“ลำบากบ้าง เศร้าบ้าง ร้องไห้บ้าง ไม่เป็นไร…เพียงให้พระจิตนำทาง”
“วันนี้เป็นวันศักดิ์สิทธิ์ถวายแด่พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน อย่าเป็นทุกข์โศกเศร้าหรือร่ำไห้เลย จงกลับไปบ้าน เลี้ยงอาหารเลิศรส ดื่มเหล้าองุ่นอย่างดี และแบ่งปันอาหารให้คนที่ไม่มี เพราะวันนี้เป็นวันศักดิ์สิทธิ์ถวายแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา อย่าเศร้าใจเลย เพราะความยินดีจากพระองค์เป็นพละกำลังของท่าน” (นหม 8:9-10)
สัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวเศร้าหลายเรื่อง นักร้องชื่อดังอย่างสมาชิกวง “ดิอีเกิ้ล” หมดลมหายใจ อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย คุณ “สุทิน ไชยกิตติ” มาเสียไปในวันเดียวกัน และในวันที่ 18 มกราคม วันเดียวกันอีก ดาราผู้อยู่ในความทรงจำของครอบครัว ญาติมิตร เพื่อพี่น้องนักแสดง และเป็นพิเศษในความทรงจำของคนไทยที่เป็นแฟนละคร คุณ “ปอ ทฤษฎี สหวงษ์” ก็มาถึงวันจากลาจากโลก ครอบครัว ญาติสนิทมิตรสหาย
หลายครั้งเราร้องไห้ด้วยเศร้าเสียใจ ผิดหวัง ท้อแท้สิ้นหวัง หมดแรงพลัง ก้าวเท้าก้าวขาไปต่อไม่ออก เป็นเรื่องจริงที่เราต้องยอมรับ และไม่ใช่เรื่องผิดที่เราจะเศร้าเสียใจจนถึงร้องไห้ออกมา หากทว่า…เราเพิ่มเติมคุณค่า เราให้ความหมายให้กับหยาดน้ำตา เราเศร้าเราร้องไห้ด้วยระลึกถึงคุณงามความดีของผู้จากเราไป พยามนำชีวิตของเรามาเป็นกำลังใจ มาเป็นตัวอย่างตั้งต้นให้เราเพียรสร้างความดี มอบความรักด้วยใจจริงต่อกัน วันนั้นของเราต่อหน้าพระจะเป็นวันศักดิ์สิทธิ์ วันที่ชีวิตเราอยู่ใกล้ชิดพระ ชีวิตของเราก็จะเป็นชีวิตที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มอบถวายให้กับพระ และแบ่งปันดูแลช่วยเหลือเยียวยาให้กับพี่น้องรอบชีวิต ที่เขาพบความลำบาก
“พระจิตขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่เหนือข้าพเจ้า เพราะพระองค์ทรงเจิมข้าพเจ้าไว้ ให้ประกาศข่าวดีแก่คนยากจน ทรงส่งข้าพเจ้าไปประกาศการปลดปล่อยแก่ผู้ถูกจองจำ คืนสายตาให้แก่คนตาบอด ปลดปล่อยผู้ถูกกดขี่ให้เป็นอิสระ …..แล้วพระเยซูเจ้าทรงม้วนหนังสือส่งคืนให้เจ้าหน้าที่และประทับนั่งลง สายตาของทุกคนที่อยู่ในศาลาธรรมต่างจ้องมองพระองค์” (ลก 4:18,20)
มีเรื่องน่าคิดทบทวน และภาวนาอยู่สองประการสำหรับสัปดาห์นี้ หนึ่งนั้น…เราพบเจอกับพี่น้องรอบชีวิตของเรามากน้อยเพียงใด หรือหัวใจและดวงตาของเราเพ้งและเล็งแต่โทรศัทพ์และเรื่องราวอันเป็นที่สนใจส่วนตัวสำหรับเราเท่านั้น เรื่องที่มีแต่มอบความสุขให้กับเราเท่านั้น จนเรามีพื้นที่มีเวลาน้อยมากที่จะสามารถมองและสนใจพี่น้องของเราที่กำลังส่งเสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด และมืดมิดจากการถูกทอดทิ้ง
สองนั้น… เรามีพระจิตทรงอยู่เหนือเราและคอยนำทางเราในแสงสว่างของพระองค์ อันที่จริงเรามีพระองค์นำทางแน่นอน เพียงแต่เรายอมรับ ยอมให้พระองค์นำทางเราหรือเปล่า เพราะพระองค์จะนำเราไปในทางที่ถูกต้อง แต่อาจไม่ถูกใจเรา.
…โดยนกขุนทอง…