• หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us

2016-05-08 สมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์

สวัสดีครับ

สัปดาห์ละครั้ง 8พฤษภาคม 2016

วันอาทิตย์นี้สมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์

            ถ้าจะถามว่าพวกเราคิดถึงอะไรเชื่อว่าหลายท่านคงจะนึกถึงรูปของพระเยซูเจ้าทรงลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าถือธงชัยทรงสวมชุดขาวเหมือนกับรูปที่เราคุ้นเคยกันดีหรือจะมีบางคนคิดถึงการเสด็จกลับไปอยู่กับพระบิดาประทับเบื้องขวาของพระบิดาหลังจากที่เสด็จมาในโลกทรงบังเกิดเป็นมนุษย์และปฏิบัติพระภารกิจที่พระบิดาทรงมอบหมายตลอดเวลา33 ปีซึ่งความคิดเช่นนี้เราคิดตามประสามนุษย์ตามเหตุผลของมนุษย์แต่ถ้าจะทบทวนคำสอนข้อความเชื่อของเราเราจะเกิดความสงสัยขึ้นมาได้เหมือนกันว่าเมื่อความเชื่อจากคำสอนที่เราเรียนมาบอกว่าพระบิดาพระบุตรและพระจิตทรงเป็นพระเจ้าหนึ่งเดียวแยกกันมิได้ทำไมต้องมีการเสด็จลงมาในโลกและเสด็จกลับไปสวรรค์อีก

            เรื่องนี้ต้องบอกว่าการเสด็จลงมาบังเกิดขององค์พระบุตรนั้นเป็นรหัสธรรมหรือข้อความเชื่อเรื่องการไถ่บาปซึ่งมีคำอธิบายในแง่มุมของเทววิทยาเป็นประเด็นของความเชื่อที่เราทุกคนมีในความรักและพระเมตตาของพระองค์อยู่เหนือเหตุและผลตามประสามนุษย์นั่นเอง

            หลายครั้งเราได้รับคำสอนว่าพระองค์ทรงเสด็จสู่สวรรค์เพื่อไปเตรียมที่สำหรับเราเรื่องนี้ก็เช่นเดียวกันเป็นคำอธิบายให้เข้าใจง่ายๆตามประสามนุษย์เพราะความจริงแล้วสวรรค์มิใช่สถานที่แต่เป็นสภาพของความสุขอันเนื่องมาจากได้อยู่ร่วมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับพระเป็นเจ้าอีกประการหนึ่งคำว่า“เสด็จสู่สวรรค์”หรือบางครั้งบอกว่า“เสด็จขึ้นสวรรค์”ยิ่งทำให้เราเข้าใจว่าสวรรค์ต้องอยู่บนฟ้าอยู่ข้างบนทำให้นึกไปถึงสถานที่อีกด้วย

            ถ้าหากเราจะหันมาพิจารณากันดีๆจะพบว่าการเสด็จสู่สวรรค์ขององค์พระเยซูเจ้านั้นเป็นการแสดงถึงการเสร็จสิ้นพระภารกิจในฐานสภาพความเป็นมนุษย์ของพระองค์นั้นได้สิ้นสุดลงแล้วหรือจะพูดอีกอย่างหนึ่งก็คือพันธสัญญาที่พระเป็นเจ้าทรงให้ไว้กับมนุษย์เมื่อครั้งลงโทษมนุษย์ให้ออกจากสวนสวรรค์(ตัดความสัมพันธ์) พันธสัญญาที่ทรงบอกว่าจะประทานพระผู้ไถ่มากอบกู้มนุษย์นั้นได้สำเร็จเป็นไปโดยสมบูรณ์แล้วจากนี้เป็นหน้าที่ของมนุษย์ที่จะต้องดำเนินชีวิตของตนอย่างดีตามสิ่งที่พระองค์ทรงสอนทรงกระทำเป็นแบบอย่างโดยทรงมอบให้มนุษย์ดูแลช่วยเหลือกันและกันให้อยู่ในโลกนี้ด้วยความหวังว่าจะได้ไปสวรรค์หรือไปอยู่ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์เหมือนดังแรกเริ่มเดิมทีที่ทรงสร้างมนุษย์มาอีกครั้งหนึ่ง

            นอกจากนั้นด้วยความรักและพระเมตตาที่มีต่อมนุษย์ไม่สิ้นสุดยังได้ทรงประทาน“ตัวช่วย”เครื่องมือต่างๆหลายสิ่งหลายอย่างเพื่อทำให้มนุษย์สามารถไปสวรรค์ได้ง่ายขึ้นเช่นศีลศักดิ์สิทธิ์ต่างๆพิธีกรรมการภาวนาที่หล่อเลี้ยงความเชื่อความวางใจและความรักในพระเป็นเจ้าที่มีศาสนบริกรพระสงฆ์นักบวชกลุ่มฆราวาสแพร่ธรรมต่างๆและที่สำคัญมีพระศาสนจักรที่คอยดูแลอบรมสั่งสอนเราอยู่เสมอมามีแบบอย่างของนักบุญผู้ศักดิ์สิทธิ์มากมายที่ชี้นำการดำเนินชีวิตของเรา…

            วันนี้จึงขอเชิญชวนทุกท่านมุ่งมั่นก้าวเดินไปสู่สวรรค์ด้วยความแน่วแน่ไม่หลงทางเพราะเมื่อวันสุดท้ายมาถึงเราจะได้ไปสวรรค์อยู่พร้อมหน้ากัน…. สวัสดีครับ.

เกี่ยวกับวัดฯ

  • ประวัติอาสนวิหาร
  • แม่พระอัสสัมชัญ
  • บรรณฐาน
  • สถาปัตยกรรม
  • กระจกสี
  • ภาษาลาตินในวัด

บริการต่างๆ

  • ล้างบาปทารก / Baptisms
  • แต่งงาน / Wedding
  • การขออนุญาตถ่ายภาพ

สารวัดย้อนหลัง

  • บทสนทนาจากเจ้าอาวาส
  • คิดสักนิด...สะกิดใจ...
  • ปลัดแก่ ซอย40
  • ปี 2012

บุคลากร/องค์กรต่างๆในวัด

  • พระสงฆ์
  • สำนักงานวัด
  • สภาภิบาล
  • นักขับร้อง
  • สโมสรเยาวชน

ลิงค์คาทอลิก

  • สภาสังฆราชคาทอลิกประเทศไทย
  • อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
  • หอจดหมายเหตุ อัครสังฆมณฑลฯ
  • สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย
Facebook-f Youtube