วันอาทิตย์ 19 ธันวาคม 2021 เตรียมรับเสด็จ 4
บทอ่านจากพระสมณสารของนักบุญเลโอ ผู้ยิ่งใหญ่ พระสันตะปาปา
ธรรมล้ำลึกแห่งการคืนดีกับพระเป็นเจ้า
ในการที่จะกล่าวถึงพระเจ้า พระบุตรของพระนางพรหมจารีมารีย์ ในฐานะที่ทรงเป็นมนุษย์แท้และครบครันนั้น คงจะไม่เกิดประโยชน์แก่เรา หากเราไม่เชื่อว่าพระองค์ทรงสืบเชื้อสายมาจากบรรพบุรุษดังที่มีเขียนไว้ในพระวรสาร พระวรสารของนักบุญมัทธิวเริ่มต้นด้วยการ “ลำดับพระญาติวงศ์ของพระเยซูคริสตเจ้า โอรสของดาวิด และบุตรของอับราฮัม” จากนั้นก็สืบสาวลำดับเชื้อสายโดยนับจากบรรพบุรุษลงมาถึงภัสดาของพระนางมารีย์ คือท่านโยเซฟ ตรงกันข้าม นักบุญลูกาลำดับเชื้อสายของพระคริสตเจ้าในลักษณะย้อนหลัง โดยสืบสาวไปทีละขั้นจนถึงบิดาแท้จริงของมนุษยชาติ เพื่อแสดงว่าอาดัมคนแรกและอาดัมคนสุดท้ายมีธรรมชาติเดียวกัน
ไม่มีข้อสงสัยเลยว่า พระบุตรของพระเจ้า ผู้ทรงสรรพานุภาพทรงสอนและ ทรงทำให้มนุษย์ศักดิ์สิทธิ์ด้วยการแสดงตัวเป็นมนุษย์เหมือนพวกเขา ดังที่พระองค์ได้ทรงกระทำแก่บรรดาอัยกาและประกาศก เช่นเมื่อพระองค์ทรงต่อสู้กับยาโคบ หรือทรงสนทนากับพวกเขา หรือเมื่อพระองค์ทรงรับการต้อนรับจากพวกเขา และแม้แต่รับประทานอาหารที่พวกเขานำมาให้ แต่การแสดงองค์เช่นนี้เป็นเพียงเครื่องหมาย หรือสื่อบอกล่วงหน้าอย่างเร้นลับ ถึงการเสด็จมาของผู้ที่จะบังเกิดเป็นมนุษย์แท้จากตระกูลของบรรพบุรุษ ซึ่งได้ล่วงพ้นไปก่อนพระองค์แล้ว ดังนั้น จึงไม่มีผู้ใดอาจทำให้ธรรมล้ำลึกแห่งการคืนดีกับพระเป็นเจ้า ตามแผนการตั้งแต่นิรันดรนั้นสำเร็จได้ หากพระจิตไม่ได้เสด็จมาเหนือพระนางพรหมจารีมารีย์ ทั้งฤทธานุภาพของพระผู้สูงสุดมิได้ปกคลุมพระนาง เพื่อว่าพระปรีชาญาณจะได้ทรงสร้างที่พำนักในพระครรภ์บริสุทธิ์ของพระนางด้วยพระองค์เอง และพระวจนาตถ์ทรงรับเอากาย ธรรมชาติพระเจ้าและธรรมชาติของผู้รับใช้ได้ถูกรวมเป็นหนึ่งเดียวกันในบุคคลหนึ่ง เพื่อให้พระผู้สร้างกาลเวลาได้ทรงบังเกิดมาตามกาลเวลา และพระองค์ผู้ทรงเนรมิตทุกสิ่งขึ้นมา จะเสด็จมาประทับอยู่ท่ามกลางสิ่งสร้างของพระองค์
