“จงเลี้ยงดูแกะของเราเถิด”
หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นซึ่งน่าจะหมายถึงการกลับคืนพระชนมชีพ (ยน 20:1-10) การเปิดเผยกับมารีย์ ชาวมักดาลา (ยน 20:11-18) การปรากฎแก่บรรดาศิษย์และโทมัส (ยน 20:19-31) เปโตรชวนเพื่อนๆ “ไปจับปลา” ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาคุ้นเคย
การกลับไปทำสิ่งที่คุ้นเคยและรู้สึกว่าเป็นพื้นที่ปลอดภัยของตนเองนี้ทำให้เกิดผลลัพธ์เดิมๆ บรรดาศิษย์ก็เช่นกันเพราะพวกเขาจับปลาไม่ได้เลย จนกระทั่งเหตุการณ์ที่คุ้นเคยเกิดขึ้นอีกครั้งที่พระเยซูเจ้าบอกให้ “เหวี่ยงแหไปทางกราบเรือด้านขวา” (ยน 21:6) ทำให้พวกเขาจับปลาได้เป็นจำนวนมาก และพวกเขาจึงจำพระเยซูเจ้าได้
เมื่อบรรดาศิษย์มาถึงฝั่งก็เห็นพระเยซูเจ้าก่อไฟเตรียมอาหารไว้แล้ว พร้อมกับขอปลาที่เพิ่งจับได้เพิ่มจากบรรดาศิษย์ ชวนให้คิดถึงพิธีบูชาขอบพระคุณที่พระองค์ทรงเตรียมทุกสิ่งไว้พร้อม ชวนให้คิดถึงการเลี้ยงอาหารคนห้าพันคนทีเกิดขึ้น ณ บริเวณทะเลสาบแห่งนี้เช่นกัน
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว เป็นบทสนทนาของพระเยซูเจ้ากับเปโตรที่เราคุ้นเคยกัน คือการที่พระเยซูเจ้าถามเปโตรว่ารักพระองค์ไหมสามครั้งซึ่งชวนให้คิดถึงการปฏิเสธของเปโตรสามครั้งก่อนที่พระองค์จะถูกตรึงกางเขน แล้วพระองค์จึงบอกให้เปโตร “เลี้ยงดูแกะของเราเถิด” คล้ายกับว่าพระเยซูเจ้าเชื่อใจเปโตรเหมือนเดิม และฝากให้เปโตรดูแลแกะของพระองค์ ที่พระองค์รักและยอมมอบชีวิตให้
เมื่อไม่มีพระเยซูเจ้า เรามักจะกลับไปหาชีวิตเดิมๆ ของเรา (อย่างเปโตรคือการจับปลา) แต่เป็นพระเยซูเจ้าที่ทำให้ชีวิตเดิมๆ ของเราที่ไร้ค่านั้นเปลี่ยนไป พระองค์ทำให้ชีวิตของเรามีคุณค่า ยินดีรับผลงานจากชีวิตของเรา และพระองค์เรียกเราให้เปลี่ยนชีวิตเมื่อเราตอบรับรักพระองค์.
…ลาซารัส…