• หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us
  • หน้าแรก
  • เกี่ยวกับอาสนวิหาร
    • ประวัติอาสนวิหารอัสสัมชัญ
    • สถาปัตยกรรม
    • บรรณฐาน
    • ภาษาลาตินในวัด
    • กระจกสี / stained-glass
    • รูปนักบุญ / saint sculpture
  • บริการต่างๆ
    • ล้างบาปทารก / Baptisms
    • การถ่ายภาพ / Take pictures
    • แต่งงาน / wedding
  • ติดต่อสอบถาม/Contact us

2021-05-30 ข้อคิดสมโภชพระตรีเอกภาพ ปี B

ข้อคิดสมโภชพระตรีเอกภาพ ปี B

 

มธ 28:16-20…ท่านทั้งหลายจงไปสั่งสอนนานาชาติให้มาเป็นศิษย์ของเรา ทำพิธีล้างบาปให้เขา เดชะพระนามพระบิดา พระบุตร และพระจิต…

 

เรากำลังทำการสมโภชพระตรีเอกภาพ เราเริ่มและจบพิธีบูชาขอบพระคุณและกิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวันของเรา ด้วยการทำเครื่องหมายสำคัญกางเขน เดชะพระนามพระบิดาและพระบุตรและพระจิต…พระตรีเอกภาพซึ่งเป็นธรรมล้ำลึกและที่เราทำการสมโภชในวันนี้และทุกๆครั้งในพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ ให้เราทำด้วยความรักตามประสาลูกและด้วยความไว้วางใจซึ่งจะทำให้ความสัมพันธ์ของเรากับพระตรีเอกภาพ ลึกซึ้งยิ่งๆขึ้นในชีวิตของเราแต่ละคน

 

ข้อคิด…สิ่งแรกที่บิดามารดาสอนเราเกี่ยวกับเรื่องของคริสตศาสนาก็คงจะเป็นการทำเครื่องหมายสำคัญกางเขน และสิ่งสุดท้ายที่พระสงฆ์ทำที่หลุมฝังศพของเรา ก็คือการทำเครื่องหมายสำคัญกางเขนเหนือร่างที่ไม่ไหวติงของเรา…เพราะชีวิตคริสตชนของเราถูกตราไว้ “ในพระนามของพระบิดา และพระบุตร และพระจิต”ด้วยศีลล้างบาป…และบทภาวนาของพระศาสนจักรโดยทั่วๆไป ก็จะเริ่มต้นและลงท้ายโดยกล่าวถึงพระบิดาในฐานะผู้ทรงให้กำเนิดทุกชีวิตที่กล่าวถึงในเรื่องของการสร้างโลก และการส่งพระบุตรของพระองค์หรือพระวจนาตถ์ให้มาบังเกิดเป็นมนุษย์ ถูกทรมาน ถูกตรึงและสิ้นพระชนม์ที่ไม้กางเขน กลับคืนพระชนมชีพและเสด็จสู่สวรรค์ เพื่อช่วยเราให้รอดพ้น และการส่งพระจิตเพื่อการเกิดใหม่ของเราคริสตชนจากน้ำและพระจิต และเพื่อการทำงานของพระองค์ในพระศาสนจักรและในชีวิตของคริสตชนแต่ละคน

การเผยแสดงของพระเจ้าว่าพระองค์ทรงเป็นพระบิดา และพระบุตร และพระจิตนั้น ก่อนอื่นหมด บอกเราถึงสิ่งที่พระองค์ทรงเป็นสำหรับเรา แต่ในเรื่องที่เกี่ยวกับเอกภาพอันล้ำลึกของพระบิดาและพระบุตรและพระจิตนั้น เราคงไม่สามารถพูดได้อย่างมั่นใจถูกต้องและสมบูรณ์ด้วยภาษาของมนุษย์ซึ่งไม่สามารถบรรยายธรรมล้ำลึกอันสุดพรรณนาของพระเจ้าได้ เช่น การรับรู้ว่าพระบิดาและพระบุตรและพระจิต ทรงมีฤทธานุภาพและพระธรรมชาติเดียวกัน…พระบุตรทรงเกิดจากพระบิดา(begotten)แต่พระจิตทรงออกมาจากพระบิดาและพระบุตร (proceed)…แต่แน่นอนว่ามนุษย์ต้องการรู้จักพระองค์อย่างลึกซึ้งและอย่างละเอียดมากขึ้น อย่างไรก็ตามเราต้องตระหนักว่าสิ่งที่สำคัญมากกว่าการรู้เกี่ยวกับพระเจ้าสำหรับเราคริสตชน ก็คือการรู้จักและรักพระองค์แบบที่คนรักรู้จักและรักกันและกัน

 

พระตรีเอกภาพซึ่งเป็นที่รู้จักในองค์พระบิดาและพระบุตร และพระจิต เป็นพระผู้ศักดิ์สิทธิ์ครบครัน ไม่มีการเจือปนจากสิ่งภายนอก ทั้งไม่ถูกจำกัดอยู่ในพระผู้สร้างและสิ่งสร้าง หากแต่ประกอบด้วยอานุภาพสมบูรณ์ที่จะสร้างสรรค์และใช้พลังได้อย่างอิสระเสรี พระธรรมชาติของพระองค์ก็มั่นคงอยู่ได้เองโดยไม่แบ่งแยก เพราะรวมเป็นหนึ่งในสามพระบุคคล เหตุว่าพระบิดาทรงสร้างสรรค์ทุกสิ่งโดยทางพระวจนาตถ์ในพระจิตเจ้า ความเป็นหนึ่งเดียวของพระตรีเอกภาพศักดิ์สิทธิ์ จึงคงอยู่ด้วยประการฉะนี้ ดังนั้นพระศาสนจักรในวันนี้จึงประกาศ “พระตรีเอกภาพ พระเจ้าหนึ่งเดียวในสามพระบุคคล” พระผู้ทรงเป็นอยู่ “เหนือสรรพสิ่ง”อันหมายความถึงโดยทางพระวจนาตถ์และ “ในทุกสิ่ง”คือในองค์พระจิตเจ้า

