• หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us

2017-10-22 ข้อคิดวันอาทิตย์ที่ 29 เทศกาลธรรมดา ปี A

ข้อคิดวันอาทิตย์ที่ 29 เทศกาลธรรมดา ปี A

มธ 22: 15-21…ของของซีซาร์ จงคืนให้ซีซาร์ และของของพระเจ้า ก็จงคืนให้พระเจ้าเถิด…

เราให้บางสิ่งบางอย่างแด่พระเจ้าแต่พระองค์เดียว เป็นสิ่งที่เราไม่สามารถให้กับผู้ปกครองของโลกนี้…สิ่งนั้นก็คือ “การกราบไหว้นมัสการ” และนี่แหละที่เป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงมาชุมนุมกันอยู่ในวัดน้อยแห่งนี้เพื่อกราบไหว้นมัสการพระเจ้า พระผู้สร้างสากลจักรวาลและเจ้านายของทุกสิ่งทุกอย่าง แต่เป็นเรื่องเศร้าที่บ่อยๆครั้งเราไม่ได้ให้พระเจ้า มาเป็นอันดับแรกในชีวิตของเรา

            ข้อคิด…ในพระวรสาร “การเสียภาษีแก่พระจักรพรรดิซีซาร์ เป็นการถูกต้องหรือไม่?”…เป็นคำถามที่ศิษย์ของชาวฟาริสีกับคนที่เป็นฝ่ายของกษัตริย์เฮโรด ได้ถามพระเยซูเจ้านั้น เป็นคำถามที่ต้องการจะทดลองหรือทดสอบพระองค์ว่าพระองค์จะเลือกอยู่ข้างไหน หรือว่าพระองค์จะอยู่ข้างที่ต่อต้านไม่ยอมเสียภาษีให้พวกชาวโรมัน คือชาวฟาริสี  หรือพระองค์จะอยู่ข้างที่ให้ความร่วมมือกับพวกชาวโรมันที่ยอมเสียภาษีให้ คือฝ่ายของกษัตริย์เฮโรด  ถ้าพระองค์ทรงตอบว่า “ต้องเสีย” พระองค์ก็จะสูญเสียความน่าเคารพนับถือจากประชาชนและคงจะถูกถือว่าเป็นผู้ทรยศ แต่ถ้าพระองค์ทรงตอบว่า “ไม่ต้องเสีย” พระองค์ก็คงจะต้องถูกประนามว่าเป็นผู้ก่อการกบฏต่อต้านกรุงโรม

            ให้เราพิจารณาดูง่ายๆว่าถ้าพระเยซูเจ้าจะให้คำตอบอย่างใดอย่างหนึ่ง พระองค์ก็คงจะมีแต่ “เสีย” อย่างเดียว… แต่ว่าจากคำตอบของพระเยซูเจ้า พระองค์ทรงถือว่าไม่มีความขัดแย้งระหว่างอำนาจรัฐกับอำนาจพระเจ้า พระองค์ทรงยอมรับรู้บทบาทของรัฐ แต่ว่าอำนาจของรัฐนั้นจะต้องมีขีดจำกัดและไม่สามารถทดแทนหรืออยู่เหนืออำนาจของพระเจ้าได้ และจากหลักการที่ว่านี้ บรรดาคริสตชนก็สามารถจะสบายใจได้ในอันที่จะมีความจงรักภักดีต่อรัฐและต่อพระเจ้า

            ในสังคมโลก ก็มีหลายๆคนที่ถือสองสัญชาติ เช่นเดียวกันสำหรับคริสตชนซึ่งก็มีสองสัญชาติเหมือนกันคือสัญชาติของสังคมโลกและสัญชาติของสังคมสวรรค์

            บรรดาคริสตชนเป็นพลเมืองของประเทศที่ตัวเองเกิดและใช้ชีวิตอยู่ พวกเขาเป็นหนี้บุญคุณต่อประเทศชาติของตนเองอย่างมากมาย และต้องทดแทนคุณประเทศชาติ

            พวกเขาเป็นหนี้บุญคุณต่อกฎหมายและระเบียบต่างๆของบ้านเมือง เพราะทำให้พวกเขาสามารถใช้ชีวิตและทรัพย์สินต่างๆที่พวกเขามีอย่างสันติและอย่างมีความปลอดภัย

            พวกเขาเป็นหนี้บุญคุณต่อการบริการสาธารณะต่างๆ เช่นการขนส่งคมนาคม น้ำ(ประปา) ไฟฟ้า พลังงาน ฯลฯ

            พวกเขาเป็นหนี้บุญคุณต่อสวัสดิการต่างๆของรัฐ เช่นการศึกษา การรักษาพยาบาล การมีงานทำ ฯลฯ

            ประโยชน์ต่างๆเหล่านี้ที่พวกเขาได้รับ ย่อมหมายถึงว่าพวกเขาจะต้องอยู่ภายใต้กฎหมายและระเบียบต่างๆของรัฐ ดังนั้น รัฐที่ถูกต้องตามกฎหมาย จึงมีสิทธิอันชอบธรรมซึ่งบรรดาคริสตชนจะต้องให้ความเคารพต่ออำนาจและสิทธิต่างๆเหล่านั้นด้วย พวกเขาจะต้องให้ความเคารพต่อกฎหมายและต่อบรรดาผู้มีอำนาจปกครอง…พวกเขาจะต้องเป็นพลเมืองที่มีความรับผิดชอบและพวกเขาจะต้องมีส่วนร่วมในการทำให้ประเทศเป็นสถานที่น่าอยู่สำหรับทุกๆคน ต้องถือว่าการไม่ยอมเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศและไม่ยอมเคารพกฎหมายและผู้ปกครอง เป็นความบกพร่องของการมีปฏิบัติหน้าที่เป็นคริสตชนที่ดีด้วย

