอยาก กิเลสตัณหาและความอยากในทรัพย์สมบัติ อำนาจ และชื่อเสียง ทั้ง 3 อย่างนี้ มนุษย์กว่าครึ่งค่อนโลก รวมทั้งคริสตชนผู้ประกาศตนว่ามีความเชื่อในพระเยซูเจ้า กลับถูกจองจำ ติดกับต่อความอยากทั้ง 3 นี้ และมุ่งแสวงหามันอย่างหัวปักหัวปำ

3.       คืนสายตาแก่คนตาบอด ผู้ประกาศจะกลายเป็นคนตาบอดไปโดยปริยาย  ถ้าผู้ประกาศถูกจองจำและเป็นทาสของความกระสันหาในข้อที่ 2. กลายเป็นคนตามืดบอดในการดำเนินชีวิต แต่ละวันหลับหูหลับตา(ตาบอด) แสวงหาแค่เงินทอง เกียรติยศ ชื่อเสียง ไม่รู้ไม่เห็น ไม่ฟัง (ตาบอด+หูหนวก) คำสั่งสอนของพระเยซูเจ้า รอบรู้เรื่องพระวาจา แต่ไม่ปฏิบัติ

4.       การที่บุคคลผู้ประกาศมีชีวิตตามที่บรรยายไว้ในข้อ 1.,2. และ 3. สิ่งที่จะตามมาก็คือ เขาจะเริ่มเบียดเบียนพี่น้องรอบข้าง และจะใช้พี่น้องรอบข้างเป็นเครื่องมือในการแสวงหาสิ่งที่ตัวเองต้องการและกระสันหา ดังนั้นผู้ประกาศแทนที่จะเป็นผู้ปลดปล่อยผู้ถูกกดขี่ให้เป็นอิสระ ผู้ประกาศก็จะกลายเป็นผู้กดขี่ ทำให้พี่น้องกลายเป็นทาสของตัวเองไปโดยอัตโนมัติ และทาสในยุคปัจจุบันยังไม่หมดไป เพราะมีคนประเภทนี้ (คือ อยากได้มันทุกอย่างทั้ง เงินทอง อำนาจ และชื่อเสียง) มากขึ้นเรื่อยๆ

ดังนั้น   5.  ผู้จะประกาศปีแห่งความโปรดปรานจากองค์พระผู้เป็นเจ้า คือผู้ที่จะต้องปลดปล่อยตัวเองให้ 

เป็นอิสระ หลุดพ้นจากการเป็นทาสของทรัพย์สิน เงินทอง อำนาจ และเกียติยศชื่อเสียง ขณะเดียวกันก็ต้องช่วยผู้อื่นให้เป็นอิสระจากการเป็นทาสของ ทรัพย์สินเงินทอง อำนาจและเกียรติยศชื่อเสียง กลับสู่การเจริญชีวิตที่เรียบง่ายและติดดินเฉกเช่น องค์พระเยซูเจ้า และเมตตาธรรมและความรักของพระเจ้าก็จะกลับคืนสู่โลกและสังคมของเรา ปีแห่งเมตตาธรรมก็จะไม่ถูกจำกัดเฉพาะปี 2016 เพียงปีเดียว แต่ปีแห่งเมตตาธรรมจะดำเนินต่อๆไปทุกๆปี จนวันสิ้นโลก

เกี่ยวกับวัดฯ

  • ประวัติอาสนวิหาร
  • แม่พระอัสสัมชัญ
  • บรรณฐาน
  • สถาปัตยกรรม
  • กระจกสี
  • ภาษาลาตินในวัด

บริการต่างๆ

  • ล้างบาปทารก / Baptisms
  • แต่งงาน / Wedding
  • การขออนุญาตถ่ายภาพ

สารวัดย้อนหลัง

  • บทสนทนาจากเจ้าอาวาส
  • คิดสักนิด...สะกิดใจ...
  • ปลัดแก่ ซอย40
  • ปี 2012

บุคลากร/องค์กรต่างๆในวัด

  • พระสงฆ์
  • สำนักงานวัด
  • สภาภิบาล
  • นักขับร้อง
  • สโมสรเยาวชน

ลิงค์คาทอลิก

  • สภาสังฆราชคาทอลิกประเทศไทย
  • อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
  • หอจดหมายเหตุ อัครสังฆมณฑลฯ
  • สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย
Facebook-f Youtube