หลังจากจบเทศกาลปัสกาแล้วพระศาสนจักรเชิญชวนเราคริสตชนให้ฟื้นฟูความเชื่อและข้อคำสอนสำคัญๆผ่านทางการฉลองต่างๆที่มีอย่างต่อเนื่องในพิธีกรรมนับตั้งแต่การสมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์สมโภชพระจิตเจ้าเสด็จลงมาสมโภชพระตรีเอกภาพและมาถึงสัปดาห์นี้คือสมโภชพระวรกายและพระโลหิตของพระคริสตเจ้าซึ่งเราเรียกกันสั้นๆว่าสมโภชพระคริสตวรกายหรือฉลองศีลมหาสนิทนั่นเอง
การฉลองศีลมหาสนิทที่มีความหมายสำคัญและเราเองมีโอกาสได้ฉลองอยู่เป็นประจำก็คือบูชามิสซาหรือพิธีบูชาขอบพระคุณ
บน“พระแท่น”ซึ่งเป็นศูนย์กลางของวัดของพิธีกรรมผู้ช่วยพิธีกรรมนำแผ่นปังและเหล้าองุ่นมาให้พระสงฆ์และพระสงฆ์ก็วางบนผ้าศักดิ์สิทธิ์สวดบทภาวนาเพื่อให้แผ่นปังและเหล้าองุ่น(รวมทั้งของถวายที่มาจากชีวิตจิตใจของเรา) เป็นของถวายที่คู่ควรและเหมาะสมหลังจากนั้นพระสงฆ์ก็จะสวดบทเสกศีลฯเอ่ยถ้อยคำเดียวกันกับที่พระเยซูได้ตรัสเมื่อสองพันปีก่อนหน้านี้
“รับปังนี้ไปกินให้ทั่วกันนี่คือกายของเรา”
“รับถ้วยนี้ไปดื่มให้ทั่วกันนี่คือถ้วยโลหิตของเรา…”
มือของพระสงฆ์ที่ปกเหนือแผ่นปังและเหล้าองุ่นก็ยังเป็นมือของมนุษย์ธรรมดาๆคนหนึ่งแต่ด้วยอำนาจของพระจิตเจ้าผ่านทางศีลบวชที่เขาได้รับพร้อมกับการเอ่ยถ้อยคำของพระเยซูเจ้าแผ่นปังได้กลายเป็นพระกายเหล้าองุ่นได้กลายเป็นพระโลหิต
แม้รูปปรากฏภายนอกแผ่นปังและเหล้าองุ่นไม่ได้เปลี่ยนไปแต่สายตาแห่งความเชื่อของเราณเวลานั้นนั่นคือศีลมหาสนิท คือพระกายและพระโลหิตคือชีวิตของพระเยซูเจ้าที่ประทานเป็นอาหารเลี้ยงชีวิตแก่ชาวเรา
แล้วเราคริสตชนผู้มีความเชื่อซึ่งได้เตรียมตัวเตรียมชีวิตจิตใจมาอย่างดีก็ออกมาจากที่นั่งของเราเดินออกมายืนเป็นแถวมารับพระกายของพระองค์จากมือของพระสงฆ์ที่ยังคงเป็นมือของคนธรรมดาๆเช่นเดิมหากแต่เป็นมือที่พระเจ้าทรงใช้เพื่อแจกจ่ายอาหารฝ่ายจิตคือ“ปังทรงชีวิต”เหมือนๆกับคราวที่พระเยซูเจ้าทรงทำอัศจรรย์ทวีขนมปังบรรดาสานุศิษย์ก็ได้นำขนมปังที่พระองค์ทรงทำอัศจรรย์ในครั้งนั้นไปแจกจ่ายแก่ผู้คนจำนวนมากมาย
โดยการรับศีลมหาสนิทพระเยซูกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราและเราก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของพระองค์เช่นเดียวกันนี่เป็นความผูกผันใกล้ชิดอย่างยิ่งใหญ่ดังที่เราเรียกว่านี่คือ“ศีลมหาสนิท”
แผ่นปังที่บัดนี้ได้กลายเป็นพระวรกายของพระเยซูเจ้าไม่ได้กลายเป็นเช่นนี้เพียงชั่วครู่เดียวไม่ได้จำกัดเวลาเฉพาะเมื่อเราประกอบพิธีบูชาขอบพระคุณเท่านั้นแต่พระองค์ประทับอยู่อย่างถาวรในรูปปรากฏของแผ่นปังที่เราเรียกว่า“ศีลมหาสนิท”
“ตู้ศีล”เป็นอีกที่หนึ่งที่มีความสำคัญซี่งภายในตู้ศีลมีศีลมหาสนิทมีองค์พระเยซูเจ้าประทับอยู่ ข้างๆตู้ศีลมีดวงไฟเปิดไว้ตลอดเวลาณ“ตู้ศีล” นี้เองเป็นที่ๆได้เก็บศีลมหาสนิทไว้เพื่อจุดมุ่งหมายสำคัญ2 ประการคือเพื่อเป็นศีลเสบียงสำหรับนำไปให้ผู้ป่วยและเพื่อให้คริสตชนได้มาเฝ้ามาภาวนามาแสดงความเคารพเป็นการแสดงออกถึงความเชื่อที่ว่าพระเยซูเจ้าประทับอยู่อย่างถาวรจริงๆ
ทุกๆมิสซาหลังจากที่เรารับศีลมหาสนิทแล้วเราก็ได้รับพรจากพระสงฆ์พระสงฆ์จะอวยพรเราด้วยมือทั้งสองของท่านนั่นเป็นการอวยพรปกติแต่การอวยพรด้วยศีลมหาสนิทถือเป็นพรพิเศษด้วยเหตุนี้ในบางโอกาสเราจะอัญเชิญศีลจากตู้ศีลมาประทับอยู่ในรัศมีตั้งไว้บทพระแท่นให้เราได้พร้อมใจกันแสดงความเคารพและรับพรพิเศษนี้ที่มือทั้งสองของพระสงฆ์จะค่อยๆประคองและยกรัศมีศีลมหาสนิทอวยพรเราด้วยการทำเป็นเครื่องหมายกางเขน
และต้องถือเป็นโอกาสพิเศษเพิ่มขึ้นไปอีกที่พระสงฆ์จะอัญเชิญศีลมหาสนิทที่ประทับอยู่ในรัศมีนี้แห่ออกนอกวัดไปยังพลับพลาหรือแท่นที่เตรียมไว้โดยมีพี่น้องคริสตชนเดินตามพร้อมกับร้องเพลงสรรเสริญศีลมหาสนิทและยังได้รับพรจากศีลมหาสนิทเพิ่มอีกด้วย
วันสมโภชพระคริสตวรกายเป็นโอกาสพิเศษจริงๆเชื่อว่าพี่น้องคงไม่พลาดมาร่วมฉลองและร่วมในขบวนแห่ศีลมหาสนิท พร้อมกับให้จิตใจของเราเป็นดัง“พลับพลา”ให้พระองค์ได้ประทับและอวยพรจะเป็นเช่นนั้นได้จิตใจของเราก็คงต้องสวยสดงดงามด้วยความดีด้วยความเชื่อและด้วยความศรัทธา.
โดย…คุณพ่ออนุสรณ์แก้วขจร