ข้อคิดวันพฤหัสบดีศักดิ์สิทธิ์
ยน 13: 1-15…พระเยซูเจ้าทรงรักผู้ที่เป็นของพระองค์ซึ่งอยู่ในโลกนี้ พระองค์ทรงรักเขาจนถึงที่สุด…
ข้อคิดพระคริสตเจ้า สงฆ์สูงสุด ทรงตั้งศีลมหาสนิท…การตั้งศีลมหาสนิทให้เป็นพิธีระลึกถึงพันธสัญญาใหม่เป็นทัศนะที่เราแลเห็นได้ชัดเจนที่สุดของพิธีกรรมในวันนี้ โดยเรียกร้องให้คริสตชนได้รำลึกถึงเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่สื่อความหมายของการช่วยให้รอดพ้นในการรับประทานอาหารค่ำมื้อสุดท้ายของพระเยซูคริสตเจ้า นอกนั้น พระศาสนจักรยังเชิญชวนให้เราได้ทำการรำพึงถึงทรรศนะอีก 2ประการของธรรมล้ำลึกที่เราทำการฉลองในวันนี้อีกด้วยคือ การตั้งศีลบวชเป็นพระสงฆ์และการให้บริการฉันท์พี่น้องในความรัก…การเป็นพระสงฆ์และความรักได้รับการประสานเข้าไว้ด้วยกันในศีลมหาสนิทนี้
พระเยซูเจ้าทรงล้างเท้าอัครสาวกคือพฤติกรรมแสดงความรัก
การที่นักบุญยอห์นได้เล่าเหตุการณ์ในชั่วโมงสุดท้ายๆแห่งชีวิตของพระเยซูเจ้ากับสานุศิษย์ของพระองค์ รวมทั้งได้บันทึกและรวบรวมสุนทรพจน์ของพระองค์ในระหว่างการทานเลี้ยงมื้อสุดท้ายด้วย โดยที่ไม่ได้กล่าวถึงพฤติกรรมทางจารีตพิธีของปังและเหล้าองุ่นเช่นผู้นิพนธ์พระวรสารท่านอื่นๆ แม้ว่าพฤติกรรมดังกล่าวจะเป็นข้อมูลที่ตายตัวและเก่าแก่ที่สุดของธรรมประเพณีที่กลุ่มคริสตชนเดิมมีอยู่แล้ว ดังที่ปรากฎอยู่ในเอกสารฉบับแรกที่ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ คือจดหมายของนักบุญเปาโลที่เขียนถึงชาวโครินธ์ แต่เราก็เชื่อว่านักบุญยอห์นคงมีเหตุผลในการทำเช่นนั้น
อย่างไรก็ตาม ท่านนักบุญยอห์นให้ความสนใจเป็นพิเศษกับพฤติกรรมของพระเยซูเจ้าที่ได้ล้างเท้าอัครสาวก ทั้งได้กำชับให้พวกเขาทำเช่นเดียวกันด้วย และนี่เป็นเหมือนพินัยกรรมและแบบอย่างของพระองค์ได้ให้กับบรรดาสานุศิษย์ของพระองค์ (ยน 13:1-5)
พระเยซูเจ้ามิได้สั่งให้พวกเขาประกอบจารีตพิธีนี้แบบซ้ำๆซากๆอย่างเครื่องจักร แต่พระองค์ได้กำชับให้พวกเขาทำเหมือนที่พระองค์ได้ทำ (ยน 13:15) นั่นคือ ให้พวกเขาได้รู้จักให้บริการแก่กันและกันในทุกโอกาสและในทุกๆสถานที่ ทั้งนี้เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าพระคริสต์ได้ทรงรักพวกเขา (มนุษย์ทุกคน) จนถึงที่สุด
ดังนั้น พฤติกรรมที่แสดงออกซึ่งความรักทุกๆพฤติกรรมจึงเป็น “ศีลศักดิ์สิทธิ์”อย่างหนึ่งเพราะว่าเป็นพฤติกรรมของความเป็นจริงอันหนึ่งอันเดียวที่เรามนุษย์สามารถแลเห็นได้ นั่นก็คือความรักของพระบิดาเจ้าในพระคริสต์และความรักของบรรดาคริสตชนในพระคริสต์ด้วย
การที่พระเยซูเจ้าประทานพระองค์เองให้เป็นอาหารสำหรับมนุษย์ คือศีลศักดิ์สิทธิ์แห่งความรัก
พิธีบูชาขอบพระคุณซึ่งเป็นการระลึกถึงยัญบูชาของพระเยซูเจ้า คริสตชนสามารถจะมีส่วนร่วมอย่างมีประสิทธิภาพ ก็ต่อเมื่อจะเป็นการรำลึกถึงความเสียสละของเราแต่ละคนด้วย
การสถิตอยู่อย่างแท้จริงในปังและเหล้าองุ่นของพระผู้ได้สิ้นพระชนม์และได้กลับคืนชีพ น่าจะได้ขยายวงกว้างออกไปในบรรดาผู้เจริญชีวิตอยู่รอบๆตัวเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบรรดาผู้ที่น่าสงสารและผู้ที่กำลังต้องการความช่วยเหลือจากเรา
ใครก็ตามที่แยกชั้นวรรณะ ใครก็ตามที่ดูถูกเหยียดหยามผู้อื่น ใครก็ตามที่ทำให้สังคมแตกแยก บุคคลนั้นเป็นผู้ที่ไม่ยอมรับรู้พระกายของพระคริสตเจ้าพิธีบูชาขอบพระคุณที่บุคคลดังกล่าวร่วมถวายด้วยนั้น ไม่ใช่การรับพระกายของพระคริสตเจ้าซึ่งเป็นอาหารแท้สำหรับโลก แต่ว่าเป็นพิธีที่ว่างเปล่า เป็นพิธีที่ตัดสินลงโทษพวกเขาเอง
สังฆภาพที่เกิดจากศีลมหาสนิทคือพระคุณสำหรับเอกภาพ
ในสังคมของคริสตชน ความสัมพันธ์ที่มีต่อกัน ได้รับการปลูกฝังค่านิยมโดยการให้บริการ มิใช่โดยการใช้อำนาจและพวกเขาจะพบการแสดงออกดังกล่าวอย่างสมบูรณ์แบบก็ในเวลาที่พวกเขามาร่วมกันในพิธีบูชาขอบพระคุณ
พระสังฆราชและพระสงฆ์มีส่วนร่วมในภารกิจของพระคริสตเจ้า ซึ่งเป็นคนกลางแต่ผู้เดียว ท่านประกาศพระวาจาของพระเจ้าแก่ทุกคน ท่านปฏิบัติหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการถวายพิธีบูชาขอบพระคุณและโดยการประกาศพระธรรมล้ำลึกขององค์พระเยซูเจ้า ท่านนำเอาคำภาวนาของสัตบุรุษมาร่วมกับบูชาของพระเยซูเจ้า และรื้อฟื้นโดยทำให้เป็นปัจจุบันซึ่งเป็นบูชาแต่เพียงบูชาเดียวของพันธสัญญาใหม่ กล่าวคือบูชาขององค์พระคริสตเจ้าซึ่งได้ทรงถวายพระองค์ท่านเองเป็นบูชาอันนิรมลแด่พระบิดาครั้งเดียวสำหรับตลอดไป ท่านปฏิบัติดังนี้ในทุกๆพิธีบูชาขอบพระคุณ จนกว่าจะถึงวันที่พระคริสตเจ้าจะเสด็จกลับมาอีก
สวัสดี…พ่อวีรศักดิ์