ข้อคิดอาทิตย์ที่5 เทศกาลปัสกาปีC
ยน13: 31-35…เราให้บทบัญญัติใหม่แก่ท่านทั้งหลายให้ท่านรักกันและกัน…เรารักท่านทั้งหลายอย่างไรท่านก็จงรักกันอย่างนั้นเถิด…
”จงรักกันและกันเหมือนกับที่เรารักพวกท่าน”…เป็นพระบัญญัติและคำสั่งสอนที่สำคัญที่สุดขององค์พระเยซูเจ้าและพระบัญญัติทุกข้อก็รวมอยู่ในนี้…ความผิดพลาดในชีวิตของคริสตชนส่วนใหญ่แล้วก็คือความผิดพลาดในเรื่องของความรักนั่นเอง…ให้เราได้ลองไตร่ตรองหรือคิดถึงคนที่เรารู้สึกมีความยากลำบากที่จะต้องรักเขาพูดกับเขาทำอะไรร่วมกับเขาฯลฯ…ขอพระเยซูเจ้าโปรดช่วยเหลือเราให้มีจิตใจเหมือนกับพระองค์โดยรักผู้อื่นอย่างไม่เลือกหน้า
ข้อคิด…ความรักมีหลายรูปแบบ…ในปัจจุบันเราเข้าใจถึงธรรมชาติของมนุษย์ที่มีความซับซ้อนได้มากขึ้นมีความเข้าใจถึงเหตุจูงใจที่หลากหลายที่อยู่เบื้องหลังการกระทำต่างๆของมนุษย์ได้ดียิ่งขึ้นและทำให้เราอาจจะแบ่งความรักออกได้4 ประเภทคือ
1. ความรักที่ถือประโยชน์ของตนเป็นสำคัญ…เรารักคนอื่นเพราะผู้ที่เรารักนั้นมีประโยชน์ต่อเรา…เป็นความเห็นแก่ตัวมากกว่าความรักคือฉันต้องการบางสิ่งบางอย่างจากคุณ
2.ความรักแบบเพ้อฝัน…ความรักประเภทนี้เป็นความรักที่ไม่ได้ตั้งอยู่บนความเป็นจริงเพราะเป็นความพึงพอใจที่ให้ซึ่งกันและกันในบางครั้งบางคราวและนี่อาจจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ชีวิตการแต่งงานของหลายๆคนล้มเหลว
3.ความรักแบบประชาธิปไตยหรือความรักแบบเสมอภาค…ซึ่งมีพื้นฐานมาจากความเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมายของบ้านเมืองที่เราต้องเคารพในสิทธิของผู้อื่นเพราะพวกเขาเป็นพลเมืองระดับเดียวกับเราเรารับรู้ถึงเสรีภาพของพวกเขาที่มีเช่นเดียวกับเราในทางกลับกันเขาก็ต้องรับรู้ถึงเสรีภาพของเราด้วยและในทำนองเดียวกันในการแบ่งปันสิ่งต่างๆให้กับผู้อื่นนั้นก็หวังว่าตนเองจะได้รับกลับคืนมาด้วยเช่นเดียวกัน…ให้แล้วก็ต้องได้รับกลับคืน
4.ความรักแบบคริสตชน…ซึ่งสรุปอยู่ในพระบัญญัติของพระเยซูเจ้าที่ว่า“จงรักกันและกันดังที่เรารักท่าน” นี่คือความรักที่เรากำลังพูดถึงเป็นความรักที่ไม่หวังสิ่งใดเพื่อตัวเองและเพื่อเป็นการตอบแทนความรักประเภทนี้ตรงข้ามกับความเป็นศัตรูกันการเบียดเบียนข่มเหงและการเอารัดเอาเปรียบคนอื่นแต่เป็นความรักที่แสดงออกด้วยการรับใช้กระทำด้วยความรักที่จริงใจและอุทิศตนเองความรักประเภทนี้จะเกิดขึ้นได้ด้วยความช่วยเหลือจากพระจิตเจ้าเท่านั้น
เมื่อเราจะทำดีก็ควรจะต้องไม่มีเจตนาที่แอบแฝงแต่จะต้องทำด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์ใจเป็นการทำเพื่อยังประโยชน์สำหรับผู้อื่นเป็นการทำด้วยความรักที่จริงใจ…แต่ถ้าหากทำด้วยความเห็นแก่ตัวหรือเพื่อให้คนอื่นสรรเสริญยกย่องการทำเช่นนี้มักจะเกิดจากการดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดเพื่อชื่อเสียงหน้าตาไม่ใช่ความรักแบบคริสตชนที่พระเยซูเจ้าต้องการจากศิษย์ของพระองค์
ความรักที่เป็นปัญหามักจะเกิดจากความต้องการได้รับความรักมากกว่าการเป็นผู้ให้ความรักผู้อื่นดังนั้นจึงมีหลายๆคนซึ่งพยายามทุกวิถีทางที่จะกระทำให้ตนเองน่ารักเพื่อมุ่งหวังความสำเร็จหรือทำให้ตนเองมีอำนาจหรือทำให้ตนเองร่ำรวยแต่ในที่สุดพวกเขาก็มักจะลงเอยด้วยการไม่มีความรัก…เพราะพวกเขาไม่รู้จักรักรักไม่เป็น…ผู้ที่ไม่มีความรักมักจะแสวงหาแต่การยกย่องสรรเสริญ
ความรักมักจะนำสิ่งที่ดีที่สุดออกมาจากผู้ที่รักโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นความรักที่จริงใจคนเราจะกระทำอย่างดีที่สุดและกระทำอย่างมีชีวิตชีวาอย่างที่สุดให้กับคนที่เรารัก…ความรักไม่ใช่ความรู้สึกความรักต้องออกมาจากหัวใจ…การปฏิเสธความรักโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่รักไม่เป็นอันรวมไปถึงความเฉยเมยหรือความเย็นชาคือการเริ่มต้นสู่ความทุกข์ชีวิตจะไม่เป็นสุขและจะไม่มีความชื่นชมยินดีในชีวิต
สวัดสี…คุณพ่อวีรศักดิ์