เดือนตุลาคมกำลังจะผ่านไป ตลอดเดือนนี้บรรดาคริสตชนได้ร่วมใจกันสวดสายประคำ ซึ่งไม่ใช่สำหรับคนไทยเท่านั้น แต่สำหรับคริสตชนทั่วโลกได้ร่วมกันแสดงความเชื่อศรัทธาต่อแม่พระผ่านการสวดสายประคำ พ่อได้เดินทางไปแสวงบุญที่สักการสถานแม่พระที่เมืองลูร์ดและฟาติมา ทั้ง 2 แห่งยังคงมีผู้คนมากมายเดินทางไปแสวงบุญที่นั่น ต่างคนต่างเดินทางมาจากที่ต่างๆ โดยไม่ได้นัดหมาย เมื่อถึงเวลาที่กำหนดไว้ในช่วงเย็นและช่วงค่ำของแต่ละวัน ก็จะมีคนจำนวนมากออกมารวมตัวกันสวดสายประคำ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันทุกวัน บางคนเดินทางไปที่นั่นเพียงแค่วันเดียวร่วมสวดสายประคำ แห่แม่พระ ตอนเช้าก็เดินทางกลับ ที่นั่นเป็นสถานที่ของการรวมตัวของผู้เดินทางแสวงบุญที่ไม่ได้รู้จักกัน ไปร่วมมิสซาด้วยกัน สวดสายประคำพร้อมกัน บทเพลงที่ขับร้องก็เป็นทำนองเพลงเดียวกัน แต่มีเนื้อร้องหลากหลายภาษา พอถึงช่วงที่เป็นท่อนรับที่มีเนื้อร้องเหมือนกันทุกคนก็พร้อมใจกันเปล่งเสียงออกมา เป็นบรรยากาศแห่งความชื่นชมยินดี
หลังจากสิ้นสุดเดือนนี้แล้ว ขอความร่วมมือจากพี่น้องได้รวบรวมจำนวนสายประคำที่ได้สวดตลอดทั้งเดือน และส่งข้อมูลเพื่อจะรวบรวมและส่งต่อไปอย่างผู้รับผิดชอบ การตั้งเป้าหมายในทางปริมาณเป็นการกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือร่วมใจ จำนวนที่สวดมากก็คงจะเป็นการสวดด้วยความตั้งใจของพี่น้องด้วย
ในสัปดาห์หน้าเราก็จะเข้าสู่เดือนพฤศจิกายน ซึ่งโดยปฏิทินพิธีกรรมของพระศาสนจักรถือว่าเป็นเดือนสุดท้ายของปีพิธีกรรม เพราะว่าต้นเดือนธันวาคมของทุกปีก็จะเข้าสู่เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้า เพื่อเตรียมจิตใจก่อนการฉลองพระคริสตสมภพ ซึ่งเป็นถือเป็นช่วงเริ่มต้นปีพิธีกรรม สำหรับในช่วงท้ายของปีพิธีกรรมเช่นนี้ พระศาสนจักรเชิญชวนให้เราได้คิดถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ทั้งที่เป็นส่วนตัวของแต่ละคนและส่วนรวมของทุกคน สรรพสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้าง ทำให้คิดถึงช่วงเวลาที่จะต้องไปอยู่ต่อหน้าพระเจ้า หลังจากความตาย การพิพากษาที่ทุกคนจะต้องรับการตัดสินในสิ่งที่ตนเองได้กระทำในขณะที่มีชีวิต ข้อความจากพระพระคัมภีร์ในพิธีกรรม เดือนนี้จึงเป็นเรื่องของการเชิญให้ทุกคนได้ตระหนักถึงความจริงของชีวิตสำหรับวันเวลาและโอกาสที่วันหนึ่งก็จะถึงจุดสิ้นสุด เป็นพระเมตตาของพระเจ้าที่ให้เราแต่ละคนได้รับรู้และมีช่วงเวลาเพื่อการปรับปรุงแก้ไขและเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้น
การสวดภาวนายังคงมีความสำหรับเราทุกคน พี่น้องบางคนได้สวดภาวนาและให้ความสำคัญกับการสวดเป็นประจำทุกวัน สำหรับบางคนยังไม่ค่อยได้สวด ยังไม่อยากสวดและไม่คิดจะสวด บางคนมองเป็นเรื่องไร้สาระ แต่การสวดภาวนาก็เป็นวิธีการเดียวธรรมดาง่ายเพื่อติดต่อกับพระเจ้า คนที่สวดภาวนาเสมอเขาจะรับรู้ว่าในที่สุดแล้วเขาจะได้พบกับพระเจ้า ส่วนคนที่ไม่สวดไม่คิดถึงพระเจ้าเลย เขาคงจะแปลกใจที่ไม่ได้พบกับพระเจ้า และก็คงจะเสียใจที่พลาดโอกาสการใช้เวลาในชีวิตบนโลกนี้เพื่อใกล้ชิดกับพระเจ้า ขอให้เราทุกคนยังคงมีความเชื่อมั่นคงและยังคงสวดภาวนาอย่างสม่ำเสมอ.
สวัสดี…พ่ออดิศักดิ์