“เราอยู่กับท่านทุกวันตลอดไปตราบจนสิ้นพิภพ”
พระวาจาวันนี้ไม่ใช่พระวาจาของวันอาทิตย์ปกติ (จริงๆ แล้วควรเป็นวันอาทิตย์ที่ 29 เทศกาลธรรมดา) แต่เป็นพระวาจาของวันแพร่ธรรมสากล ประเทศไทยของเราในฐานะที่เป็นประเทศมิสซังในความหมายที่ยังต้องมีการประกาศข่าวดีจึงจัดให้มีการภาวนาเป็นพิเศษ และพระวรสารวันนี้น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับเราทุกคนในการดำเนินชีวิตเพื่อประกาศข่าวดีแก่ผู้ที่ยังไม่รู้จักพระคริสตเจ้า
หัวข้อของวันแพร่ธรรมสากลปีนี้คือ “ผู้ประกาศข่าวดีแห่งความหวังท่ามกลางนานาชาติ” พระสันตะปาปากล่าวถึงการฉลองปีศักดิ์สิทธิ์ตามปกติครั้งแรกในสหัสวรรษที่สามนี้ เชิญชวนเราให้ไตร่ตรองว่าพระคริสตเจ้ายังคงเป็นเช่นเดิมเสมอไม่ว่าวันวาน วันนี้ และตลอดไป (ฮบ 13:8)
พระเยซูเจ้ามอบภารกิจสุดท้ายให้บรรดาศิษย์ไป “สั่งสอนนานาชาติให้มาเป็นศิษย์ของเรา ทำพิธีล้างบาปให้เขา… สอนเขาให้ปฏิบัติตามคำสั่งทุกข้อที่เราได้ให้แก่ท่าน” ซึ่งพระองค์ย้ำกับพวกเขาว่า “เราอยู่กับท่านทุกวันตลอดไปตราบจนสิ้นพิภพ”
พระองค์สัญญากับเราว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พระองค์ยังคงอยู่ด้วยเสมอ แม้พระองค์จะส่งบรรดาศิษย์ออกไปทั่วโลก แต่ไม่ใช่บรรดาศิษย์ที่กระทำภารกิจตามลำพัง เพราะพระเยซูเจ้ายังอยู่ด้วย พระองค์เป็นความหวังและแรงบันดาลใจของบรรดาศิษย์ในการประกาศข่าวดีตั้งแต่เมื่อสองพันปีที่แล้วจนถึงทุกวันนี้
ก่อนที่เราจะไปประกาศข่าวดีแห่งความหวัง บางที เราอาจต้องจุดไฟแห่งความหวังในชีวิตของเราก่อน เริ่มต้นด้วยการภาวนา เป็นพิเศษการภาวนาที่มีพื้นฐานมาจากพระวาจาของพระเจ้าโดยเฉพาะเพลงสดุดี เพลงสดุดีสอนเราให้มีความหวังท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง สอนเราให้เห็นเครื่องหมายแห่งความหวังท่ามกลางพายุร้าย และให้เรามั่นคงในการเป็นผู้ประกาศข่าวดีแห่งความหวัง
อย่าลืมว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พระเยซูเจ้ายังคงอยู่กับเสมอ “ทุกวันตราบจนสิ้นพิภพ”.
…ลาซารัส…