“เรารู้จักมัน และมันก็ตามเรา”
พระวรสารนักบุญยอห์นบทที่ 10 โดยรวมเป็นคำสอนเรื่องผู้เลี้ยงที่ดี โดยมีเหตุการณ์ที่ชาวยิวต่อต้านพระเยซูเจ้าแทรกเข้ามาเป็นช่วงๆ พระศาสนจักรนำคำสอนเรื่องผู้เลี้ยงที่ดีมาอ่านในวันอาทิตย์ที่สี่ของเทศกาลปัสกาทุกปีต่อเนื่องกัน ด้วยเหตุนี้เราจึงเรียกวันอาทิตย์ที่สี่ของปัสกาว่าเป็นวัน “ผู้เลี้ยงที่ดี” (Bonus Pastor)
ข้อ 27-30 ที่เราได้ฟังในวันอาทิตย์ของปีนี้เป็นส่วนหนึ่งของข้อความที่พระเยซูเจ้าตรัสหลังจากที่ชาวยิวกล่าวหาพระเยซูเจ้าว่ามีปีศาจสิงเพราะพวกเขาไม่ (พยายาม) เข้าใจสิ่งที่พระองค์สอน ชาวยิวเรียกร้องให้พระเยซูเจ้าสอนให้พวกเขาเข้าใจได้ แต่พระเยซูเจ้าบอกว่าถึงจะสอนอย่างไรพวกเขาก็ไม่ฟัง ไม่ใช่เพราะว่าพระเยซูเจ้าไม่ใช่ผู้เลี้ยงแกะ แต่เพราะพวกเขา “ไม่ใช่แกะของพระองค์”
“แกะของเราย่อมฟังเสียงของเรา” ยืนยันถึงธรรมชาติของผู้ที่เป็นของพระเยซูเจ้าว่าต้องฟังเสียงของพระองค์ นอกจากนี้แกะของพระเยซูเจ้าติดตามพระองค์ไม่ใช่เพราะแกะเหล่านั้นรู้จักพระเยซูเจ้า แต่เป็นพระเยซูเจ้าที่รู้จักแกะเหล่านั้น “เรารู้จักมันและมันก็ตามเรา” (10:27) แทนที่จะเป็นมันรู้จักเราและติดตามเรา
ความหมายที่สำคัญคือทุกครั้งในการติดตามพระเยซูเจ้า พระองค์เป็นฝ่ายเริ่มก่อนเสมอ เป็นพระองค์ที่รู้จักเราอย่างดี ส่วนเรา ถ้าตัวเราเป็นแกะของพระองค์เราจะฟังเสียงของผู้เลี้ยงและติดตามผู้เลี้ยงไป
พระเยซูเจ้าประทานชีวิตนิรันดรแก่ผู้ที่ติดตามพระองค์ ซึ่งไม่ได้หมายถึงการมีชีวิตอยู่โดยไม่ตาย หากแต่เป็นความปลอดภัยเมื่อได้อยู่กับพระเจ้าดังที่พระองค์ตรัสต่อไปว่า “ไม่มีใครแย่งชิงแกะเหล่านั้นไปจากมือเราได้” (10:28)
ผู้ที่ติดตามพระเยซูเจ้าไม่ใช่จะปลอดภัยในโลก บรรดาศิษย์พบเจอกับการต่อต้าน ความยากลำบาก การเบียดเบียน แม้กระทั่งการประหารชีวิต ในปัจจุบันคริสตชนก็พบเจอสิ่งเดียวกันในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป สภาพสังคมที่ไม่เอื้อต่อการใช้ชีวิต มาตรฐานศีลธรรมที่ตกต่ำ ความยากลำบากในการดำเนินชีวิต นโยบายเอื้อประโยชน์กับพรรคพวกมากกว่าความดีส่วนรวม ฯลฯ แต่พระเยซูเจ้ายืนยันถึงความปลอดภัยของวิญญาณหากเราฟังเสียงพระองค์ หากเราติดตามพระองค์
เราจะปลอดภัยในพระหัตถ์พระเจ้าตราบเท่าที่เราฟังเสียงของพระองค์และติดตามพระองค์.
…ลาซารัส…