การกลับคืนชีพคือการออกจากหลุมฝังศพของตัวเอง
เช้าตรู่ของวันต้นสัปดาห์ อันเป็นวันที่ 3 หลังจากที่พระเยซูเจ้าถูกตรึงบนไม้กางเขน บุคคลต่างๆต่างทยอยกันไปที่หลุมฝังพระศพของพระเยซูเจ้า เริ่มจากมารีย์ ชาวมักดาลา เมื่อนางไปถึงพระคูหาก็พบว่า หินปิดปากทางเข้าพระคูหาเปิดอยู่ และภายในพระคูหาก็ว่างเปล่า
กลุ่มที่สองก็ตามมาที่พระคูหา หลังจากได้รับการบอกเล่าจากมารีย์ ชาวมักดาลาว่าพระศพหายไป กลุ่มที่ 2 นี้ก็มี อัครสาวกเปโตร และยอห์น เมื่อทั้ง 2 มาถึงพระคูหาก็พบพระคูหาว่างเปล่า เช่นเดียวกัน
เหตุการณ์ของพระคูหาว่างเปล่าเกิดขึ้นตามที่พระเยซูเจ้าได้เคยบอกกับอัครสาวกไว้แล้วว่า พระองค์จะกลับคืนพระชนม์ชีพหลังจากที่พระองค์ตายได้ 3 วันแล้ว
อะไรคือที่มาและที่ไปของการกลับคืนพระชนม์ชีพของพระเยซูเจ้า? หลายคนก็จะตอบว่าก็เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้า พระองค์จึงทรงกลับคืนพระชนม์ชีพได้นั่นก็ถูก พระองค์ทรงเป็นพระเป็นเจ้าก็จริงแต่พระองค์ก็ทรงเป็นมนุษย์ด้วย และก็ทรงเป็นมนุษย์เหมือนๆกับพวกเรา 100%ยกเว้นว่าพระองค์ทรงไม่มีบาป
พระเยซูเจ้าทรงเสด็จมาในโลกในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง และทรงสอนวิธีการที่จะช่วยให้มนุษย์กลับคืนชีพและมีชีวิตใหม่
และวิธีการที่พระเยซูเจ้าทรงสอนพวกเราก็คือ จงค่อยๆเรียนรู้น้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า และค่อยๆรับน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าเข้ามาไว้ในตัว น้ำพระทัยพระเจ้าที่ค่อยๆหลั่งไหล เข้ามาในชีวิตของเราผ่านทางการเชื่อฟังคำสอนที่พระเยซูสอน จะค่อยๆให้ชีวิตพระแก่เราทีละเล็กทีละน้อย และจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงชีวิตของเราให้กลับกลายเป็นชีวิตใหม่ อันจะเป็นชีวิตใหม่ที่จะอยู่ในตัวเราตั้งแต่เรายังไม่ตาย
การกลับคืนชีพมีชีวิตใหม่ต้องเกิดขึ้นก่อนที่เราจะตายจากโลกนี้ไป
หนังสือกิจการอัครสาวกวันนี้กล่าวไว้ว่า “พระเจ้าทรงเจิมพระเยซูเจ้าชาวนาซาแร็ธ ด้วยพระอานุภาพของพระจิตเจ้า พระเยซูเจ้าเสด็จผ่านไปที่ใด ก็ทรงกระทำแต่ความดี และทรงรักษาทุกคนที่อยู่ใต้อำนาจของปีศาจ”
เราจะต้องยอมรับว่าเราไม่ว่าจะเป็นฆราวาส พระสงฆ์ หรือนักบวชทั้งชาย หญิง มีชีวิต อยู่ใต้อำนาจของปีศาจ ไม่มากก็น้อย อำนาจของปีศาจมาในรูปของการเป็นทาส หรือ ถ้าไม่เป็นทาสก็อย่างน้อยมีใจผูกพันกับทรัพย์สิน เงินทอง ข้าวของของโลก เกียรติยศ ชื่อเสียง อำนาจ การฝักใฝ่กับความสุขทางเนื้อหนัง ความนิยมในกระแสและวิถีทางโลก ฯลฯ เหล่านี้ คือพลังอำนาจของปีศาจ ที่นับจะมีวันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งพวกเราหลายคนติดกับ และอยู่ภายใต้อำนาจของมัน
พระเยซูสามารถที่จะรักษาพวกเราทุกคนที่อยู่ภายใต้อำนาจเหล่านี้ของปีศาจได้
อำนาจของปีศาจเหล่านี้ที่เราติดกับมันอยู่เปรียบเสมือนเป็นหลุมฝังศพของตัวเราเอง
และการที่จะหลุดพ้นออกมาจากหลุมฝังศพดังกล่าวทำได้โดยวิธีเดียวคือ การเชื่อฟังพระเยซูเจ้าด้วยการยอมน้อมรับน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าที่ผ่านมาทางคำสอนของพระองค์
ความเชื่อฟัง และน้อมรับดังกล่าวจะค่อยๆปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระจากการอยู่ภายใต้อำนาจของปีศาจทีละเล็กทีละน้อย และค่อยๆก้าวเข้าไปสู่การมีชีวิตใหม่
พลังแห่งการน้อมรับน้ำพระทัยด้วยความเชื่อฟังเป็นพลังที่เราแต่ละคนได้รับมาจากพระเจ้าในวันที่เรารับศีลล้างบาป ส่วนวิธีการรับน้ำพระทัยจะเกิดขึ้นก็โดยผ่านกระบวนการแห่งไม้กางเขน †
กระบวนการแห่งไม้กางเขน † คือวิถีแห่งการตัดใจ คือผู้ปฏิบัติรู้จัก ข่มใจ ควบคุมใจ ฝืนใจ และตัดใจ ไม่ปล่อยให้ตัวเราทำตามใจตัวเอง พร้อมกับฝืนและบังคับตัวให้ตัวเราพยายามทำตามใจของพระเป็นเจ้า ทำอะไรก็ได้ ตามที่พระองค์สั่ง ทำเพียงแค่นี้พลังอำนาจแห่งไม้กางเขน ก็จะเริ่มออกฤทธิ์ พลังอำนาจแห่งไม้กางเขน จะทำให้คนๆนั้นเริ่มต้น ตายจากน้ำใจของตนเอง และค่อยๆเริ่มต้นมีชีวิตใหม่ด้วยฤทธิ์อำนาจแห่งน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า ที่เข้ามาแทนที่
ประเด็นอยู่ตรงที่ว่าคนๆนั้นจะยอมพาตัวเองออกจากหลุมฝังศพของตัวเองด้วยการตัดใจหรือไม่เท่านั้น