พี่น้องครับชีวิตของเรามนุษย์มีทั้งความสว่างหรือความมืดด้านสว่างมีอยู่ด้วยกันหลายอย่างเช่นความรักความสุขชีวิตและการให้อภัยฯลฯส่วนความมืดเช่นความเกลียดชังความทุกข์ความตายและการอาฆาตพยาบาทฯลฯแต่ไม่ว่าจะเป็นในด้านหรือทิศทางใดจะสุขหรือทุกข์นั้นแท้จริงทัศนคติหรือการมองโลกของเราแต่ละคนนั่นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
มีอาจารย์เซนผู้หนึ่งมีศิษย์ที่ชอบบ่นและมักร้องทุกข์คร่ำครวญถึงความทุกข์ของตนเองอยู่เสมอและเนื่องจากทัศนคติและการมองโลกเช่นนี้จึงทำให้ศิษย์ผู้นี้มักจะมีแต่ความทุกข์กังวลและจิตใจไม่เป็นสุข
วันหนึ่งอาจารย์เซนสั่งให้ศิษย์คนดังกล่าวไปตลาดซื้อเกลือมาถุงหนึ่ง
เมื่อศิษย์กลับมาจึงสั่งให้นำเกลือหยิบมือหนึ่งโปรยลงไปในแก้วบรรจุน้ำแล้วให้ศิษย์ดื่มลงไปพลางกล่าวถามว่า“รสชาติของน้ำเป็นอย่างไร?”
“เค็มจนขม”ศิษย์ตอบด้วยใบหน้าเหยเก
จากนั้นอาจารย์เซนได้พาศิษย์ไปยังริมทะเลสาบสั่งให้นำเกลือที่เหลือโปรยลงไปในทะเลสาบจนหมดสิ้นแล้วกล่าวว่า“ลองดื่มน้ำจากทะเลสาบดูสิ”ศิษย์จึงก้มตัวลงไปวักน้ำจากทะเลสาบขึ้นมาดื่ม
อาจารย์เซนถามอีกว่า“คราวนี้รสชาติเป็นอย่างไรบ้าง?”
ศิษย์ตอบว่า“รสชาติหวานสะอาดบริสุทธิ์ยิ่ง“
“ยังมีรสเค็มหรือไม่?”อาจารย์ถามต่อ
“ไม่มี“ศิษย์ตอบ
อาจารย์เซนได้ฟังจึงผงกศีรษะเล็กน้อยยิ้มแล้วกล่าวต่อไปว่า“ศิษย์เอ๋ยความทุกข์ในชีวิตคนเราก็เป็นดั่งเกลือมันจะมีรสเค็มหรือรสจืดล้วนขึ้นอยู่กับภาชนะที่ใส่รองรับขึ้นอยู่กับว่าเจ้าจะเป็นน้ำหนึ่งแก้วหรือเป็นลำน้ำสายหนึ่ง“
ดังนั้นพี่น้องครับชีวิตของเราก็เป็นเช่นนั้นจริงๆว่าเราจะเลือกเป็นสิ่งใดหากเราพบกับความทุกข์มีใครมาทำไม่ดีกับเราหรือมีเรื่องราวไม่ดีเข้ามากระทบสู่ชีวิตของเราเคล็บลับง่ายๆที่จะสร้างความสุขก็คือ“ปรับมุมมอง“ของเราเสียใหม่และหากมองว่าเป็นความโชคดีที่เราได้“เรียนรู้“ดังสุภาษิตจีนที่กล่าวว่า“เราไม่สามารถเปลี่ยนทิศทางลมได้แต่เราสามารถปรับใบเรือของเราได้“
คุณพ่อปลัด