สร็จจากงาน ถึงบ้านเกือบสามทุ่มเข้าไปแล้ว   เขาเดินเข้าบ้านที่ดูเงียบเหงา เนื่องจากภรรยาเสียชีวิตไป เมื่อปีกลาย ทิ้งลูกชายคนเดียวไว้ กับเขาให้หาเลี้ยงลูกตามลำพังดีว่าเจ้าหนูน้อยพอจะช่วยตัวเองได้บ้าง
 	อาหารก็กิน อาหารปิ่นโตที่ผูกประจำ หากินเองได้ทำให้ ไม่เป็นภาระมากมาย นัก      เข้ามาในบ้านเหงื่ออาบแก้มยังไม่ทันได้พัก ผู้เป็นพ่อเห็นหน้าลูกชายวัยซน ที่รอรับเอ่ยปาก ทัก
 	” พ่อครับวันนี้ทำงานเหนื่อยมั้ยครับ “
 	” เหนื่อยสิลูกแล้ววันนี้ทำการบ้านเสร็จ แล้วเหรอ “
 	ผู้เป็นพ่อตอบเนือยๆ พร้อมกับ ถาม ต่อด้วยความเคยชิน
 	” เสร็จหมดแล้วครับ คือ ผม มีเรื่องบางอย่างอยากจะถามพ่อน่ะพ่อว่างหรือยังครับ “
 	ลูกชายตัวน้อย ถาม ต่อ
 	”เดี๋ยวพ่อจะไปอาบน้ำ หาข้าวกินข้าวซักหน่อยแล้วคงจะเข้านอนวันนี้เหนื่อยเหลือเกิน ว่าแต่แก จะถามอะไรพ่อเหรอ “ผู้เป็นพ่อ ถามด้วยน้ำเสียงอ่อนล้า
 	” คือผมอยากรู้ ว่าพ่อทำงานได้ ค่าจ้างวันละเท่าไรครับ “ลูกชาย ถามด้วยน้ำเสียงใสซื่อ
 	เค้าหันมามองหน้าลูกชาย พร้อมกับ ขมวดคิ้วด้วย ความสงสัยแล้วผู้เป็นพ่อ ก็ตอบไปว่า
 	” วัน ล่ะ สี่ร้อย “
 	” งั้นผม ขอยืม ตังค์ พ่อซักสองร้อยได้ มั้ยครับ “ลูกชายตัวน้อยเอ่ยปากด้วยสายตาวิงวอน
 	” หา แกว่าไง นะ “ผู้เป็นพ่อ ขึ้นเสียงด้วยอารมณ์ขุ่นมัว
 	ก่อนที่จะ หันมา พูดกับลูกชายด้วยเสียงเข้มขึ้น กว่าเดิม
 	” นี่ฟังนะ แกคิดว่า เงินทอง หาได้ง่ายๆ เหรอกว่าพ่อจะได้เงิน สี่ร้อย บาท
 	ต้องทำงานเหนื่อยตั้งแต่เช้ายันค่ำแต่พอกลับมาถึงบ้าน เจอแกรอขอยืมเงิน
 	พ่อง่ายๆแบบนี้นี่นะแกลองไปคิดดูให้ดีสิว่าแกทำประโยชน์อะไรให้พ่อบ้าง
 	พ่อถึงจะต้องให้ เงินสองร้อยนี่ให้แก ยืม”
 	เด็กชายยืนนิ่ง มองหน้าพ่อ ไม่มีเสียงหลุดออก จาก ปาก แต่น้ำตาไหลซึมลงอาบร่องแก้มทั้ง สองข้าง
 	ก่อนที่จะหัน หลังเดินกลับห้อง ตัวเองอย่างซึมเซา
 	หลังจากอาบน้ำเสร็จ แวะเข้าครัว หาข้าวปลากินเรียบร้อย
 	เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ เดินไป ที่ ระเบียงความรู้สึกเคร่งเครียดที่ได้รับ
