การกลับใจคือการเปลี่ยนชีวิต
“แม่หญิงเอ๋ย พวกนั้นไปไหนแล้ว ไม่มีใครลงโทษเธอดอกหรือ?” “ไม่มีใครคะพระสวามีเจ้า” “ดีแล้ว เราก็ไม่ลงโทษเธอเหมือนกัน ไปเถิด แล้วต่อไปอย่าทำบาปอีก!” (ยอห์น 8:10-11)
“แล้วต่อไปอย่าทำบาปอีก” =กลับไปแล้วเปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนพฤติกรรม
ช่วงเวลาที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น เป็นช่วงเวลางานฉลองพลับพลา ประมาณระหว่างเดือนกันยายนถึงตุลาคม ค.ศ. 29 งานฉลองพลับพลาเป็นงานฉลองประจำปีของยิวที่เตือนใจให้พวกยิวรำลึกถึงบรรพบุรุษในสมัยโบราณ ที่เคยอาศัยอยู่ในกระโจมในทะเลทราย ประชาชนยิวจากทุกสาระทิศต่างเดินทางมาร่วมฉลองโดยการสร้างกระโจมที่พัก โดยใช้กิ่งไม้และวัสดุอื่นๆประกอบ ในช่วงเวลาเช่นนี้บรรดาหญิงโสเภณีทั้งหลายก็ได้โอกาสหาเงินโดยไปขายตัวแก่บรรดาผู้ชายที่มาร่วมฉลอง และหญิงในพระวรสารวันนี้ก็ถูกจับได้ และถูกนำมาเป็นเหยื่อเพื่อจับผิดพระเยซูเจ้า
อาการที่พระองค์แสดงต่อพวกธรรมาจารย์และพวกฟาริสีที่จับผู้หญิงคนนี้มา เป็นอาการของความนิ่งเฉย รำคาญ หงุดหงิดพวกจู้จี้เหล่านั้น ทรงฆ่าเวลาโดยการ ก้มลงไปเขียนบนพื้นเพื่อแสดงถึงความเบื่อหน่ายรำคาญของพระองค์ ต่อคนเหล่านี้ที่คอยจ้องจับผิดทุกอย่างและต่อทุกคน
พระเยซูเจ้าทรงเห็นใจผู้หญิงคนนี้ ซึ่งเป็นคนบาป นางอาจจะเป็นคนบาปเพราะความจำเป็นบีบบังคับ แต่สิ่งที่พระองค์ต้องการจากนางคือ ไปเถิด แล้วต่อไปอย่าทำบาปอีก
พระองค์ต้องการให้นางเปลี่ยนชีวิต และเปลี่ยนพฤติกรรม ที่เคยกระทำอยู่เดิม ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร
การกลับใจ คือ การเปลี่ยนชีวิต เปลี่ยนพฤติกรรมไม่ใช่เป็นเพียงแค่การไปคุกเข่าสารภาพบาปต่อหน้าพระสงฆ์ ซึ่งเป็นแต่เพียงสัญลักษณ์ภายนอกของการกลับใจเท่านั้น ก่อนจะไปคุกเข่าตรงนั้น ในที่แก้บาปต่อหน้าพระสงฆ์ ผู้นั้นจะต้องมีจิตใจรู้สึกผิดและสำนึกเสียใจในความผิดบาปที่ตนทำและยังต้องมีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะไม่หวนกลับไปทำบาปเหล่านั้นอีก โดยการตั้งใจอย่างมุ่งมั่นที่จะแก้ไขความบาปเหล่านั้นด้วยการพยายามเปลี่ยนแปลงชีวิตและพฤติกรรมของตนเองเสียใหม่
การกลับใจแบบนี้ เรามองเห็นได้จากชีวิตของนักบุญเปาโล ท่านจากการเป็นฆาตกรได้กลับเปลี่ยนเป็นคนดี(คนชอบธรรม) และความชอบธรรมของท่าน ท่านพูดอย่างชัดเจนในจดหมายของท่านวันนี้ว่า ความชอบธรรมของท่านมาจากความเชื่อ(ความเชื่อฟัง)ในพระเยซูคริสตเจ้า
นักบุญเปาโลได้กลับคืนชีพเป็นคนใหม่ขณะยังมีชีวิต โดยอาศัยความเชื่อฟังในพระเยซูคริสตเจ้า พระเยซูสอนอะไรท่านก็พยายามทำตามทุกอย่าง และสิ่งนี้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงชีวิตเป็นคนใหม่ หรือที่เราเรียกว่า การกลับคืนชีพ
การกลับคืนชีพไม่ใช่เป็นสิ่งที่เราจะต้องรอหลังความตาย แต่การกลับคืนชีพต้องเกิดขึ้นขณะที่เรายังมีชีวิตอยู่
ในจดหมายวันนี้ท่านนักบุญเปาโลสอนเราต่อไปว่า “มิใช่ว่าข้าพเจ้าได้(สิ่งที่ได้กล่าวมานี้ คือ ความชอบธรรมด้วยการเปลี่ยนชีวิตใหม่ในพระเยซูคริสตเจ้า) แล้ว หรือว่าทำสำเร็จแล้ว ข้าพเจ้ายังมุ่งหน้าต่อไป เพื่อคว้าเอาให้ได้”
นั่นคือ การกลับใจด้วยการเปลี่ยนแปลงและปฏิรูปตัวเองนั้น เป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง แบบไม่หยุด และต้องทำด้วยความมุ่งมั่น มุมานะ มองไปข้างหน้าสู่ความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยต้องไม่หันกลับไปมองชีวิตเลวๆ แบบเก่าๆในอดีต
และขอลงท้ายด้วยคำพูดน่าฟังของท่านเปาโลอีกประโยคหนึ่ง “ข้าพเจ้าบากบั่นมุ่งหน้าไปยังหลักชัย เพื่อจะได้รางวัล ซึ่งพระเป็นเจ้าทรงเรียก ณ เบื้องบน ให้ไปรับในพระคริสตเยซู”