 

เมื่อนักบุญเปาโลเขียนจดหมายถึงชาวโครินธ์ ท่านบรรยายทุกสิ่งถึงพระเจ้าหนึ่งเดียว คือพระบิดาผู้ทรงเป็นแหล่งที่มาของสรรพสิ่ง เมื่อท่านกล่าวว่า“พระพรพิเศษมีหลายประการ แต่มีพระจิตเจ้าพระองค์เดียว มีหน้าที่หลายอย่างต่างกัน แต่มีองค์พระผู้เป็นเจ้า(พระบุตร) เพียงองค์เดียว กิจการมีหลายอย่าง แต่มีพระเจ้า(พระบิดา) พระองค์เดียวผู้ทรงกระทำทุกอย่างในทุกคน” (1 คร 12: 4-6)

พระคุณซึ่งพระจิตเจ้าทรงแจกจ่ายให้แต่ละคน ก็เป็นของประทานของพระบิดาผ่านทางพระวจนาตถ์เหตุว่าทุกสิ่งที่เป็นของพระบิดา ก็เป็นของพระบุตรด้วย เป็นอันว่าทุกสิ่งที่พระบุตรประทานให้ในพระจิต จึงเป็นของประทานจากพระบิดา ในทำนองเดียวกัน เมื่อพระจิตเจ้าประทับอยู่ในเรา พระวจนาตถ์และพระบิดาก็ประทับอยู่กับเราด้วย และนี่เป็นความหมายของ “เรา หมายถึงพระบิดา และพระบุตร และพระจิต จะมาหาเขาและจะพำนักอยู่ในเขา”เหตุว่ามีแสงสว่างอยู่ที่ไหน ความสุกใสก็อยู่ที่นั่น และความสุกใสอยู่ที่ไหน พลังรุ่งโรจน์ของแสงสว่างก็ฉายแสงออกจากที่นั้นซึ่งก็หมายถึงพระเจ้านั่นเอง

ในจดหมายถึงชาวโครินธ์ฉบับที่สอง นักบุญเปาโลได้กล่าวเช่นเดียวกันว่า  “ขอให้พระหรรษทานของพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้า ขอพระเจ้าและความสนิทสัมพันธ์ของพระจิตเจ้า สถิตอยู่กับทุกท่านเทอญ” (2 คร 13:13)(พระศาสนจักรใช้ในเวลาเริ่มพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ กล่าวทักทายสัตบุรุษ) เหตุว่าพระหรรษทานและพระคุณซึ่งพระตรีเอกภาพประทานให้นั้น ประทานให้โดยพระบิดาทางพระบุตรและในพระจิต และผลที่ตามมาจากพระคุณนี้ ก็มาจากพระจิตเจ้า เพราะถ้าเราได้รับพระจิตแล้ว เราก็มีความรักของพระบิดาและพระหรรษทานของพระบุตรและความสนิทสัมพันธ์กับพระจิต ตามที่นักบุญอาธานาสได้กล่าวไว้

 

ให้เราพร้อมใจกันภาวนาต่อพระตรีเอกภาพโดยขอให้เราประกาศยืนยันความเชื่อแท้จริง ยอมรับรู้พระเกียรติมงคลแห่งพระตรีเอกภาพผู้ทรงสถิตนิรันดร และกราบนมัสการทั้งสามพระบุคคล เป็นพระเจ้าทรงฤทธิ์และมีพระเดชานุภาพหนึ่งเดียวกัน

 

ขอพระหรรษทานของพระเยซูคริสต์

องค์พระผู้เป็นเจ้า

ขอความรักของพระเจ้า

และความสนิทสัมพันธ์ของพระจิตเจ้า

สถิตอยู่กับทุกท่านเทอญ

 

สวัสดี…พ่อวีรศักดิ์

เกี่ยวกับวัดฯ

  • ประวัติอาสนวิหาร
  • แม่พระอัสสัมชัญ
  • บรรณฐาน
  • สถาปัตยกรรม
  • กระจกสี
  • ภาษาลาตินในวัด

บริการต่างๆ

  • ล้างบาปทารก / Baptisms
  • แต่งงาน / Wedding
  • การขออนุญาตถ่ายภาพ

สารวัดย้อนหลัง

  • บทสนทนาจากเจ้าอาวาส
  • คิดสักนิด...สะกิดใจ...
  • ปลัดแก่ ซอย40
  • ปี 2012

บุคลากร/องค์กรต่างๆในวัด

  • พระสงฆ์
  • สำนักงานวัด
  • สภาภิบาล
  • นักขับร้อง
  • สโมสรเยาวชน

ลิงค์คาทอลิก

  • สภาสังฆราชคาทอลิกประเทศไทย
  • อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
  • หอจดหมายเหตุ อัครสังฆมณฑลฯ
  • สื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย
Facebook-f Youtube