 	มาจากงานนอกบ้าน เริ่มผ่อนคลาย คิดไปถึงอดีตที่ผ่านและงานที่ทำมาทั้งวัน
 	แล้วก็ ย้อน กลับคิดไปถึงลูกชายตัวน้อยลูกเป็นเด็กดี
 	ไม่เคยเกเร ไม่เคยเอ่ยปากขอเงินเพิ่มนอกจากเงินค่าขนมที่เขาให้ประจำวันเท่านั้น แต่วันนี้ทำไมถึงเอ่ยปากยืมเงินเมื่อสักครู่ เขา เหนื่อยเกินไปหรือเครียดเกินไปหรือป่าวถึงได้ใช้อารมณ์กับ ลูกไปอย่างนั้น เมื่อได้คิด เขาดับบุหรี่ แล้วเดินไปที่ห้องลูกชายไฟในห้องนอนดับแล้ว
 	เมื่อเปิดประตูเข้าไปเอื้อมมือเปิดไฟในห้อง หนูน้อยนอนตะแคง
 	หน้าตายังคงลืมจ้องมองมาที่ประตูแก้มที่แนบกับหมอน ชุ่มด้วยน้ำตาพร้อมเสียงสะอื้นเบาๆอยู่คน เดียว
 	เขาเดิน ไปนั่งที่ขอบเตียงมือลูบผมลูกชายเบาๆ พร้อมกับ เอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเครือ จุกคอ
 	” พ่อขอโทษนะลูก เมื่อกี้พ่อเหนื่อยมามากเลยใช้อารมณ์ กับลูกมากไปหน่อย    จริงๆตะกี้พ่อไม่ได้ถามลูกด้วยซ้ำว่า ลูกอยากยืม เงินพ่อไปทำไม ลูกอาจจะมีเหตุจำเป็นที่จะ ต้องใช้เงินก็ได้ เงินแม้ว่าจะหาได้ลำบาก
 	ไม่ได้ได้มา ง่ายๆแต่ถ้าลูกมีเหตุผลเพียงพอ พ่ออาจจะให้ยืม ก้อได้ เพราะว่า ลูกน่ะสำคัญสำหรับพ่อเหนือ สิ่งอื่นใด และพ่อรักลูกจ้ะ “
 	” ว่าแต่ ไหนลูกลองบอกพ่อสิว่า ลูกอยากยืม เงินสองร้อยไปทำ อะไร ”   ผู้เป็นพ่อถามลูกชายที่มองหน้าพ่อนิ่ง ด้วยน้ำเสียงปราณี เต็มเปี่ยมด้วยความรัก ลูกชายตัวน้อยส่งเสียงสะอื้นจากลำคอ
 	 
 	” พ่อครับ           ตั้งแต่แม่ ตายผมเห็นพ่อต้องทำงาน หนักเพื่อหาเงินทุกวัน จนไม่ได้พัก ไม่ได้อยู่กับผมเลย เราแทบไม่มีเวลาได้อยู่ด้วยกัน  ผมเลย ค่อยๆเก็บค่าขนมของผมไว้  ตลอดมาจนถึงตอนนี้    ผมเก็บได้สองร้อยบาทแล้ว แต่พอผมรู้จากพ่อ ว่า พ่อทำงานได้ ค่าจ้างวันล่ะสี่ร้อย  ผมจึงอยากยืมพ่อเพิ่มอีกสองร้อยให้เป็นสี่ร้อย  เพื่อจะได้ใช้เป็นค่าจ้างให้พ่อได้พัก ได้อยู่กับผม ซักวันนึง ครับ”
 	 
 	เงินทอง อาจจะจำ เป็นต่อการดำรงชีวิต
 	แต่ ครอบครัว ยังคงต้องการ ความรัก ความอบอุ่น และเวลาที่มีให้ แก่กัน
 	” อย่าห่วงงานจนลืม ครอบครัว และ คนที่คุณรัก”