“เขาเอาเรื่องทั้งหมดนี้มาจากไหน?”
พระเยซูเจ้ากลับไปยังถิ่นกำเนิดของพระองค์ นักบุญมาระโกบอกผู้อ่านให้ทราบก่อนหน้านี้แล้วว่าถิ่นกำเนิดของพระองค์คือเมืองนาซาเร็ธในแคว้นกาลิลี (มก 1:9) บ้านของพระองค์อยู่ที่นี่ พระองค์เติบโตขึ้นที่นี่
นาซาเร็ธเป็นเมืองไม่ใหญ่มาก มีประชากรราว 500 คน หรืออย่างมากก็ไม่เกิน 1,600 คน ประชาชนน่าจะรู้จักกันดีสำหรับผู้ที่อาศัยในชุมชนขนาดย่อมเช่นนี้
ศาลาธรรมในหมู่บ้าน/เมืองคือศูนย์กลางของชีวิตชาวบ้านทั้งทางศาสนาและวิถีชีวิต การได้ฟังเรื่องราวจากพระคัมภีร์ในศาลาธรรมเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับชาวบ้านที่น้อยคนนักจะอ่านออกเขียนได้ (เหมือนคริสตังสมัยก่อนที่ไปวัดเพราะไม่ได้มีสื่อมากมายเหมือนปัจจุบัน และหนังสือที่มีก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะอ่านออก)
แต่เมื่อชาวบ้านนาซาเร็ธเห็นพระเยซูเจ้าอ่านพระคัมภีร์ได้ สอนพวกเขาได้ ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นกับคนบ้านเดียวกับพระองค์คือประหลาดใจและไม่ยอมรับ พูดกันว่า“เขาเอาเรื่องทั้งหมดนี้มาจากไหน?” “เขาเป็นช่างไม้ลูกนางมารีย์มิใช่หรือ?”
ทั้งนี้เพราะชาวบ้านนาซาเร็ธรู้จักพระเยซูเจ้าเพียงในฐานะ “เยซู ลูกช่างไม้” เท่านั้น ไม่ใช่ลูกศิษย์ที่ไปเล่าเรียนเรื่องศาสนามา และหากพอจำได้ ก่อนหน้านี้ก็มีเสียงซุบซิบกันว่าคนนี้มีปีศาจเบเอลเซบูล (มก 3:22) ชาวบ้านเหล่านี้อาจจะได้ยินและเล่าลือเรื่องเหล่านี้อยู่ ทำให้ไม่ยอมรับพระเยซูเจ้า
สิ่งที่ยากที่สุดในการยอมรับบุคคลหนึ่งคือ “อคติ” ซึ่งบ่อยครั้งอคติเกิดขึ้นอย่างอยุติธรรม อาจเป็นเพราะเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลหนึ่งมา ทั้งๆ ที่ตัวเราเองก็ไม่เคยรู้จักบุคคลนั้นโดยตรง อาจเป็นเพราะเราไม่เคยเห็นบุคคลนั้นทำในสิ่งที่เราอยากเห็น ซึ่งก็ไม่ได้หมายความบุคคลนั้นทำไม่ได้ ซ้ำร้ายไปกว่านั้นเราอาจรับอคติมาจากผู้มีอคติกับบุคคลนั้น แล้วเราก็ปฏิเสธไปก่อน
และบุคคลที่เรามักมีอคติมากๆ คือ “คนใกล้ตัว” บ่อยครั้งเราฟังคนข้างบ้านมากกว่าคนข้างกาย เราฟังเสียงนอกบ้านมากกว่าเสียงคนในบ้าน เราฟังเสียงของโลกมากกว่าเสียงของพระเจ้า กี่ครั้งแล้วที่เราไม่เชื่อคู่ชีวิตของเรา ครอบครัวของเรา ลูกหลานของเรา เพื่อนของเรา แต่ไปเชื่อสิ่งอื่นมากกว่า?
บ่อยครั้งในชีวิตเราพลาดโอกาสที่จะได้รับสิ่งดีๆ จากบุคคลที่ผ่านเข้ามาในชีวิตด้วยอคติที่มีอยู่ เหมือนชาวบ้านนาซาเร็ธที่มีอคติกับพระเยซูเจ้า ทั้งๆ ที่คนบ้านเดียวกันน่าจะภูมิใจที่มีประกาศกยิ่งใหญ่ แต่พวกเขากลับไม่มีความเชื่อในพระเยซูเจ้า ทำให้พระเยซูเจ้าทำอะไรไม่ได้
น่าเสียดาย
..<ลาซารัส>..