ข้อคิดจากโป๊ปฟรังซิส
ตรัสเมื่อวันที่11ตุลาคม2015
โป๊ปฟรังซิส: “อย่านับถือศาสนาเหมือนเครื่องสำอาง ที่ทำดีเพื่ออวดและเพื่อแสร้งให้ตัวเองดูดี”
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงย้ำ อย่านับถือศาสนาเหมือนใช้เครื่องสำอาง ที่ทำดีเพื่ออวดและเพื่อเสแสร้งให้ตัวเองดูดี คนที่ทำแบบนี้เป็นเหมือนหลุมศพสีขาว ข้างนอกดูดี แต่ข้างในมีแต่กระดูกแห่งความตายและการคด
ทรงสอน อย่าทำดีหรือสวดภาวนาแบบอวดตัวให้คนอื่นเห็น เหมือนพวกไร้ยางอาย (cheeky) และพวกหน้าหนา (shameless people) ซึ่งภาวนาและให้ทานเพื่อที่ตัวเองจะได้รับการสรรเสริญ เพราะพระเจ้าสอนเราให้ทำดีด้วยความสุภาพถ่อมตน ทำดีแบบเงียบ ๆ ไม่ใช่อวดตัว
ช่วงเช้าวันอังคารที่ 11ตุลาคมที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา บทอ่านประจำมิสซานี้จากจดหมายนักบุญเปาโลถึงชาวกาลาเทีย ท่านกล่าวว่า “สำหรับคริสตชน การมีความเชื่อในพระเยซูไม่ได้อยู่ที่การเข้าสุหนัต แต่มันอยู่ที่การมีความเชื่อซึ่งแสดงออกด้วยการกระทำที่เปี่ยมด้วยความรัก” ส่วนพระวรสารวันนี้ พระเยซูไปเสวยอาหารที่บ้านของฟาริสี และไม่ได้ล้างมือก่อนเสวยตามธรรมเนียม พวกฟาริสีจึงจับผิดพระองค์ พระเยซูตรัสตอบว่า “ใจของท่านเต็มไปด้วยสิ่งที่ขโมยมาและความชั่ว คนโง่เอ๋ย พระเจ้าผู้ทรงสร้างภายนอก มิได้ทรงสร้างภายในด้วยหรือ”
พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันว่า
พระวรสารวันนี้ พระเยซูตรัสหลายครั้งมากว่า ‘ภายในใจของท่านเต็มไปด้วยสิ่งชั่วร้าย พวกท่านเป็นทาสเพราะไม่ยอมรับความยุติธรรมที่มาจากพระเจ้า’ พระเยซูทรงเรียกร้องเราให้สวดภาวนาโดยที่ยังไม่เห็นผลใด ๆ เราต้องสวดภาวนาแบบไม่อวดตัวให้คนอื่นเห็นว่าตนศรัทธาเหมือนพวกไร้ยางอาย (cheeky) และพวกหน้าหนา (shameless people) ซึ่งภาวนาและให้ทานเพื่อที่ตัวเองจะได้รับการสรรเสริญ เราต้องไม่ทำแบบนั้น เพราะพระเจ้าของเราสอนให้เรารู้จักหนทางของความสุภาพถ่อมตน ไม่ใช่การอวดตัว
เสรีภาพในจิตใจ คือ เสรีภาพในการทำความดีแบบเงียบ ๆ แบบไม่ต้องให้ใครมาเป่าแตรประกาศ เพราะหนทางของพระเยซูคือหนทางของความสุภาพถ่อมตนและการถูกดูหมิ่นเหยียดหยาม
ในทางกลับกัน คนที่ถูกพระเยซูตำหนิคือพวกที่ก้าวตามศาสนาแบบเครื่องสำอาง (พระสันตะปาปาใช้ภาษาอิตาเลี่ยนว่า ‘maquillage’ แปลเป็นอังกฤษประมาณว่า cosmetic หรือเครื่องสำอาง) คนพวกนี้นับถือศาสนาเพื่ออวดและเพื่อเสแสร้งให้ตัวเองดูดี แต่ภายในจิตใจของเขา พระเยซูใช้คำพูดแรง ๆ อธิบายถึงคนเหล่านี้ว่า ‘พวกท่านเป็นเหมือนหลุมศพทาด้วยสีขาว ข้างนอกดูดี แต่ข้างในมีแต่กระดูกแห่งความตายและการคดโกง’
ดังนั้น ให้เราวอนขอพระเจ้า เพื่อที่เราจะไม่เหนื่อยกับหนทางของการทำดีด้วยความสุภาพถ่อมตน ไม่เหนื่อยกับการปฏิเสธศาสนาของการอวดตัวและเสแสร้งว่าเป็นคนดี แต่ขอให้เราเดินบนหนทางของการทำดีแบบเงียบ ๆ และทำอย่างอิสระ เพื่อที่ว่า ภายในจิตใจของเราจะได้รับอิสรภาพนั่นเอง
(ขอขอบคุณ : Pope Report)