สวัสดีครับพี่น้องที่รัก อาทิตย์ในสัปดาห์ที่ 21 จากพระวรสารในวันนี้ พระเยซูเจ้าทรงถามความเห็นจากบรรดาสาวกว่า “คนทั้งหลายกล่าวว่าบุตรแห่งมนุษย์เป็นใคร” และพวกเขาได้สะท้อนคำตอบของประชาชนในลักษณะต่างๆ เช่น บ้างกล่าวว่าเป็นยอห์นผู้ทำพิธีล้าง บ้างกล่าวว่าเป็นประกาศกอิสยาห์ บ้างกล่าวว่าเป็นประกาศกเยเรมีย์ หรือประกาศกคนใดคนหนึ่ง ซึ่งเหตุผลสำคัญที่พระเยซูเจ้าทรงทำเช่นนี้ เพราะในสมัยนั้น ยังไม่มีการสำรวจประชามติ (Poll) เหมือนในสมัยปัจจุบัน ดังนั้น วิธีที่ง่ายที่สุดที่จะรู้ความคิดเห็นจากประชาชน คือ ถามความเห็นจากคนใกล้ชิด แต่คำตอบสำคัญที่พระเยซูเจ้าต้องการมากที่สุด คือ คำถามของบรรดาสาวกและของเราแต่ละคนว่า “แล้วท่านหล่ะว่าเราเป็นใคร”
คำตอบของเปโตรในนามของบรรดาสาวกที่ว่า “พระองค์คือพระคริสตเจ้า บุตรของพระเจ้าผู้ทรงชีวิต” คือ ภาพสะท้อนของความเชื่อและประสบการณ์ของเปโตรและบรรดาสาวกที่มีเกี่ยวกับพระเยซูเจ้า ตลอดระยะเวลาเกือบสามปีที่พวกเขาอยู่กับพระองค์ พวกเขาได้ฟังคำเทศน์สอน ได้เห็นอัศจรรย์ที่พระองค์ทรงกระทำและได้รับมอบพันธกิจในการประกาศข่าวดี แต่สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่การรู้เกี่ยวกับพระเยซูเจ้า ศิษย์ของพระองค์ทุกคนต้องมีประสบการณ์โดยตรงเกี่ยวกับพระองค์ และจากคำตอบนี้เองพระเยซูเจ้าได้มอบอำนาจและการเป็นผู้นำพระศาสนจักรที่พระองค์กำลังตั้งขึ้นให้กับเปโตร พระองค์ได้ตรัสกับเปโตรว่า “ท่านคือศิลาและบนศิลานี้ เราจะตั้งพระศาสนจักรของเรา ประตูนรกจะไม่มีวันชนะพระศาสนจักรได้ และเราจะมอบกุญแจอาณาจักรให้” (มธ 16:18) ซึ่งเป็นอำนาจเฉพาะของพระเจ้าเท่านั้นให้แก่พระศาสนจักร ด้วยเหตุนื้ เราจึงมีเปโตรเป็นพระสันตะปาปาองค์แรก และพระศาสนจักรได้เริ่มต้นขึ้น ซึ่งปัจจุบัน เรามีพระสันตะปาปาองค์ที่ 266 แล้วเป็นชาวอาร์เจนตินา ชื่อ พระสันตะปาปาฟรังซิส และพระศาสนจักรจะมีอายุได้สองพันกว่าปีแล้ว มีปัญหาใหญ่น้อยมากมาย ล้มลุกคลุกคลานทั้งจากปัญหาภายในและภายนอก แต่คำสัญญาของพระเยซูเจ้าก็ยังคงเป็นจริงเสมอคือ “ประตูนรก จะไม่มีวันชนะพระศาสนจักรได้”
พี่น้องครับในอาทิตยนี้ ข้อคิดสำคัญที่เราได้รับจากพระวรสารในวันนี้ คือ คำตอบของเราว่า เรามองพระเยซูเจ้าเป็นใครสำหรับตัวเรา? เราจะสามารถกล่าวได้อย่างมั่นใจไหมว่า พระเยซูเจ้า คือ พระคริสตเจ้า เป็นผู้ที่เราเชื่อและรักมากที่สุด พระองค์ทรงสำคัญและมีความหมายต่อเรามากที่สุด เพราะทรงเป็นแสงสว่างที่นำทางชีวิตและเป็นทุกอย่างสำหรับชีวิตของเรา และหากปราศจากพระองค์เราไม่สามารถทำอะไรได้เลย ซึ่งแน่นอน เราจะสามารถกล่าวได้อย่างมั่นใจเช่นนี้ได้ เราต้องมีประสบการณ์ส่วนตัวกับพระองค์ผ่านทางการภาวนาประจำวัน การรำพึงพระวาจา การเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ในบูชามิสซาและการรับศีลมหาสนิท และกับเพื่อนพี่น้องเรา โดยเฉพาะผู้ยากจน ยากไร้ ไร้ค่า และต้องการความช่วยเหลือจากเรา เพราะพระองค์เคยตรัสว่า “สิ่งใดที่ท่านทำต่อเพื่อนพี่น้องผู้ต่ำต้อยที่สุดของเรา ท่านก็ทำสิ่งนั้นต่อเรา” (มธ.25:40
…คุณพ่อปลัด…