หากมนุษย์คนใหม่ที่ถูกสร้างขึ้น “เหมือนมนุษย์คนบาป” ไม่ได้รับสภาพของบิดามารดาเดิมไว้ในพระองค์เองแล้ว และถ้าพระองค์ไม่ทรงถ่อมองค์ลงมารับธรรมชาติเดียวกับพระมารดา ขณะที่ยังคงร่วมพระธรรมชาติเดียวกับพระบิดา เป็นผู้เดียวที่ปราศจากบาป รวมธรรมชาติของเราเป็นหนึ่งเดียวกับของพระองค์แล้ว มนุษยชาติทั้งมวลจะยังคงตกเป็นเชลยอยู่ภายใต้การครอบงำของปิศาจ ชัยชนะขององค์ผู้พิชิตคงจะไม่เป็นประโยชน์แก่เรา หากการสู้รบไม่ได้มีขึ้นในสภาวะมนุษย์ แต่โดยการรวมธรรมชาติมนุษย์ และธรรมชาติพระเจ้าเข้าด้วยกันอย่างอัศจรรย์นี้ ธรรมล้ำลึกแห่งการบังเกิดใหม่จึงทอแสงเหนือเรา เพื่อว่าโดยทางพระจิตองค์เดียวกัน ซึ่งได้ทรงปฏิสนธิ์และให้กำเนิดพระคริสตเจ้า เราทั้งหลายก็เช่นกันจะได้เกิดใหม่อีกครั้งหนึ่งในการเกิดฝ่ายจิต ดังนั้น ผู้นิพนธ์พระวรสารจึงกล่าวว่าผู้มีความเชื่อ “ต้องเกิดใหม่ไม่ใช่จากเลือด ไม่ใช่จากความปรารถนาแห่งเนื้อหนัง และไม่ใช่จากน้ำใจของมนุษย์ แต่จากพระเป็นเจ้า”
<แบ่งปัน>
รำพึงถึง…นักบุญยอแซฟ
ท่านเป็นคนเงียบๆ ทำไมเราถึงผูกพันกับท่านมาก
“พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำบึงทอง” เพราะนักบุญยอแซฟเลือกความสงบใจตนเองและส่งผลให้บรรยากาศสงบด้วย ซึ่งแตกต่างจากมนุษย์ทุกวันนี้
ใจสับสนวุ่นวาย ไม่พบกับชีวิตภายใน
พี่น้องถ้าเราเลือกสงบแบบนักบุญยอแซฟ จะได้ยินเสียงในใจ
เป็นเสียงที่พระเจ้า ตรัสกับเรา
เป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้ากับเรา ดังนั้นเราจำเป็นต้องฝึกสงบ
ฟังเสียง ฟัง…ฟัง…จนเสียงจะชัดขึ้นและสุดท้ายจนไม่มีความสงสัยเลย
ลองสังเกต นักบุญยอแซฟ ได้ยินเสียงคำสั่ง ไม่เคยสงสัยเลย เรื่องราวการหมั้น
ของพระนางมารีย์กับโยเซฟ…
ดังนั้นท่านจึงได้ชื่อว่าชื่อผู้ชอบธรรม
ท่านชอบธรรม เพราะความรักที่ลึกซึ้งรักที่ฟังเสียงพระเจ้า
ท่านชอบธรรม เพราะรักด้วยความเมตตา
ท่านชอบธรรม แม้ไม่เข้าใจ แต่แสดงออกมาทำตามประสงค์ของพระเจ้าด้วยใจจริง
ท่านจึงไม่ฟ้องหย่าแม่พระอย่างเปิดเผย
จากชีวิตนักบุญยอแซฟ ทุกครั้งที่สับสนว่าจะทำอย่างไรดี
ความนิ่งทำให้ มีความชัดเจน ทำให้ชัดเจนในกระแสเรียก
และมีชีวิตความผูกพันกับพระเจ้า ส่งผลให้ หล่อหลอมชีวิตที่รักจริง
รักดังกล่าวจึงให้อภัย แม้อาจจะเข้าใจผิด แต่ไม่ปรักปรำ ไม่โมทนา
ไม่แก้แค้น ไม่เห็นแก่ตัว พร้อมจะให้อภัย นักบุญยอแซฟที่ต้องการถอนหมั้น เพราะจะให้
แม่พระได้อยู่กับคนที่ต้องการ
โอกาสเตรียมรับเสด็จ โค้งสุดท้าย เชิญชวนพี่น้อง นิ่งเงียบ ฟัง…ฟัง…ฟัง เสียงที่
พระเจ้าทรงบอกกับเราผ่านทางความเงียบ เพื่อทำตามความต้องการของพระ มากกว่า
ความต้องการของเราเอง.