• หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us

2016-05-15 พระจิตเจ้า

ข้อคิด…ครั้งแรกที่พระเยซูเจ้าทรงประทานพระจิตเจ้าให้กับบรรดาอัครสาวก เกิดขึ้นในเวลาเย็นวันอาทิตย์ปัสกา (ยน 20: 21-23)…การเป่าลมเหนือพวกอัครสาวก เป็นสัญลักษณ์ของการรับพระจิตเจ้า พระองค์ซึ่งเป็นหลักการของสิ่งสร้างใหม่ นอกจากนั้นการรับพระจิต ก็ยังหมายถึงการรับพระพรของพระองค์และการส่งบรรดาอัครสาวกและศิษย์ของพระเยซูเจ้าออกไปเทศน์สอนให้กับนานาชาติ ตามที่พระเยซูเจ้าได้ทรงมีพระบัญชาไว้…

…เป็นไปไม่ได้ที่เราจะเจริญชีวิตคริสตชนได้โดยปราศจากพระจิตเจ้าเป็นผู้นำ เราจะซาบซึ้งถึงบทบาทของพระจิตในชีวิตคริสตชนได้นั้น เราต้องเริ่มจากพระเยซูเจ้า แม้องค์พระเยซูเจ้าเองก็จำเป็นต้องมีพระจิต พระจิตเจ้าทรงมีบทบาทที่สำคัญในชีวิตของพระองค์ และพระจิตเสด็จลงมาอยู่เหนือพระองค์ เมื่อพระองค์ทรงรับพิธีล้าง ทั้งยังได้ประกาศว่าพระองค์เป็นพระบุตรสุดที่รักของพระบิดาเจ้า

ในขณะที่พระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้างนั้น พระองค์ทรงรับอำนาจจากเบื้องบนในการเริ่มพันธกิจของพระองค์…พระจิตเจ้ามิได้ถูกมอบให้พระองค์เพียงชั่วขณะ แต่พระจิตยังคงประทับอยู่กับพระองค์ตลอดพันธกิจของพระองค์ พระเยซูเจ้ายังคงให้พระจิตทรงนำทางและประทานความเข้มแข็ง ให้กับพระองค์อย่างต่อเนื่อง

พระเยซูเจ้าทรงเริ่มพันธกิจของพระองค์ ด้วยการทำให้ถ้อยคำของประกาศกอิสยาห์เป็นของพระองค์เอง…“พระจิตของพระเจ้าทรงอยู่เหนือข้าพเจ้า เพราะพระองค์ทรงเจิมข้าพเจ้าไว้ ให้ประกาศข่าวดีแก่คนยากคนจน ทรงส่งข้าพเจ้าไปประกาศการปลดปล่อยแก่ผู้ถูกจองจำ คืนสายตาให้แก่คนตาบอด ปลดปล่อยผู้ถูกกดขี่ให้เป็นอิสระ ประกาศปีแห่งความโปรดปรานจากพระเจ้า”

ช่างเป็นพันธกิจที่งดงาม และพระองค์ทรงกระทำตามด้วยความซื่อสัตย์…พระเยซูเจ้าทรงเปี่ยมด้วยพระจิตซึ่งทำให้พระอานุภาพออกจากพระองค์โดยทางพระวาจาแห่งความเมตตาและโดยการกระทำด้วยความเมตตาสงสาร

เป็นพระจิตเจ้าที่ทรงปลุกพระเยซูเจ้าให้ฟื้นคืนชีพจากความตาย และทรงเป็นพระจิตเจ้าองค์เดียวกันที่เปิดจิตใจของบรรดาศิษย์ของพระเยซูเจ้า และทรงช่วยพวกเขาให้เข้าใจถึงความหมายของการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ เมื่อพระเยซูเจ้าทรงเสด็จสู่สวรรค์ในพระสิริรุ่งโรจน์และประทับเบื้องขวาของพระบิดา พระเยซูเจ้าทรงประทานพระจิตลงเหนือบรรดาผู้ที่จะต้องสานต่อพันธกิจของพระองค์ พระจิตเจ้าเสด็จลงมาเหนือบรรดาอัครสาวก ทั้งที่เป็นส่วนบุคคลและโดยส่วนรวม เมื่อพวกเขาเปี่ยมด้วยพระจิตเจ้าแล้ว พวกเขาจึงเริ่มพันธกิจที่ได้รับมอบหมายจากองค์พระอาจารย์เจ้า  และเราได้เห็นว่าพวกเขาประกาศข่าวดีของพระอาจารย์เจ้าของพวกเขาและกระทำการต่างๆด้วยความกล้าหาญและอย่างมั่นใจโดยอาศัยองค์พระจิตเจ้า

