“เพระความรักพระองค์มั่นคงไม่มีผันแปร…เราจึงวางชีวิตไว้ในพระองค์”
“คนเหล่านี้คือผู้ที่มาจากการเบียดเบียนครั้งใหญ่ เขาซักเสื้อของเขาจนขาวในพระโลหิตของลูกแกะ ดังนั้นเขาจึงอยู่หน้าพระบัลลังก์ของพระเจ้าจะรับใช้พระองค์ทั้งกลางวันกลางคืนในพระวิหารของพระองค์… เขาทั้งหลายจะไม่หิวหรือกระหายอีกเลย พระเจ้าจะทรงเลี้ยงดูเขาจะทรงนำเขาไปยังธารน้ำพุแห่งชีวิตและพระองค์จะทรงเช็ดน้ำตาทุกหยดจากดวงตาของเขา“ (เทียบ วว 7: 14-16)
“คริสตชน…คนของพระคริสตเจ้า” เคยมีคนพูดเปรียบเปรยไว้ มาถึงตรงนี้ หากมีใครถาม “คริสตชน…คือใคร???” ดูแล้วเรายังไม่ได้คำตอบชัดเจนมากนัก หากบอกเพียงแค่ “คนของพระคริสตเจ้า” เรายังไม่ได้แนวทางชีวิตแนวปฏิบัติชัดเจนมากนัก ว่า “ฉันเป็นคริสตชน…เป็นคนของพระคริสตเจ้า” แล้วหรือยัง แม้ว่าตามใบรับรองศีลศักดิ์สิทธิ์มีคำยืนยันว่าเราเป็น “คริสตชน” จึงจะมีคนถาม “คริสตชนนั้นต้องทำตนอย่างไร”
เราได้คำตอบหรือคำแนะนำจากข้อความในหนังสือวิวรณ์นี่เอง “คนเหล่านี้คือผู้ที่มาจากการเบียดเบียนครั้งใหญ่…พระเจ้าจะทรงเลี้ยงดูเขา…พระองค์จะทรงเช็ดน้ำตาทุกหยดจากดวงตาของเขา” เราคริสตชนจำเป็นต้องผ่านชีวิต แม้ชีวิตที่ต้องเดินผ่านนั้นจะเต็มไปด้วยช่องทางที่ไม่มั่นใจ หนทางที่ตีบตัน รอบข้างเต็มด้วยปัญหารอให้เราฟันฝ่า ข้างหน้าที่ความทุกข์และการเบียดเบียนรอเราอยู่ แต่เรายังคงกล้าหาญเดินต่อไปเผชิญหน้ากับทุกคนทุกเรื่องด้วยยังคงเชื่อในพระเยซูเจ้าว่าพระองค์จะทรงเลี้ยงดู และเช็ดน้ำตาทุกหยดจากดวงตาของเรา
เวลานั้นพระเยซูเจ้าตรัสว่า “แกะของเราย่อมฟังเสียงของเราเรารู้จักมันและมันก็ตามเรา เราให้ชีวิตนิรันดรแก่แกะเหล่านั้นและมันจะไม่พินาศเลยตลอดนิรันดรไม่มีใครแย่งชิงแกะเหล่านั้นไปจากมือเราได้” (ยน 10:27-28)
นี่แหละ “ชีวิตคริสตชน” นี่แหละ “ชีวิตของแกะ-ฝูงแกะของพระคริสตเจ้า” ชีวิตที่วางชีวิตของตนไว้ในความวางใจในพระหัตถ์ของพระองค์ และเดินในหนทางของตนต่อไปในโลกนี้ อดคิดถึงบทเพลง “หนทางใหม่”ไม่ได้ เนื้อเพลงบอกว่า “แม้บางทางที หนทางนี้ต้องข้ามน้ำ อันลึกล้ำอ้างว้างทั้งกว้างใหญ่…ความรักพระองค์มั่นคงไม่มีผันแปร ช่วยเราด้วยความรักแท้และอยู่เคียงข้าง…เราก้าวเดินทางอย่างปลอดภัยในพระองค์
และยังคิดถึงถ้อยคำที่ เด็กน้อยซามูแอลถูกสอนและได้พูดต่อพระเจ้าว่า “โปรดตรัสเถิด ข้าพเจ้าอยู่นี่ ข้าพเจ้ากำลังรอฟังอยู่” เราจะพูด พูดถ้อยคำนี้ด้วยความเชื่อ มั่นใจ และวางใจ วางชีวิตเราไว้ในพระองค์.