สวัสดีครับ
สัปดาห์ละครั้ง อาทิตย์ที่ 4 ก.ย. 2016
วันนี้ขอต่อเรื่อง“การทำวันพระเจ้าให้เป็นวันศักดิ์สิทธิ์”ที่ได้เกริ่นไว้ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วได้เปรียบเทียบการไปร่วมพิธีที่วัด/โบสถ์ ของเราคาทอลิกและพี่น้องโปรเตสแตนต์ไปแล้ววันนี้นึกขึ้นได้ว่าศาสนาอื่นๆที่ไม่ใช่ศาสนาคริสต์ก็มีวันพระของเขาด้วยเหมือนกันเช่นพี่น้องชาวพุทธเขามีวันขึ้น–แรม8 ค่ำและ15 ค่ำเป็นวันพระหนึ่งเดือนก็มี4 วันคล้ายๆกันกับชาวคริสต์แต่มิได้กำหนดตายตัวว่าจะต้องเป็นวันอะไรในสัปดาห์ใช้วันที่เป็นสำคัญส่วนพี่น้องชาวมุสลิมเขาถือวันศุกร์เป็นวันพระเป็นวันสำคัญเช่นกันชาวยิวจะถือวันเสาร์เป็นวันที่จะต้องไปโรงธรรม… เหล่านี้เป็นต้น
และทุกศาสนาเมื่อไปที่ศาสนสถานของตนก็ไปเพื่อนมัสการสรรเสริญพระเป็นเจ้าสำหรับศาสนาที่เป็นเทวนิยมส่วนพี่น้องชาวพุทธที่มิใช่ศาสนาเทวนิยมก็จะไปโบสถ์เพื่อฟังเทศน์ฟังธรรมไปทำบุญตักบาตรหรือเรียกว่าไปถือศีลปฏิบัติธรรมเพื่อสิริมงคลของตนเอง
ขอย้อนกลับมาเรื่องของเราคาทอลิกอีกครั้งเราเคยสังเกตกันหรือไม่ว่าบรรดาพี่น้องของเราที่มาวัดกันในปัจจุบันนี้ถ้าจะแบ่งออกเป็นประเภทจะได้สักกี่ประเภทสำหรับตนเองคิดว่าน่าจะมีหลายๆประเภทดังนี้
1. ผู้ที่มาวัดด้วยความเชื่อความศรัทธาด้วยสำนึกที่แท้จริงกล่าวคือมาด้วยจิตใจและร่างกายกลุ่มนี้จะเตรียมตัวมาอย่างดีตั้งแต่เสื้อผ้าหน้าผมดูสะอาดเรียบร้อยจะมาก่อนเวลาเล็กน้อยและเข้าไปสวดรำพึงภาวนาในวัดด้วยความสำรวม
2. ผู้ที่มาวัดด้วยคำสั่งคำเตือนของผู้อื่นเช่นนักเรียนที่คุณพ่อซิสเตอร์ครูคำสอนบอกให้มาวัดและเพื่อเป็นหลักฐานต้องมีลายเซ็นของคุณพ่อจากวัดในสมุดบันทึกไปส่งให้ดูในวันจันทร์ด้วยมีบางแห่งก็ให้จดคำเทศน์ของคุณพ่อด้วยกลุ่มนี้จะมีผลพลอยได้นิดหน่อยคือจะพาผู้ปกครองมาด้วยโดยปริยาย…
3. ผู้ที่มาวัดด้วยความเคยชินพอถึงวันอาทิตย์ก็ต้องมาวัดเดินเข้าวัดจุ่มน้ำเสกทำสำคัญกางเขนเดินไปที่โต๊ะที่เคยนั่งประจำบางคนก็ย่อเข่าบางคนก็ไหว้บางคนก็เข้าไปคุกเข่าเลยทำเดชะพระนามอีกครั้งแล้วก็นั่งหลายครั้งหลายคนทำเหมือนหุ่นยนต์หลายคนไม่ได้มีสมาธิหรือความตั้งใจอะไรนักเรียกว่าทำโดยอัตโนมัติถามว่าดีไหม..ความจริงก็ดีนะเพราะเคยชินในความดี
4. จากนั้นยังมีบางคนมาไม่ค่อยทันกว่าจะมาถึงวัดก็ภาคถวายแล้วบางคนนั่งในวัดก็ไม่รู้ร้อนรู้หนาวชอบนั่งหัวโต๊ะตรงกลางว่างไว้คนมาที่หลังต้องแทรกเข้าไปนั่งแทนที่มาก่อนก็นั่งด้านในก็ได้ครั้นมีคนมาแทรกก็ดูท่าทางไม่พอใจเสียอีก
นอกจากนั้นยังมีบางคนแต่งตัวไม่เรียบร้อยเอาเสียเลยดูแล้วไม่น่าจะเป็นชุดสำหรับใส่มาวัดนะบางคนชอบคุยกันในวัดแบบไม่สำรวมบางคนก็เล่นโทรศัพท์เล่นไลน์จับตัวโปเกม่อนฯลฯ
เอาเป็นว่าถึงตรงนี้ใครจะจัดตัวเองให้อยู่ในกลุ่มไหนประเภทใดก็ดูกันเองแล้วกันหวังว่าส่วนใหญ่จะอยู่ในประเภทที่1 นะครับหรือใครยังไม่ถึงขั้นก็พยายามปรับปรุงตนเองยกระดับตัวเองกันหน่อย… เพื่อทำให้วันพระเจ้าเป็นวันศักดิ์สิทธิ์… สวัสดีครับ.