และเป็นพระจิตเจ้าองค์เดียวกันนี้ที่เราได้รับเมื่อเรารับศีลล้างบาปและศีลกำลัง พระจิตที่เรารับ มิใช่อยู่กับเราเพียงชั่วขณะ แต่ทรงอยู่และเดินไปพร้อมๆกับเราตลอดการเดินทางแห่งชีวิตของเราตามรอยพระบาทของพระเยซูเจ้า พระจิตเจ้าทรงประทานพละกำลังให้เรามีส่วนร่วมในงานของพระเยซูเจ้า พระจิตเจ้าทรงเป็นพละกำลังในยามที่เรามีความอ่อนแอ ทรงแนะนำเราเมื่อเรามีความสงสัย ทรงบรรเทาใจเราเมื่อเรามีความโศกเศร้าและทรงวอนขอแทนเราเมื่อเราต้องการการแก้ต่าง เราไม่สามารถก้าวเดินไปเองได้แม้แต่ก้าวเดียวโดยปราศจากพระจิตเจ้า    

พระพรของพระจิตเจ้า คือ พระดำริ สติปัญญา ความคิดอ่าน พละกำลัง ความรู้ ความศรัทธาและความยำเกรงพระเจ้า

พระดำริ สติปัญญาและความคิดอ่าน จะช่วยนำทางจิตใจของเราและช่วยเหลือมโนธรรมของเราในการแยกแยะว่าสิ่งใดถูกสิ่งใดผิด…พละกำลัง จะช่วยเราให้กระทำสิ่งที่ถูกต้องแม้สิ่งนั้นจะยากลำบาก หรือไม่เป็นที่ชื่นชอบ…ความยำเกรงพระเจ้า จะช่วยทำให้เรามีความยำเกรงพระเจ้าอย่างแท้จริง               

นักบุญเปาโลกล่าวว่าผลลัพธ์ของพระจิตเจ้าคือความรัก ความชื่นชมยินดี ความสงบ ความอดทน ความเมตตา ความใจดี ความซื่อสัตย์ ความอ่อนโยนและการรู้จักควบคุมตนเอง…คุณธรรมเหล่านี้เป็นสิ่งงดงามและทำให้ชีวิตมีความชื่นชมยินดี (กท 5: 22)

ในเวลาเดียวกันนักบุญเปาโลบอกเราว่าการกระทำตามใจตามความปรารถนาของตนเอง ทำให้เกิดความโกรธเคือง การทะเลาะวิวาท ความอิจฉาริษยา การแบ่งพรรคแบ่งพวก การกราบไหว้รูปบูชา การผิดประเวณีและการเมามาย สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่น่าเกลียดและทำให้ชีวิตน่าอนาถ ยิ่งเราปฏิเสธตนเองมากเท่าใดและ “เดินอยู่ในหนทางของพระจิตเจ้า” ยิ่งจะก่อให้เกิดผลดีแก่ชีวิตเรามากขึ้นเท่านั้น

พระจิตเจ้าที่เราได้รับ ไม่ใช่พระจิตแห่งความขี้ขลาดกลัว แต่เป็นพระจิตแห่งพละกำลัง…ลมและไฟ(ความร้อน) เป็นสัญลักษณ์ของพละกำลัง ลมมีพละกำลังในการทำให้สิ่งต่างๆเคลื่อนที่ไป ถอนรากขึ้น ส่วนไฟนั้นมีพละกำลังในการปรับแต่งและเปลี่ยนแปลง…สัญลักษณ์ของพละกำลังเหล่านี้คือพละกำลังของพระจิตเจ้า การเสด็จมาของพระจิตเจ้า ทำให้บรรดาอัครสาวกมีพลัง  มีความกล้าหาญและมีความรัก ที่จะทำงานที่พระคริสตเจ้าทรงมอบให้พวกเขา

สวัสดี…พ่อวีรศักดิ์

เกี่ยวกับวัดฯ

  • ประวัติอาสนวิหาร
  • แม่พระอัสสัมชัญ
  • บรรณฐาน
  • สถาปัตยกรรม
  • กระจกสี
  • ภาษาลาตินในวัด

บริการต่างๆ

  • ล้างบาปทารก / Baptisms
  • แต่งงาน / Wedding
  • การขออนุญาตถ่ายภาพ

สารวัดย้อนหลัง

  • บทสนทนาจากเจ้าอาวาส
  • คิดสักนิด...สะกิดใจ...
  • ปลัดแก่ ซอย40
  • ปี 2012

บุคลากร/องค์กรต่างๆในวัด

  • พระสงฆ์
  • สำนักงานวัด
  • สภาภิบาล
  • นักขับร้อง
  • สโมสรเยาวชน

ลิงค์คาทอลิก

  • สภาสังฆราชคาทอลิกประเทศไทย
  • อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
  • หอจดหมายเหตุ อัครสังฆมณฑลฯ
  • สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย
Facebook-f Youtube