วันที่ 50 หลังจากการสมโภชปัสกา สำหรับบรรดาชาวยิวคือเทศกาลฉลองการเก็บเกี่ยวพืชผลแรก และการนำมาถวายแด่พระเจ้าที่พระวิหาร เป็นช่วงเวลาเดียวกันหลังจากที่พระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์ บรรดาอัครสาวกมารวมตัวกันที่กรุงเยรูซาเล็ม หนังสือกิจการอัครสาวกบันทึกเรื่องราววันนั้นไว้ว่า ขณะที่บรรดาอัครสาวกชุมนุมกันในบ้าน พวกเขาได้ยินเสียงเหมือนเสียงลมพัด เห็นเปลวไฟลอยอยู่เหนือศีรษะของแต่ละคน ทุกคนได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยม พวกเขาเริ่มพูดภาษาต่างๆตามที่พระจิตเจ้าให้พูด การเสด็จลงมาของพระจิตเจ้าเป็นไปตามที่พระเยซูเจ้าได้บอกกล่าวไว้ก่อนหน้า พระองค์บอกกับบรรดาศิษย์ว่า หลังจากที่พระองค์เสด็จจากพวกเขาไปแล้ว จะมีผู้หนึ่งเสด็จมาประทับกับพวกเขา พระจิตเจ้าทรงเสด็จมาทันทีเพื่อสานต่อพันธกิจของพระเยซูเจ้า ทรงค้ำจุนช่วยเหลือบรรดาศิษย์ของพระองค์ รวมทั้งบรรดาผู้มีความเชื่อ ทรงทำให้อาณาจักรของพระเจ้าดำเนินสู่ความสมบูรณ์
สำหรับบรรดาอัครสาวก เมื่อพระจิตเจ้าเสด็จลงมาประทับอยู่ในชีวิตของพวกเขา ได้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหลายอย่าง จากความหวาดกลัว กลัวตาย พระจิตเจ้าทรงดลใจให้มีความกล้าหาญ จากการที่ไม่กล้าเปิดเผยตัวเองว่าเป็นศิษย์ของพระเยซูเจ้า พวกเขาออกไปบอกเล่าเรื่องราวการตายและการกลับคืนพระชนมชีพของพระองค์ พวกเขาได้ใช้ความสามารถที่ตนมีพูดและสอนทำให้คนต่างชาติ ต่างภาษา เข้าใจเรื่องราวชีวิตของพระเยซูเจ้า นอกจากทำให้บรรดาสาวกเปลี่ยนแปลงแล้ว พระจิตเจ้ายังประทับอยู่กับคำพูด การแสดงออก เมื่อผู้คนที่ได้ยินเรื่องราวจากจากบรรดาสาวก พระจิตเจ้าทรงทำให้ใจของผู้ฟังเหล่านั้นเปิดรับ ช่วยให้เกิดความเข้าใจ ยอมรับและเกิดความเชื่อ ที่สุดก็ทรงดลใจพวกเขาขอรับศีลล้างบาป หากจะมองดูย้อนกลับไป พระเยซูเจ้า ได้เสด็จมาเปิดเผยเรื่องราวของพระเจ้าให้ผู้คนรู้จักพระเจ้า ช่วงเวลาชีวิตของพระเยซูบนจบลงพร้อมการส่งต่อภารกิจไปยังพระจิตเจ้า ซึ่งทรงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเรื่อยมาจนถึงยุคสมัยของเรา
ในวันสมโภชพระจิตเจ้านี้ ยังถูกเรียกว่าเป็นวันเกิดของพระศาสนจักร เนื่องจากการเสด็จมาของพระจิตเจ้าทรงทำให้เกิดการกลับใจ เกิดกลุ่มคริสตชน การประทับอยู่และคุ้มครองทำให้พระศาสนจักรเติบโตเรื่อยมา พวกเราอาจจะไม่ค่อยได้ตระหนักถึงความสำคัญเรื่องนี้และไม่ได้รู้สึกว่าพระจิตเจ้ามีบทบาทอะไรมากนักในชีวิต จะคิดพระจิตเจ้าก็ในวันที่รับศีลกำลัง ตามที่ได้เรียนคำสอนที่บอกว่า ทุกคนเมื่อโตแล้วจะต้องรับศีลกำลัง เพื่อพระจิตเจ้าจะเสด็จมาประทับอยู่ด้วย ทุกอย่างก็ลืมไปหมดแล้ว แต่ว่าในสภาพความเป็นจริง พระจิตเจ้ายังทรงเป็นผู้แนะนำ นำทางและคอยปกป้อง คุ้มครองพวกเราทุกคน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสาวกเมื่อได้รับพระจิตเจ้า กิจการอัครสาวกเล่าว่า พวกเขาพูดภาษาต่างๆ ทำให้คนฟังเข้าใจพระเจ้า พระจิตเจ้าทรงร่วมเป็นหนึ่งเดียวในรูปแบบชีวิตที่เป็นไปตามความแตกต่างของเรา อายุ อาชีพ ทุกการกระทำ พระจิตเจ้าทรงดลใจให้เราประพฤติปฏิบัติ เพื่อคนทั่วไปได้เห็นการทำงานของพระเจ้าและขอพระองค์ได้ทรงนำทางพวกเราเพื่อแสวงหาพระเจ้าต่อไป.
สวัสดี…พ่ออดิศักดิ์