            แต่ว่าในเวลาเดียวกัน บรรดาคริสตชนก็เป็นพลเมืองของอาณาจักรสวรรค์ซึ่งพวกเขาได้รับสิทธิพิเศษบางประการด้วย เพราะพวกเขาก็มีหน้าที่และความรับผิดชอบบางประการซึ่งหลายๆครั้งก็อาจจะเป็นความขัดแย้งกันระหว่างการทำหน้าที่เป็นพลเมืองดีของรัฐและเป็นพลเมืองดีของอาณาจักรสวรรค์ แต่ว่าบรรดาคริสตชนก็ควรที่จะต้องรู้ว่าหน้าที่อันใดจะต้องมาก่อน ซึ่งในความเป็นจริง ก็มิใช่เป็นเรื่องง่ายที่จะทำการตัดสินใจว่าควรจะต้องเลือกทำอะไรก่อน สิ่งที่พระเยซูเจ้าได้ทรงบอกกับพวกเราในพระวรสารในวันนี้นั้น ก็เป็นเพียงแต่หลักการกว้างๆเท่านั้น พระองค์มิได้ให้รายละเอียดของหน้าที่รับผิดชอบต่อรัฐและต่ออาณาจักรสวรรค์ว่ามีอะไรบ้าง…“ของของซีซาร์ จงคืนให้ซีซาร์ และของของพระเจ้า ก็จงคืนให้พระเจ้า”…จึงไม่ง่ายนักที่เราจะบอกว่าอันนี้เป็นของรัฐและอันนั้นเป็นของพระเจ้า เพราะว่าชีวิตของเรามนุษย์เป็นหนึ่งเดียวและมีเอกภาพของมันซึ่งไม่สามารถถูกแบ่งแยกออกมาเป็นส่วนๆได้อย่างชัดๆ เช่นส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของโลกและอีกส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของสวรรค์

            บางครั้ง พวกเราคริสตชนอาจจะต้องเผชิญกับความขัดแย้งระหว่างเรื่องของโลกและเรื่องของศาสนาในตัวเอง เช่นเราจะสามารถเป็นคริสตชนได้อย่างไรในโลกของมนุษย์ซึ่งบ่อยๆครั้งกฎหมายต่างๆของโลกอาจจะดูเหมือนว่าไม่มีความเป็นคริสตชน ไม่สอดคล้องกับจิตตารมณ์ของพระวรสาร…คริสตชนที่ดีจะต้องใช้ความพยายามที่จะเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติของตนเอง และในเวลาเดียวกัน ก็ต้องเป็นพลเมืองที่ดีของอาณาจักรสวรรค์ด้วย พวกเขาจะต้องไม่บกพร่องต่อหน้าที่ของตนที่มีต่อพระเจ้าและต่อเพื่อนพี่น้องที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันบนโลกใบนี้

            และสำหรับเราคริสตชน จิตสำนึกอันแรกของเราจะต้องเป็นความซื่อสัตย์ภักดีต่อพระเจ้า และพระเจ้าแต่ผู้เดียวเท่านั้นที่เราจะต้องกราบไหว้นมัสการ ส่วนสำหรับสิ่งอื่นๆนั้น เรายินดีที่จะรับรู้และรับใช้ในฐานะที่เป็นตัวแทนอันชอบธรรมของพระเจ้า ด้วยการอธิษฐานภาวนาให้พวกเขาได้ปกครองประชาชนของตนอย่างชาญฉลาดและอย่างยุติธรรมโดยไม่เลือกปฏิบัติ

ข้าแต่พระเจ้าแห่งสิ่งสร้างทั้งหลาย เรามนุษย์ทุกคน ทั้งชายหญิงและเด็กๆ ต่างก็เป็นหนี้บุญคุณชีวิตต่อพระองค์ บรรดาผู้ปกครองของโลก ไม่สามารถมีศักดิ์ศรีและเกียรติยศ เทียบเท่าพระองค์ได้ ขอพระองค์โปรดสอนพวกลูก ได้รู้จักให้เกียรติและเคารพ ต่อบรรดาผู้มีอำนาจปกครองพวกลูก โปรดบันดาลให้พวกลูกเป็นพลเมือง ที่ซื่อสัตย์และจงรักภักดีต่อประเทศชาติ และโปรดชี้นำพวกลูก ให้กราบไหว้นมัสการพระองค์แต่ผู้เดียว

สวัสดี…พ่อวีรศักดิ์

เกี่ยวกับวัดฯ

  • ประวัติอาสนวิหาร
  • แม่พระอัสสัมชัญ
  • บรรณฐาน
  • สถาปัตยกรรม
  • กระจกสี
  • ภาษาลาตินในวัด

บริการต่างๆ

  • ล้างบาปทารก / Baptisms
  • แต่งงาน / Wedding
  • การขออนุญาตถ่ายภาพ

สารวัดย้อนหลัง

  • บทสนทนาจากเจ้าอาวาส
  • คิดสักนิด...สะกิดใจ...
  • ปลัดแก่ ซอย40
  • ปี 2012

บุคลากร/องค์กรต่างๆในวัด

  • พระสงฆ์
  • สำนักงานวัด
  • สภาภิบาล
  • นักขับร้อง
  • สโมสรเยาวชน

ลิงค์คาทอลิก

  • สภาสังฆราชคาทอลิกประเทศไทย
  • อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
  • หอจดหมายเหตุ อัครสังฆมณฑลฯ
  • สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย
Facebook-f Youtube