สวัสดีครับพบกันอีกครั้งกับคอลัมน์“คิดสักนิด..สะกิดใจ”นะครับอาทิตย์นี้เราเข้าสู่สัปดาห์ที่1 ของเทศกาลมหาพรตแล้วนะครับเทศกาลที่พระศาสนจักรเชิญชวนให้เราคริสตชนใช้“ช่วงเวลา40 วัน”แห่งการเตรียมชีวิตและจิตใจของเราเข้าสู่การฉลองที่สำคัญและยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับเราคริสตชนนั่นก็คือวันสมโภชปัสกาหรือการฉลองการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูเจ้า
เราคริสตชนได้เริ่มต้นเทศกาลมหาพรตนี้ด้วยวันพุธรับเถ้าซึ่งเราคริสตชนไม่ว่าจะอยู่ในฐานันดรในพระศาสนจักรไม่ว่าจะเป็นพระสันตะปาปาพระสังฆราชพระสงฆ์นักบวชหรือฆราวาสเราทุกคนก็จะมี“การรับเถ้า”โดยก้มศีรษะของเราลงรับการทำเครื่องหมายกางเขนที่หน้าผากพร้อมกับคำพูดเตือนใจสั้นๆของพระสงฆ์เพื่อเป็นการแสดงออกถึงท่าทีภายนอกซึ่งต้องสอดคล้องกับท่าทีภายในจิตใจว่ามหาพรตคือช่วงเวลาพิเศษที่เราต้องสุภาพถ่อมตนสำนึกผิดกลับใจและใช้โทษบาปของตน
อาทิตย์ที่1 ของเทศกาลมหาพรตพระวรสารจึงให้ข้อคิดกับเราเกี่ยวกับเรื่องการประจญล่อลวงและบาปซึ่งพระเยซูเจ้าเตือนเราให้ระมัดระวังการประจญล่อลวงของผีปีศาจด้วยสิ่งพื้นฐานที่มนุษย์มักจะผิดพลาดกันนั่นคือการกินทรัพย์สมบัติและอำนาจเกียรติยศเพราะปีศาจนั่นรู้ดีถึงความอ่อนแอของเรามนุษย์ว่าเรามนุษย์ทุกคนต้องกินมันรู้ว่ามนุษย์มักโลภในทรัพย์สมบัติและมันก็รู้อีกว่ามนุษย์มักหลงใหลในอำนาจมนุษย์ชอบอยู่เหนือคนอื่นและไม่ปรารถนาให้ใครอยู่เหนือตนเรามนุษย์จึงมักอิจฉากันและต้องการจะทำลายล้างคนที่เก่งหรือคนอื่นอยู่เหนือตนเองเสมอ
ดังนั้นพี่น้องครับสิ่งสำคัญที่เราต้องตระหนักถึงและเป็นข้อคิดสำคัญสำหรับในอาทิตย์นี้จึงไม่ใช่เพียงแค่ประเด็นของการล่อลวงของผีปีศาจเท่านั้นแต่ยังเป็นประเด็นเรื่องหนทางหรือวิธีการในเอาชนะบาปหรือการประจญล่อลวงของผีปีศาจซึ่งพ่อขอแนะนำวิธีเอาชนะกับการประจญล่อลวงการต่อสู้กับกิเลสตัณหาลดความจองหองและลดความเห็นแก่ตัวของเราลงด้วยจิตตารมณ์แห่งมหาพรตในกิจการหลัก3 ประการนั่นคือการสวดภาวนาจำศีลอดอาหารและทำกิจเมตตา
·เราสวดภาวนาเพื่อเราจะได้สุภาพถ่อมตนมากขึ้นโดยยอมรับว่าเรานั่นอ่อนแอเกินไปและเราจะยังทำอะไรไม่ได้เลยหากเราปราศจากพระเป็นเจ้าทรงช่วยเหลือ
·เราจำศีลอดอาหารเพื่อเราจะได้รู้จักบังคับตนเองรู้จักออกจากตนเองโดยไม่ทำตามใจตนเองเอาชนะและตายต่อน้ำใจของเราเองรวมทั้งยังเป็นเรียนรู้ที่จะเป็นหนึ่งเดียวกับผู้ที่ยากไร้ที่ต้องอดมื้อกินมื้อเราอดเพื่อจะได้คิดถึงคนอื่นและใส่ใจคนอื่นเพิ่มมากขึ้น
·เราทำกิจเมตตาไม่ว่าจะเป็นการเยี่ยมผู้ป่วยการทำบุญทำทานหรือแม้แต่การละเว้นคำพูดที่ไม่ดีเช่นการนินนาว่าร้ายกันฯลฯเพื่อเราจะได้สนใจคนที่กำลังทุกข์ยากหันความสนใจของเราไปยังผู้อื่นที่กำลังเดือดร้อนมากกว่าและหันไปสนใจความต้องการทางร่างกายและจิตใจของผู้อื่นบ้างเพื่อเราจะได้ละทิ้งตนเองแทนที่จะคิดถึงแต่ตนเองเท่านั้น
…ุคุณพ่อปลัด…