“คำแนะนำเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตสมภพและการฉลองพระคริสตสมภพ”
สวัสดีครับพี่น้องที่รักวันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วสัปดาห์นี้เราก็เข้าสู่เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าในสัปดาห์ที่1 แล้วคอลัมน์“คิดสักนิด..สะกิดใจ” อาทิตย์นี้จึงขอนำเสนอบทความ “คำแนะนำเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตสมภพและการฉลองพระคริสตสมภพ” จากหนังสือCeremonies of the Liturgical YearของMsgr. Peter J. Elliott มาแบ่งปันให้กับพี่น้องกันสักเล็กน้อยนะครับ
1. เจตนารมณ์ของเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า
เมื่อเริ่มเข้าสู่เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า(advent) ก็ถือเป็นการเริ่มต้นปีพิธีกรรมเทศกาลนี้ยาวนานสี่สัปดาห์ตลอดสี่สัปดาห์ที่ว่านี้แม้อาภรณ์สำหรับประกอบพิธีกรรมที่พระสงฆ์สวมใส่จะเป็นสีม่วงแต่ก็ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายเพื่อจะสื่อหรือเน้นว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการสำนึกผิด-เป็นทุกข์-กลับใจอย่างเข้มข้นดังเช่นช่วงเวลาสี่สิบวันในเทศกาลมหาพรต
ความหมายหรือเจตนารมณ์สำคัญของเทศกาลเตรียมรับเสด็จฯคือให้เทศกาลนี้เป็นช่วงเวลาของการรำพึงไตร่ตรองแผนการณ์ของพระเจ้าพร้อมกับรอคอยด้วยความหวังถึงการมาบังเกิดของพระผู้ไถ่ซึ่งจะต้องเน้นเฉลิมฉลองการเสด็จมาขององค์พระบุตรทั้งในอดีตปัจจุบันและอนาคต
2. เนื้อหาของเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า
เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้ามุ่งเชื้อเชิญให้เราพิจารณาบุคคลที่พระเจ้าได้ทรงเลือกและทรงเตรียมไว้เพื่อให้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธรรมล้ำลึกเรื่องการรับสภาพมนุษย์ของพระบุตร(Incarnation)
สายตาแห่งความเชื่อของพวกเราถูกนำพาให้มองดูชีวิตของพระนางมารีย์ผู้ปฏิสนธินิรมลนักบุญยอห์นบัปติสตานักบุญโยเซฟนักบุญเอลิซาเบธรวมทั้งท่านเศคาริยาห์
บทอ่านในเทศกาลนี้จะหยิบยกเอาคำทำนายของประกาศกอิสยาห์มาบอกเล่าให้เราได้รับฟังโดยมุ่งเน้นที่การเสด็จมาขององค์ผู้รับเจิม(the Anointed One) เน้นให้เราเห็นว่าแผนการณ์แห่งความรอดนี้พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วตั้งแต่วันอาทิตย์สัปดาห์ที่หนึ่งของเทศกาลนี้บททำวัตรจะมุ่งเน้นที่การรอคอยคำสัญญาและความหวังนอกจากนี้เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้ายังเป็นช่วงเวลาของการรำพึงไตร่ตรองถึง“สิ่งสุดท้าย” (last things) อันได้แก่ความตายการพิพากษาสวรรค์และแดนมรณะด้วยเหตุนี้ในบทเทศน์และการสอนคำสอนจำต้องกล่าวถึงเรื่องอวสานกาล(Eschatology)
3. วันอาทิตย์ในเทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า
โดยปกติทุกๆวันอาทิตย์ถือเป็นวันฉลองปัสกาประจำสัปดาห์ที่เรียกร้องให้ทุกชุมชนคาทอลิกเห็นความสำคัญและเฉลิมฉลองกันอย่างสง่าและพร้อมเพรียงวันอาทิตย์ในเทศกาลเตรียมรับเสด็จฯนี้ก็ยังคงมีความสำคัญในระดับเดียวกันแม้ว่าจะไม่มีการขับร้องบทสิริรุ่งโรจน์(Gloria) ในบูชามิสซา
ในขณะที่เทศกาลมหาพรตมีข้อห้ามเรื่องการบรรเลงออร์แกนหรือเครื่องดนตรีอื่นๆเทศกาลเตรียมรับเสด็จฯไม่ได้ห้ามแต่อย่างใดเช่นเดียวกับเรื่องการตกแต่งดอกไม้ข้างๆพระแท่นที่ไม่ได้ห้ามอย่างเด็ดขาดเพียงแต่ขอให้ทั้งการบรรเลงดนตรีและการตกแต่งดอกไม้มีลักษณะพอประมาณเพื่อรอวันที่จะแสดงออกอย่างพิเศษให้สมกับที่เป็นวันสมโภชใหญ่ที่เฝ้ารอคอยคือวันฉลองพระคริสตสมภพนั่นเอง
นอกจากนี้อาภรณ์ประกอบพิธีกรรมอาจจะเปลี่ยนเป็นสีดอกกุหลาบหรือสีบานเย็นในวันอาทิตย์ที่3 ของเทศกาลนี้(Gaudete Sunday)เพื่อต้องการจะสื่อว่าวันฉลองที่รอคอยใกล้เข้ามาแล้ว(เหมือนกับวันอาทิตย์ที่4 ในเทศกาลมหาพรตLaetare Sunday)
และเพื่อให้พิธีกรรมได้ทำหน้าที่ของตนในการอภิบาลเสริมสร้างความศักดิ์สิทธิ์รวมทั้งบำรุงชีวิตจิตหรือชีวิตฝ่ายวิญญาณของสัตบุรุษอย่างแท้จริงตามจังหวะของปีพิธีกรรมและธรรมล้ำลึกที่กำลังฉลองวันอาทิตย์ในเทศกาลเตรียมรับเสด็จฯซึ่งได้รับการจัดเตรียมเนื้อหาของการฉลองมาอย่างลงตัวแล้วได้ถูกเรียกร้องอย่างจริงจังให้งดการฉลองนักบุญรวมทั้งไม่ให้มีพิธีกรรม(rituals) อื่นๆเช่นมิสซาปลงศพเป็นต้น(ติดตามต่อในฉบับหน้า)
เรียบเรียงจาก Ceremonies of the Liturgical Year ของ Msgr. Peter J. Elliott