“พวกเราจะซื้อขนมปังที่ไหนให้คนเหล่านี้กิน”
อัศจรรย์เรื่องการทวีขนมปังนี้เป็นอัศจรรย์เรื่องเดียวที่มีบันทึกไว้ในพระวรสารทุกเล่ม เรื่องราวที่เราได้ยินในสัปดาห์นี้มาจากพระวรสารของนักบุญยอห์น
มัทธิวและมาระโกเล่าเรื่องการทวีขนมปังนี้โดยเน้นความสงสารของพระเยซูเจ้าเมื่อเห็นประชาชนจำนวนมากเหมือนดังแกะไม่มีผู้เลี้ยง แต่ยอห์นเล่าเรื่องนี้โดยเน้นการท้าทายความเชื่อ เริ่มจากคำถามของพระองค์ต่อบรรดาศิษย์
พระเยซูเจ้าน่าจะจงใจถามฟิลิปว่า “พวกเราจะซื้อขนมปังที่ไหนให้คนเหล่านี้กิน” (ยน 6:5) เพราะบ้านของฟิลิปอยู่ใกล้กับเบธไซดา (เทียบ ยน 1:44) หากจะมีใครพอรู้ว่าจะซื้อขนมปังแถวนี้ได้ที่ไหน ฟิลิปน่าจะเป็นหนึ่งคนที่รู้ คำถามนี้ชวนให้คิดถึงคำถามของผู้รับใช้ของเอลีชาในบทอ่านที่หนึ่ง “ข้าพเจ้าจะนำอาหารแค่นี้ไปเลี้ยงคนหนึ่งร้อยคนได้อย่างไร” (2พกษ 4:43)
ฟิลิปตอบคำถามของพระเยซูเจ้าว่า “ขนมปังสองร้อยเหรียญแจกให้คนละนิด ก็ยังไม่พอ” นอกจากนี้อันดรูว์ก็ยังเสริมว่า “เด็กคนหนึ่งที่นี่มีขนมปังบาร์เลย์ห้าก้อนกับปลาสองตัว ขนมปังและปลาเพียงเท่านี้จะพออะไรสำหรับคนจำนวนมากเช่นนี้” เราไม่เห็นอารมณ์ของข้อความ แม้จะดูเป็นเหตุเป็นผล แต่พอจะจับความรู้สึกได้ว่าศิษย์สองคนตอบคำถามพระอาจารย์ด้วยความหงุดหงิด ประชดประชันพระอาจารย์ที่ถามเรื่องนี้ขึ้นมา
แต่พระเยซูเจ้าทราบอยู่แล้วว่าจะทำอะไร (ยน 6:6) พระองค์ทรง “ทดลองใจ” ฟิลิป คำว่าทดลองใจนี้มีความหมายเหมือนกับ “การประจญ” พระเยซูเจ้าไม่ได้ต้องการให้ฟิลิปแก้ปัญหา แต่ต้องการให้ฟิลิปเชื่อมั่นในพระองค์ว่าพระองค์สามารถจัดการปัญหาต่างๆ ได้ ไม่ใช่ด้วยวิธีการของมนุษย์ แต่วิธีการของพระองค์
มีเพียงพระวรสารนักบุญยอห์นที่กล่าวถึง “เด็กคนหนึ่ง” มีขนมปังและปลา ยอห์นกล่าวถึงเด็กคนนี้ด้วยจุดประสงค์บางอย่างแน่ๆ ยอห์นเล่าว่าเขามีเพียงขนมปังบาร์เลย์ซึ่งถือว่าเป็นขนมปังชั้นต่ำในสมัยนั้น มีแต่คนยากจนที่จะกิน เป็นขนมปังที่ไม่อร่อย และแสนจะฝืดคอ ส่วนปลาอีกสองตัวก็เป็นเพียงสิ่งที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้พอจะกลืนขนมปังแสนฝืดคอนั้นลงไปประทังชีวิตได้
สิ่งที่พระเยซูเจ้าสอนเราในวันนี้คือให้เชื่อและวางใจในพระองค์ บ่อยครั้งพระองค์ไม่ต้องการถามเราว่าเราจะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นอย่างไร แต่พระองค์ต้องการถามว่าเราเชื่อในพระองค์แค่ไหนมากกว่า เหมือนที่พระองค์ถามฟิลิปในวันนี้ว่าจะหาขนมปังจากที่ไหนเลี้ยงคนห้าพันคน
เราคงต้องเป็นเหมือนเด็กคนนั้นที่มอบอาหารทั้งมื้อของตนเองให้กับพระเยซูเจ้า แม้จะเป็นเพียงอาหารชั้นต่ำที่คนทั่วไปไม่กินกัน แต่พระองค์จะนำสิ่งที่เรามีไปเลี้ยงทุกคน (และแน่นอนว่าเลี้ยงตัวเราเองที่ให้อาหารทั้งมื้อนั้นด้วย) สิ่งที่เรามีจะมีมากขึ้นจนพอเลี้ยงทุกคน มีมากจนเหลือ
..<ลาซารัส>..